วันพุธ ที่ 25 กันยายน 2567 16:14น.

TKN เปิด 3 กลยุทธ์ ดันผลงานปี 66 โต 15% 

20 มีนาคม 2023

         เถ้าแก่น้อย เปิด 3 กลยุทธ์สร้างการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย, เพิ่มช่องทางการขายใหม่และเดินหน้านโยบาย “3GO” ต่อเนื่อง พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิเติบโต Double Digits แย้มเตรียมทบทวนการเปิดสาขา Taokaenoi Land หนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญ เพื่อดึงดูดเม็ดเงินนักท่องเที่ยวต่างชาติ 

        นายจิระพงษ์ สันติภิรมย์กุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า เป้าหมายการดำเนินงานปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิเติบโตเป็นเลขสองหลัก (Double Digits) ผ่านแผนงานการขับเคลื่อนธุรกิจทั้งในและต่างประเทศผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ (1.) พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย (Product Mix) เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีแผนออกสินค้าใหม่ด้านนวัตกรรมเพิ่มมากขึ้นซึ่งเป็นกลุ่มที่มีมาร์จิ้นสูง โดยเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มสาหร่าย (Seaweed) ไม่ต่ำกว่า 10 รายการ (SKUs) เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค และผลิตภัณฑ์นอกเหนือกลุ่มสาหร่าย (Non-Seaweed) ได้แก่ เครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ “จัสท์ดริ้งค์ (Just Drink)” ซึ่งจะมีรสชาติใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาไม่ต่ำกว่า 2-3 รายการ (SKUs)  

        (2.) เพิ่มช่องทางการขายใหม่ทั้งในและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นขยายช่องทางร้านค้าท้องถิ่น (Traditional Trade) อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปัจจุบันตลาดในประเทศมีจำนวน Traditional Trade เพิ่มขึ้นมาอีกกว่า 1,000 ร้านค้า เพื่อกระจายสินค้าเข้าสู่ผู้บริโภค ส่วนตลาดต่างประเทศได้มีการจัดกิจกรรมออนไลน์ โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์(Influencer) ของแต่ละประเทศเข้ามาทำกิจกรรมร่วมด้วย

        (3.) เดินหน้านโยบาย “3GO” ต่อเนื่อง ประกอบด้วย “GO Firm” ปรับองค์กรให้กระชับ (Lean) คล่องตัวและรวดเร็วขึ้น เพื่อลดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ “GO Broad” หรือการขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้นและมีคุณค่า ผ่านการพัฒนาสินค้านวัตกรรมกลุ่มใหม่ๆ (Innovation Food) เข้าสู่ตลาด รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้ามากขึ้น และ “Go Global” การขยายตลาดในต่างประเทศที่มีศักยภาพ ผลักดันยอดขายให้เติบโตต่อเนื่อง 

        รองกรรมการผู้จัดการ TKN กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นับเป็นปัจจัยเชิงบวกที่สำคัญต่อการเติบโตบริษัทฯ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนหรือนักท่องเที่ยวชาติประเทศอื่นๆ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในหมวดต่างเพิ่มมากขึ้น อาทิ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดของฝาก ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้กลับมาเปิดสาขา Taokaenoi Land อีกครั้งหนึ่ง โดยเริ่มที่เอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟร้อนท์ (Asiatique The Riverfront) ซึ่งเป็นศูนย์การค้าเปิดโล่งขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้ ก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ร้าน Taokaenoi Land นับเป็นร้านของฝากแบบ One Stop Shopping และถือเป็นหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องซื้อของฝากก่อนกลับประเทศไปทุกครั้ง  

        “นับตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมา มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรามีการผลักดันและสร้างกระแสในจีนว่า ถ้ามาเที่ยวประเทศไทยลองแวะซื้อสาหร่ายเถ้าแก่น้อยกลับไปเป็นของฝากหรือรับประทานเล่น พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้นำเอาศิลปินชื่อดังที่เป็นคู่จิ้นแห่งยุค ซี-พฤกษ์ พานิช และนุนิว-ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์สาหร่ายเถ้าแก่น้อย พร้อมมีรูปบนซองสาหร่ายรวมถึงมีการจัดกิจกรรมไลฟ์สด และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในกลุ่มสินค้า ยิ่งส่งผลทำให้ยอดขายจากทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ TKN สามารถครองตำแหน่งผู้นำตลาดสาหร่ายอันดับ 1 ในทุกๆกลุ่ม ทั้ง ทอด อบ ย่าง” นายจิระพงษ์ กล่าว


คลิปวิดีโอ