‘ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด’ ย้ำความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามค่านิยมองค์กร “การเติบโตอย่างยั่งยืน” และ “การตอบแทนกลับคืนสู่สังคม” ผ่านความสำเร็จของโครงการรักษ์น้ำ ที่ได้รับประกาศนียบัตร “Corporate Social Impact Awards ประจำปี 2567” จากหอการค้าอเมริกัน (AMCHAM) ที่มุ่งเชิดชูเกียรติบริษัทสมาชิกที่มีความเป็นเลิศด้านการสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคม การได้รับรางวัลนี้สะท้อนถึงเจตจำนงของซันโทรี่ในการส่งเสริมความรู้ด้านการอนุรักษ์น้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้กับเยาวชน โดยมีนางมธุวลี สถิตยุทธการ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจและองค์กรสัมพันธ์ ประเทศไทยและอินโดไชน่าเป็นตัวแทนบริษัทฯ เข้ารับประกาศนียบัตรจาก นายโรเบิร์ต โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และนาย Simon Denye กรรมการบริหาร AMCHAM และผู้ประสานงานคณะกรรมการ Corporate Social Impact เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา
นางมธุวลี สถิตยุทธการ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การได้รับรางวัล AMCHAM Corporate Social Impact Award ครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างคุณค่าให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยในปีนี้ เราเน้นสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์น้ำให้กับเยาวชนไทย ภายใต้โครงการ “วัน ซันโทรี่ มิซุอิกุ: เรารักษ์น้ำ 2567” (One Suntory Mizuiku Program 2024) ผ่านกิจกรรมภายใต้ห้องเรียนธรรมชาติ หรือ Nature Classroom ที่มอบการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง เพื่อให้เยาวชนสามารถนำองค์ความรู้ไปปรับใช้ได้ตามบริบทของแต่ละชุมชน และการส่งเสริมการบูรณาการการอนุรักษ์น้ำในโรงเรียน ผ่านการดำเนินโครงการอนุรักษ์น้ำที่ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ ด้านนโยบาย การมีส่วนร่วมของบุคลากร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการขยายผลสู่ชุมชนโดยรอบ โดยเรามุ่งสร้างจิตสำนึกด้านการรับผิดชอบต่อสังคม และสนับสนุนให้เยาวชนเป็น ‘ผู้นำการเปลี่ยนแปลง’ ที่จะกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการปกป้องรักษาน้ำ และผลักดันการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ เราได้ดำเนินโครงการรักษ์น้ำมาตั้งแต่ปี 2564 เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนไทยตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำจากแหล่งน้ำ ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และสนับสนุนให้พวกเขาเป็นผู้นำกิจกรรมหรือโครงการรักษ์น้ำอย่างสร้างสรรค์ในชุมชนของตนเอง โดยที่ผ่านมา เราจัดกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนธรรมชาติเพื่อมอบองค์ความรู้ด้านการปกป้องรักษาน้ำในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีเยาวชนได้รับความรู้จากการเข้าร่วมกิจกรรมและการดำเนินโครงการรักษ์น้ำในโรงเรียนกว่า 37,000 คน และมีครูได้รับการอบรมด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์น้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนกว่า 180 คน โดยเรามุ่งหวังที่จะให้แกนนำนักเรียนและครูเหล่านี้เป็นตัวแทนของการขยายผลต้นแบบการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในระดับประเทศต่อไป”
ที่ผ่านมา บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด มุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเพิ่มพูนผลกระทบเชิงบวกที่สร้างให้กับสังคม ตั้งแต่การเริ่มต้นโครงการด้านการรักษ์น้ำในปี 2564 ด้วยแนวคิด “Save the Water, Save the World” ร่วมกับศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา (Environmental Education Center หรือ EEC) จัดกิจกรรมการเรียนรู้จากห้องเรียนธรรมชาติริมทะเลอันดามัน เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้การปกป้องแหล่งน้ำจากทะเลและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้กับจังหวัดภูเก็ต ต่อมาในปี 2565 บริษัทฯ นำเสนอแนวคิด “Give Balance to Water and the World” มอบการเรียนรู้ผ่านห้องเรียนธรรมชาติให้กับเยาวชนจากจังหวัดระยอง โดยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และสถาบันการเรียนรู้ของคนทุกช่วงวัย จังหวัดระยอง (Rayong Inclusive Learning Academy หรือ RILA) รวมถึงศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา โดยมุ่งมอบองค์ความรู้ด้านการปกป้องแหล่งน้ำที่หลากหลายของจังหวัดระยอง และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ในปี 2566 โครงการฯ ได้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการร่วมมือกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมและโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ Eco-School เพื่อขยายผลสู่ระดับประเทศ โดยมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเป็นผู้นำการอนุรักษ์แหล่งน้ำในท้องถิ่นของตนเอง ได้แก่ แหล่งต้นน้ำในจังหวัดเชียงราย กลางน้ำในจังหวัดอุบลราชธานี ปลายน้ำในจังหวัดฉะเชิงเทรา และทะเลในจังหวัดกระบี่ภายใต้แนวคิด “Protect Water, Care for the Environment for a Sustainable Thailand”
ยิ่งไปกว่านั้น ปี 2567 นับเป็นก้าวสำคัญของโครงการฯ โดยบริษัทฯ ได้ร่วมกับ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินโครงการ “วัน ซันโทรี่ มิซุอิกุ: เรารักษ์น้ำ 2567” พร้อมประสานความร่วมมือกับพันธมิตรภาครัฐและภาคสังคม เช่น กรมทรัพยากรน้ำ กรมควบคุมมลพิษ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา จัดกิจกรรม “ค่าย มิซุอิกุ ผู้พิทักษ์รักษ์น้ำ” (Mizuiku Water Hero Camp) และกิจกรรม “โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ” (Mizuiku Water Model School) โดยมีแกนนำนักเรียนและครูจาก 30 โรงเรียนในจังหวัดระยองและชลบุรีเข้าร่วม พร้อมมอบโอกาสพิเศษให้ 2 โรงเรียนที่ชนะการประกวดโรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ ร่วมทัศนศึกษาเรียนรู้ต้นกำเนิดโครงการมิซุอิกุ ณ ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย