วันพุธ ที่ 2 เมษายน 2568 14:35น.

YLG ปรับเป้าหมายทองคำ 3,200 ดอลลาร์ แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนต่อเนื่อง ระยะสั้นจับตาทรัมป์ประกาศแผนภาษีตอบโต้

31 มีนาคม 2025

       วายแอลจีชี้ ราคาทองคำยังมีโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง แม้จะปรับตัวขึ้นมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 3,150-3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์  ขณะที่ทองคำแท่งของไทยชนเป้า 50,000 บาทต่อบาททองคำ ขยับเป้าหมายเป็น 51,000-51,500 บาทต่อบาททองคำ

         เปิดปัจจัยหนุนทองให้ราคาเป็นขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง มาจากความเป็น Safe Haven โดยเฉพาะความกังวลTrade War ทั่วโลก จากนโยบายภาษีตอบโต้ของทรัมป์ ที่กำลังจะประกาศในวันที่ 2 เมษายนนี้ พร้อมด้วยปัจจัยหนุนสำคัญยังอยู่ครบ ทั้งธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำต่อเนื่อง, ความไม่สงบในตะวันออกกลางยังน่าเป็นห่วง และ SPDR เดินหน้าตุนทองคำ YTD +59.42 ตัน

       แนะหน้าใหม่เงินทุนต่ำลงทุนทองคำผ่าน Gold Wallet บนแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ซื้อทองเริ่มต้นเพียง 0.1 ออนซ์ และแอป Get Gold โดย YLG สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ เริ่มต้นเพียง 100 บ. สามารถเทรดเพื่อเก็งกำไร และลงทุนแบบ DCA

        นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าราคาทองคำปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนทะลุเป้าหมายที่วายแอลจีให้ไว้ที่ 3,000-3,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ล่าสุดวายแอลจี จึงได้ปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 3,150-3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็นราคาเป้าหมายทองคำแท่งไทยที่ 51,000-51,500 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณจากค่าเงินบาท 34 บาทต่อดอลลาร์) โดยระยะสั้นราคาทองคำได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจากความกังวล “นโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariff)” ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมประกาศในวันที่ 2 เมษายนนี้ ในขณะที่หลายประเทศได้ส่งสัญญาณตอบโต้คืนเช่นกัน อาทิ สื่อของรัฐบาลจีน โพสต์ข้อความ “หากสหรัฐฯ ตั้งใจทำลายผลประโยชน์ของจีน จะตอบโต้อย่างเด็ดขาด” เช่นเดียวกับทางด้านคลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ประกาศ “จะใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้แบบครอบคลุม ในวันที่ 3 เมษายน” ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดการปรับฐานอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนบางส่วนจึงได้นำเงินลงทุนมาพักไว้ในสินทรัพย์ปลอดภัยโดยเฉพาะทองคำ และรวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี หากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงในวันประกาศแผนภาษีดังกล่าว อาจต้องระมัดระวังการถูกขายทำกำไร หรือการ Sell on fact สลับออกมาด้วยเช่นกัน

       ขณะเดียวกันปัจจัยบวกด้านอื่น ๆ ที่สนับสนุนทองคำในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง ทั้งการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงการเข้าซื้อทองคำของกองทุน ETF ทองคำขนาดใหญ่ในปีนี้ โดยเฉพาะ “SPDR Gold Shares” ที่กลับมาเข้าซื้อต่อเนื่องในปี 2568 รวมแล้วมากถึง +59.42 ตัน รวมถึงความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ตะวันออกกลางที่ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ล่าสุด ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ขู่ทางอิหร่านว่าจะทำการทิ้งระเบิดและใช้มาตรการภาษีรอง (Secondary tariff) หากอิหร่านไม่ยอมบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์

         อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของทองคำในปีนี้ถือว่าปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบไม่มีสลับพักฐาน จึงอาจทำให้มีข้อจำกัดในการปรับขึ้นต่อ แต่ยังเห็นว่าราคาทองคำยังเดินหน้าสู่ทิศทางขาขึ้น เนื่องจากปัจจัยบวกที่กล่าวมาข้างต้นยังคงแข็งแกร่ง สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น ควรรอให้ราคาย่อลงที่แนวรับ 3,074-3,055 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่หากหลุดบริเวณดังกล่าวแนะนำให้ระมัดระวังการพักฐานลงในระยะกลาง ส่วนทองไทยแนะนำเข้าซื้อได้ที่ 49,400-49,000 บาทต่อบาททองคำ

        อย่างไรก็ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำแต่มีเงินลงทุนเริ่มต้นจำกัด YLG ได้เปิดให้บริการ Gold Wallet บริการซื้อขายทองคำแท่ง 99.99% ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ด้วยราคาเรียลไทม์ ซื้อขายทองต่อครั้งด้วยขั้นต่ำ 0.1 ออนซ์ สูงสุดแบบเต็มเพดาน ได้สูงสุดถึง 700 ออนซ์ หรือ 20 กิโลกรัม พบว่ากลุ่มนักลงทุนอายุต่ำกว่า 30 ปี เริ่มเข้ามาลงทุนมากเป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่มอายุ 30-40 ปี และอันดับ 3 คือ กลุ่มอายุ 50–60 ปี ส่วนอายุ 60 ปีขึ้นไป จะลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่นน้อยที่สุด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่นิยมลงทุนกับทองคำแท่งที่จับต้องได้มากกว่าการซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้น

        สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการลงทุนระยะยาวนั้นแนะนำสะสมแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน DCA (Dollar-Cost-Average) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้นักลงทุนสามารถสร้างวินัยการสะสมทอง และเข้าถึงราคาทองได้หลากหลาย อีกทั้งปัจจุบันยังสามารถตั้งเวลาซื้อล่วงหน้าได้อีกด้วย สำหรับนักลงทุนมือใหม่วายแอลจีแนะนำแอปพลิเคชัน Get Gold by YLG ที่วายแอลจีเปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำโดยใช้เงินลงทุนเพียง 100 บาท ได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากตอบโจทย์การลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ตโฟน และมีความน่าเชื่อถือ ด้านความปลอดภัย สามารถทำกำไรได้จริง โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อ 1 วัน

 

 


คลิปวิดีโอ