ยูนิเวนเจอร์ฯ เผยผลประกอบการไตรมาส 2/2566 (1 มกราคม 2566 – 31 มีนาคม 2566) ผลกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ อยู่ที่ 510 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 4,787 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 29%
นายกำพล ปุญโสณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาส 2/2566 (1 มกราคม 2566 – 31 มีนาคม 2566) ว่า มีรายได้รวม 4,787 ล้านบาท โดยเป็นรายได้ที่มาจากการลงทุนในธุรกิจพลังงาน 2,755 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57% ของรายได้รวม รายได้ที่มาจากการลงทุนในธุรกิจตู้แช่เชิงพาณิชย์ 187 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4% ของรายได้รวม รายได้จากการลงทุนในธุรกิจที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้าง 290 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6% ของรายได้รวม รายได้ที่มาจากธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 409 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9% ของรายได้รวม และรายได้จากการลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมและอื่นๆ 1,146 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24% ของรายได้รวม โดยมีกำไรจากการดำเนินงานปกติหลังหักกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของบริษัทร่วม 88 ล้านบาท
“หลังจากที่บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างในการดำเนินธุรกิจและการลงทุน ทั้งในกลุ่มธุรกิจด้านพลังงาน อุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้บริษัทฯ มีความสมดุลในการรับรู้รายได้ทั้งจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและรายได้จากการลงทุนที่มีความสม่ำเสมอในธุรกิจที่มีศักยภาพ (Recurring Income) ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้เข้าลงทุนเพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) (STI) ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในธุรกิจที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้าง โดยสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่สม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการดำเนินธุรกิจของ STI ในงบการเงินรวมของบริษัท
โดยในปีนี้ เรายังมุ่งเน้นในเรื่องการปฏิรูปองค์กร (TRANSFORMATION) เพื่อพัฒนาความเชี่ยวชาญของบุคคลากร เพิ่มมูลค่าของธุรกิจ และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยังมีโครงสร้างทางการเงินที่พร้อมลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพเพื่อสร้างความสมดุลของ Investment Portfolio ตามที่บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้” นายกำพล กล่าว