วันพุธ ที่ 27 พฤศจิกายน 2567 16:40น.

THANA จับมือร่วมทุนญี่ปุ่นลุยตลาดต่อเนื่องจ่อเปิดเพิ่ม 3 โครงการใหม่ 2,370 ล้านบาท

23 มีนาคม 2022

        บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป โชว์ผลงาน ปี 64 โตกว่า 148% กำไรเพิ่มขึ้น 44.5 ล้านบาท หรือโตกว่า 207% เตรียมเปิดโครงการใหม่ในปี 65 อีกอย่างน้อย 3 โครงการมูลค่ารวมกว่า 2,370 ล้านบาท โชว์ผลงานดีญี่ปุ่นขอร่วมทุนเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง พร้อมเตรียมแผนแตกไลน์ธุรกิจบริการเกี่ยวกับการอยู่อาศัยครบวงจร

        นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มียอดขายทั้งสิ้น 843 ล้านบาท โตขึ้น 148% (YoY) ยอดรับรู้รายได้ 581 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 210 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 57% (YoY) กำไรขั้นต้น 29.5% โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 23.0 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 44.5 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 207.0

        ในปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการขายทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่า 1,400 ล้านบาท หรือ 292 ยูนิต โดยมียอดขายไปแล้วเฉลี่ย 54% และมียอด Backlog 350 ล้านบาท โดยรอโอนใน ไตรมาส 1 ของปีนี้ ประมาณ 50% เป็นโครงการอยู่ใน จังหวัดนนทบุรี 5 โครงการ และ จังหวัดอุดรธานี 1 โครงการ ได้แก่

        1.ธนาฮาบิแแทต กรู๊ฟ ปิ่นเกล้า-สิรินธร โครงการบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด จำนวน 125 ยูนิต บนพื้นที่ 23 ไร่เศษ มูลค่าโครงการ 720 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 5.8 ล้านบาท

        2.อนาบูกิ ธนาฮาบิแทต สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ-ราชพฤกษ์ บ้านแฝดและทาวน์โฮม สไตล์ L-Home ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับกลุ่มอนาบูกิ

        3.ธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร บ้านเดี่ยวหรู 4 นอน

        4.ธนาคลัสเตอร์ ราชพฤกษ์ ทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาเริ่ม 3.49 ล้านบาท

        5.ธนาคลัสเตอร์ เวสต์เกต บ้านแฝดและทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท และ

        6.สิริวิลเลจ อุดรธานี-แอร์พอร์ต บ้านเดี่ยว ชั้นเดียว และ 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท

        ด้านนายจรัญ เกษร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ในลักษณะบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ อย่างน้อย 3 โครงการ ทั้งในรูปแบบของการลงทุนเอง และการจับมือกับหุ้นส่วนและพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมธุรกิจซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีแผนดำเนินการเข้าสู่ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการอยู่อาศัยและการดำเนินชีวิตอีกด้วย โดยในส่วนของการพัฒนา 3 โครงการใหม่ มูลค่าโดยรวมประมาณ 2,370 ล้านบาท ได้แก่

        1.โครงการร่วมทุน อนาบูกิ ธนาฮาบิแทต ราชพฤกษ์ สินค้าในโครงการประกอบด้วยบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด จำนวน 167 ยูนิต บนพื้นที่ 30 ไร่เศษ มูลค่าโครงการ 1,070 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 6.4 ล้านบาท เปิดขายไตรมาส 2/2565

        2.โครงการธนาเรสซิเดนท์ บรมราชชนนี – ปิ่นเกล้า บ้านเดี่ยวหรู จำนวน 47 ยูนิต บนพื้นที่ 21 ไร่เศษ มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 17 ล้านบาท เปิดขายไตรมาส 3/2565

        3.โครงการธนาวิลเลจ สินค้าเป็นบ้านแฝด จำนวน 115 ยูนิต บนพื้นที่ 19 ไร่ มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยที่ 4.3 ล้านบาท/ยูนิต กำหนดเปิดขายประมาณไตรมาส 4/2565

        “โดยในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,200 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ที่ 1,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็นอัตราการเติบโต 40% และ 70% ตามลำดับ เพื่อการันตีรายได้ของธุรกิจหลักในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ดำเนินธุรกิจภายใต้ความมุ่งมั่น (Passion) “ธนาสิริ…เราร่วมสร้างสังคมที่ร่มรื่น อบอุ่น ในทุกจังหวะชีวิตอย่างยั่งยืน” โดยมีพันธกิจ (Mission) ที่มุ่งสู่การเป็น Lifetime Total Living Solution ด้วยการพัฒนาสินค้าให้โดดเด่น สร้างความแตกต่าง ผสานการใช้ชีวิตทุกช่วงวัยอย่างลงตัว, นำเสนอบริการรูปแบบใหม่ๆ เชื่อมทุกจุดความต้องการของการอยู่อาศัย รวมถึงร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นมิตรกับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายใต้ Model “Total Green Real Estate Development – Service” บริหารงานโดยยึดมั่นในหลักธรรมา   ภิบาล บริหารงานด้วยความโปร่งใส มืออาชีพ จนได้รับการจัดอันดับในกลุ่ม “ดีเลิศ” (Excellent) หรือ “ห้าดาว” 5 ปีซ้อน พ.ศ. 2560 – พ.ศ. 2564 จากผลของการสำรวจการกำกับดูแลกิจการที่ดีบริษัทจดทะเบียน (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies) รวมทั้งมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแรงอย่าง อนาบูกิ โคซัน มีทีมบริหารที่มีศักยภาพ และเป็นมืออาชีพที่คร่ำหวอดในวงการมาเสริมความแข็งแกร่งขององค์กร สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เรามีความเชื่อมั่นว่า ในอนาคต ธนาสิริจะมีย่างก้าวที่เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัย ผลกำไรของนักลงทุน ผู้ถือหุ้นและผลกำไรในความยั่งยืน (Return on Sustainability” ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ กล่าวปิดท้าย


คลิปวิดีโอ