WONTECH (วอนเทค) ผู้นำด้านความงามและการแพทย์จากประเทศเกาหลีใต้ ขยายฐานทัพตั้ง WONTECH ASIA (วอนเทค เอเชีย) สำนักงานแห่งใหม่ในประเทศไทย ปั้นให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจและ Training Hub ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมรองรับกำลังซื้อมหาศาล ส่งนวัตกรรม Oligio (โอลิจิโอ้) โปรแกรมยกกระชับผิวหน้าและลำคอ ด้วยคลื่นวิทยุความแรงสูง ลุยตลาดความงามชิงแชร์รวมกว่า 6 หมื่นล้านบาท ตอบโจทย์คีย์เทรนด์ความงามโลก Skin Quality เน้นการป้องกันความเสื่อมด้วยการดูแลแบบองค์รวมร่วมกับการดูแลความงามอย่างเป็นธรรมชาติแบบเฉพาะบุคคล ตั้งเป้ากวาด 250 ล้านบาทในปี 2567 และแตะ 1,000 ล้านบาท ใน 3 ปี
นายไอแซค จาง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วอนเทค เอเชีย จำกัด เผยว่า กว่า 25 ปีที่วอนเทคดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตเครื่องมือแพทย์โดยเน้นพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์เกี่ยวกับความงามในทุกมิติที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านความงามเชิงฟื้นฟูควบคู่เชิงป้องกันของคนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเลเซอร์เครื่องยกกระชับผิว พร้อมทั้งเครื่องรักษาเส้นเลือดขอด เครื่องรักษาต่อมลูกหมาก โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีการพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ มากกว่า 50 เครื่อง และจำหน่ายไปกว่า 45 ประเทศทั่วโลก และมีสำนักงานใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา ล่าสุดได้เข้ามาตั้งสำนักงานแห่งใหม่ในไทย หลังจากศึกษาตลาดในประเทศไทยเชิงลึกกว่า 10 ปี ทำให้เห็นโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ และศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจและ Training Hub ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะความก้าวหน้าด้านการแพทย์ของไทยที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และมีความสะดวกในด้านการเดินทางจากทุกประเทศในภูมิภาค รวมถึงเทรนด์ความงามของไทยและทั่วโลกให้ความสำคัญกับ Skin Quality จึงถือโอกาสนี้เปิดตัว Oligio (โอลิจิโอ้) โปรแกรมทรีตเมนต์ยกกระชับใบหน้าและลำคอ ด้วยคลื่นวิทยุความแรงสูง (Monopolar RF) ที่ได้รับรางวัล “2024 Korea customer preference index No.1” และ Oligio ผ่านการรับรองจาก FDA (อ.ย.) ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และประเทศไทย
“ตลาดเวชศาสตร์ความงามไทยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 6 หมื่นล้านบาท ทำให้เราเห็นศักยภาพของเมืองไทย ประกอบกับเทรนด์ความงามที่ยังคงให้ความสำคัญ Skin Quality ซึ่งจากงบการตลาดในแต่ละปี WONTECH ให้ความสำคัญกับ Research & Development เป็นหลัก โดยทุ่มงบ 70% เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ทุกปี ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและแพทย์ ส่วนงบ 30% เน้นทำการตลาดสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ และกิจกรรมที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถเจาะกลุ่มทาร์เก็ตที่กังวลเรื่องผิวที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น โดยนำร่องด้วย โอลิจิโอ้ เพื่อตอบโจทย์ตลาดไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยความนิยมด้านการดูแลผิวหน้าอยู่ในกลุ่มยกกระชับใบหน้าและกลุ่มเลเซอร์แบบไม่ต้องพักฟื้นให้ความสวยแบบเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้อีกหนึ่งกลยุทธ์ในการทำตลาดประเทศไทย คือ การเร่งสร้างเครือข่ายพันธมิตร เพื่อกระจายนวัตกรรมต่างๆ ของบริษัทไปยังกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง ควบคู่กับการสื่อสารถึงคุณสมบัติของนวัตกรรมไปยังช่องทางสื่อสารครบทุกมิติแบบ 360 องศา โดยคาดว่าภายในปีนี้ จะสามารถทำยอดขาย 250 ล้านบาท และตั้งเป้า 1,000 ล้านบาท ภายในปี 3 ปี” นายไอแซค จาง กล่าว
การตั้งสำนักงานแห่งใหม่ในไทยร่วมกับคีย์ซัคเซส (Key Success) ที่แข็งแกร่ง ทั้งการเป็นบริษัทแรกที่คิดค้นและผลิตนวัตกรรม Monopolar RF ครบวงจรในประเทศเกาหลี โดยเป็นทั้งผู้ผลิต ประกอบและจัดจำหน่าย โดยเฉพาะการคิดค้นนวัตกรรม Cooling System ซึ่งเป็นลิขลิทธิ์เฉพาะที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้ และซอฟต์แวร์ที่มีความเสถียร ทำให้แบรนด์ช่วงชิงความได้เปรียบทางการแข่งขันในระดับโลกทางด้านนวัตกรรม และราคาให้กับแบรนด์ โดยในปีนี้ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งทางการตลาด 25% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เลเซอร์ Monopolar RF
นางสาวรัตมา กำธรเจริญ ผู้จัดการฝ่ายด้านธุรกิจ บริษัท วอนเทค เอเชีย จำกัด กล่าวว่า เทรนด์ Natural Beauty ความงามอย่างเป็นธรรมชาติและงานผิว ยังคงเป็นเมกะเทรนด์ ซึ่งปัจจุบันแนวคิดด้านความงามเปลี่ยนสู่การยอมรับตัวตนของตนเองมากขึ้นประกอบกับความงามในแบบเอเชียได้รับความนิยมมากขึ้น นำไปสู่ เทรนด์ความงามเชิงฟื้นฟูควบคู่การป้องกัน โดยเฉพาะการดูแลผิวที่คำนึงถึงความเรียบเนียน ชุ่มชื้นและสีผิวสม่ำเสมอ รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคในกลุ่มผู้หญิงที่เปลี่ยนไปสู่การเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยและในกลุ่มผู้ชายหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดความงามเติบโตและมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับนวัตกรรมความงามเชิงฟื้นฟูควบคู่การป้องกันที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของตลาดไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ กลุ่มยกกระชับใบหน้า และกลุ่มเลเซอร์ ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เนื่องจากสามารถแก้ไขข้อกังวลได้เป็นอย่างดี สร้างสรรค์ความงามอย่างเป็นธรรมชาติ และสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มีความแอคทีฟ ชอบทำกิจกรรมที่หลากหลายแบบไม่มีข้อจำกัด รวมทั้งเติมเต็มความต้องการในกลุ่มที่ชอบการมีดูแลให้มีผิวดีโดยใช้เวลาไม่นานในการดูแลแต่ละครั้ง ไม่ชอบความเจ็บและการพักฟื้นจากการศัลยกรรม รวมทั้งผู้ที่ไม่ชอบฉีดสารเข้าใบหน้าอีกด้วย
จากข้อมูลระบุว่าเมื่ออายุ 20 ปี คอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่ช่วยให้ผิวหนังมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น จะเริ่มสลายแต่ในขณะเดียวกันร่างกายยังสามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนได้อย่างสมดุลแต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายอาจผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ทำให้เกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย นอกจากนี้ในวัย 30 ปีขึ้นไป เราจะสูญเสียคอลลาเจน 1% ทุกปี รวมถึงอนุมูลอิสระต่างๆ อาทิ แสงแดด PM2.5 สามารถส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อผิวในหลายด้าน โดยเฉพาะต่อสารเคลือบเซลล์ (extracellular matrix; ECM) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของ ECM คือ เส้นใยคอลลาเจน ดังนั้นการป้องกันริ้วรอยแรกแห่งวัยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง