บลจ.ทิสโก้จับจังหวะเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#6 เปิด IPO 5-7 พ.ย. 67คาดดัชนี HSCEI ปรับตัวลงระยะสั้น ขณะที่ในช่วง 5 เดือนข้างหน้าอาจปรับขึ้นรับปัจจัยบวก 4 ปัจจัย คือ 1.รัฐฯ ออกนโยบายหนุนตลาดหุ้น 2. มูลค่าหุ้นและการเติบโตของกำไร บจ. น่าสนใจ 3. นักลงทุนสถาบันจ่อเข้าลงทุน และ 4.สถิติชี้หลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ ตลาดหุ้นจีนมักปรับขึ้น
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงเพราะนักลงทุนยังคงติดตามเรื่อการอนุมัติงบประมาณตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Pan’s Package ผ่านนโยบายการเงิน นโยบายการคลัง และมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ขณะที่ในระยะ 5 เดือนหลังจากนี้ บลจ.ทิสโก้มั่นใจว่าดัชนี HSCEI จะปรับตัวขึ้นได้กว่า 5% จากปัจจัยบวก 4 เรื่อง คือ 1.รัฐบาลออกนโยบายหนุนตลาดหุ้น 2. มูลค่าหุ้นและการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนน่าสนใจ 3. นักลงทุนสถาบันอาจเข้าลงทุนเพิ่มในตลาดหุ้นจีน และ 4 .หลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ ตลาดหุ้นจีนมักปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดังนั้น จากปัจจัยบวกต่างๆ ข้างต้น บลจ.ทิสโก้จึงจับจังหวะเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#6 (TCHT5M6) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Hang Seng China Enterprises Index ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ประเภทกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน ซึ่งกองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Hang Seng China Enterprises Index ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง บริหารและจัดการโดย Hang Seng Investment Management Limited เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2567 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท
สำหรับรายละเอียดปัจจัยหนุนหุ้นจีน 4 ปัจจัย มีดังนี้ 1.รัฐบาลออกนโยบายหนุนตลาดหุ้น เช่น จัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้นมูลค่า 8 แสนล้านหยวนเพื่อหนุนให้มีการซื้อหุ้นคืน และจ่ายปันผลให้กับนักลงทุน โดย บลจ.ทิสโก้มองว่า มาตรการนี้รัฐบาลจีนคาดหวังให้ตลาดหุ้นเป็นแหล่งสร้างความมั่งคั่งใหม่ให้กับประชาชน
2.มูลค่าหุ้นของดัชนี HSCEI อยู่ในระดับที่น่าสนใจโดยมีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ที่ 9.1 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 5 ปี และกำไรบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ 3. นักลงทุนสถาบันอาจเข้าลงทุนเพิ่มในตลาดหุ้นจีน
และ 4. สถิติความเคลื่อนไหวในอดีตของดัชนี HSCEI พบว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายนหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ 5 ครั้งล่าสุด ตลาดหุ้นจีนมักปรับตัวเพิ่มขึ้นเสมอ และถึงแม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้นายโดนัล ทรัมป์อาจชนะการเลือกตั้งและเดินหน้าใช้มาตรการกำแพงภาษี แต่บลจ.ทิสโก้เชื่อว่าทางการจีนจะต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตตามเป้าหมายที่ระดับ 5%