ซัมซุง ประกาศขยายความมุ่งมั่นในการปกป้องมหาสมุทรโลกร่วมกับพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกัน ต่อยอดจากความพยายามในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกที่แพร่ระบาด ด้วยการเปลี่ยนแหอวนที่ถูกทิ้งให้กลายเป็นวัสดุรีไซเคิลคุณภาพสูงสำหรับใช้ในอุปกรณ์ Galaxy พร้อมก้าวไปอีกขั้นด้วยโครงการใหม่ในการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้สนับสนุนโครงการใหม่เพื่อให้ชุมชนท้องถิ่นและผู้เชี่ยวชาญที่อยู่แนวหน้าของการฟื้นฟูปะการังได้ใช้งานเทคโนโลยีมือถือพร้อมเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของความท้าทายในระบบนิเวศที่ถูกซุกซ่อนไว้
ซัมซุงมุ่งมั่นที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อมเพื่อคนรุ่นต่อไป เป็นแรงผลักดันให้บริษัทสร้างสรรค์นวัตกรรมและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งผู้คนและโลกใบนี้ ซัมซุงมุ่งเน้นในการเสริมสร้างความสมดุลของระบบนิเวศในมหาสมุทรผ่านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
เริ่มตั้งแต่ซีรีส์ Galaxy S22 ในปี 2022 ซัมซุงได้นำแหอวนที่ถูกทิ้งหรือที่รู้จักกันในชื่อ “Ghost Nets” มาผ่านกระบวนการรีไซเคิลเพื่อใช้ในอุปกรณ์ Galaxy[1] ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาโดยที่ซัมซุงได้ขยายการใช้งานวัสดุรีไซเคิลนี้ไปยังผลิตภัณฑ์มือถือ Galaxy ทุกรุ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเสียหายจากพลาสติก[2]ที่อาจถูกทิ้งลงสู่มหาสมุทรแล้วส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเลให้เปราะบาง[3]
ปัจจุบัน ซัมซุงก้าวไปอีกขั้น จากความร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหากำไรในสหรัฐฯ Seatrees และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก เพื่อค้นหาโซลูชันใหม่ ๆ ร่วมถึงนวัตกรรมสำหรับการฟื้นฟูแนวปะการัง เทคโนโลยีกล้อง Galaxy ที่มอบให้กับนักกิจกรรมและนักวิจัยฟื้นฟูปะการังในชุมชนชายฝั่ง จะช่วยสนับสนุนความพยายามในการฟื้นฟูแนวปะการังที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมลพิษ โดยพัฒนาและติดตามความสำเร็จของกระบวนการฟื้นฟู
“เราเริ่มต้นความมุ่งมั่นต่อมหาสมุทรโลกด้วยการเปลี่ยนแหอวนที่ถูกทิ้งให้กลายเป็นส่วนประกอบสำคัญใน Galaxy S22 ซึ่งจนถึงปัจจุบัน เราได้นำแหอวนที่ถูกทิ้งมากกว่า 150 ตันมาใช้ในส่วนประกอบสำคัญของ Galaxy Devices” สเตฟานี ชเว รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายการตลาดของธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า “ในปีนี้ เราได้ก้าวไปอีกขั้นในการแสดงความมุ่งมั่นแก้ไขปัญหานี้ด้วยการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลที่เสียหายทั่วโลก”
ความร่วมมือของซัมซุงและ Seatrees ในครั้งนี้มีเป้าหมายใหม่ในการใช้เทคโนโลยี Galaxy เพื่อสนับสนุนโซลูชันนวัตกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความสมดุลของระบบนิเวศมหาสมุทรโลก ผ่านการสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหากำไรและสมาชิกในชุมชนท้องถิ่นในฟิจิ อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา ด้วยเทคโนโลยี Galaxy เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง โดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมือถือ โดยองค์กรเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะทำให้กระบวนการฟื้นฟูปะการังในแนวปะการังที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การทำประมงเกินขนาด และมลพิษทางทะเล เช่น แหอวนที่ถูกทิ้ง
แม้แนวปะการังจะครอบคลุมน้อยกว่า 1% ของพื้นมหาสมุทร แต่กลับจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิตทางทะเลประมาณ 25% ทำให้เป็นหนึ่งในระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก[4] นอกจากนี้ ยังมีผู้คนนับล้านทั่วโลกที่พึ่งพาแนวปะการังเป็นแหล่งอาหาร รายได้ และการป้องกันชายฝั่ง อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตราการลดลงในปัจจุบัน แนวปะการังมีความเสี่ยงที่จะสูญหายไปภายในปี 2050[5] เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการอนุรักษ์แนวปะการังทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โครงการนี้จะจัดหาเทคโนโลยีการติดตามขั้นสูงที่ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์มือถือซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ง่าย
ถึงแม้จะมีความพยายามในการฟื้นฟูแนวปะการังมานานหลายทศวรรษ แต่นักวิจัยยังคงมองหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อพัฒนากระบวนการนี้ นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปส์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก และชุมชนท้องถิ่น ใช้เทคนิคโฟโทแกรมเมตรี[6]ในการเก็บรวบรวมข้อมูลหลากหลายรูปแบบ เช่น การถ่ายภาพปะการัง เพื่อนำไปวิเคราะห์สุขภาพและการเจริญเติบโตของแนวปะการัง ข้อมูลนี้ยังช่วยให้นักวิจัยสามารถสร้างแบบจำลอง 3 มิติของแนวปะการัง เพื่อระบุวิธีการฟื้นฟูที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อปะการัง
ข้อมูลที่แม่นยำเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักวิจัยในการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่าความพยายามในการฟื้นฟูปะการังส่งผลต่อแนวปะการังอย่างไร ซึ่งจะช่วยปกป้องแนวปะการังได้มากขึ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การถ่ายภาพแนวปะการังให้ชัดเจนและแม่นยำนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ภาพถ่ายอาจมีปัญหาเบลอจากการเคลื่อนไหว เนื่องจากนักดำน้ำต้องว่ายน้ำเหนือแนวปะการังและถ่ายภาพหลายพันภาพ ซึ่งส่งผลให้ข้อมูลที่ได้มีความแม่นยำน้อยลง
นอกจากนี้ น้ำยังดูดซับสีโทนอุ่น เช่น สีแดงและสีส้ม ซึ่งเป็นสีที่มีความยาวของคลื่นแสงยาว ทำให้ภาพถ่ายที่ได้มีสีที่บิดเบือน โดยภาพมักจะมืดและออกโทนสีน้ำเงินมากกว่าที่เห็นด้วยตาเปล่า
เมื่อทราบว่ากล้องใต้น้ำที่แม่นยำเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาความพยายามฟื้นฟูปะการังในระดับโลก ซัมซุงจึงได้ร่วมมือเพื่อเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ โดยพัฒนาเทคโนโลยี Galaxy ให้เป็นเครื่องมือที่มีจุดประสงค์เฉพาะสำหรับการฟื้นฟูปะการัง
ซัมซุงได้พัฒนาโหมดกล้องแบบปรับแต่งพิเศษที่เรียกว่า Ocean Mode[7] ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ Ocean Mode ช่วยยกระดับประสิทธิภาพกล้องของ Galaxy ให้เหมาะสม เพื่อการถ่ายภาพแนวปะการังใต้น้ำที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูง โดยโหมดนี้ช่วยลดปัญหาภาพเบลอจากการเคลื่อนไหว และปรับสมดุลแสงขาว (White Balance) ของกล้องให้เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพใต้น้ำ เพื่อให้ได้ภาพที่แม่นยำและคมชัดส่งต่อถึงนักวิจัย ที่จะช่วยปรับปรุงกระบวนการฟื้นฟูปะการังผ่านการวิเคราะห์การฟื้นฟูที่แม่นยำยิ่งขึ้น
“การออกแบบและดำเนินการฟื้นฟูแนวปะการังจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับสิ่งที่สามารถวัดได้ผลและวัดผลไม่ได้” ดร.สจวร์ต แซนดิน นักนิเวศวิทยาทางทะเลจากสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปส์และผู้อำนวยการศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลและการอนุรักษ์ กล่าว พร้อมเสริมอีกว่า “เทคโนโลยีมือถือเปิดโอกาสที่น่าจับตามองในการขยายการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้”
“ด้วยการต่อยอดเทคโนโลยีที่ทั้งล้ำสมัยและเข้าถึงได้ ความร่วมมือนี้มีศักยภาพในการช่วยลดอุปสรรค ทำให้กระบวนการวิจัยและฟื้นฟูง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์ที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพและขยายผลได้ในวงกว้าง” ดร.เอลิยาห์ อาโรนอฟ-สเปนเซอร์ นักเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง และผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบเพื่อสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก กล่าวเพิ่มเติม
“ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการแสดงถึงความพยายามร่วมกันของผู้คนและองค์กรที่มุ่งมั่นฟื้นฟูความหวังด้วยการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล” ไมเคิล สจวร์ต ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการ Seatrees กล่าว พร้อมเสริมอีกว่า “ด้วยความร่วมมือกับซัมซุงและมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก เราสามารถแบ่งปันเครื่องมืออันล้ำสมัยนี้เพื่อช่วยให้ชุมชนท้องถิ่นฟื้นฟูแนวปะการังได้อย่างมีประสิทธิภาพในวงกว้างได้”
ตลอดปี 2024 ซัมซุงได้สนับสนุนโครงการฟื้นฟูปะการังในพื้นที่ที่แนวปะการังลดลง เช่น บาหลี อินโดนีเซีย; เกาะวิติเลวู ฟิจิ; และฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โดยมีการปลูกปะการังไปแล้วกว่า 11,000 ชิ้น ในพื้นที่โครงการเหล่านี้ ด้วยความมุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยีเพื่อทำสิ่งที่ดี ซัมซุงและพันธมิตรต่างมีเป้าหมายร่วมกันในการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลและอนุรักษ์มหาสมุทรโลกไว้สำหรับคนรุ่นต่อไป ด้วยหลักการของความร่วมมือที่เปิดกว้างให้กับทุกคนและการใช้ประโยชน์จากความยิ่งใหญ่ของซัมซุง องค์กรเหล่านี้จะยังคงขยายโครงการไปสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า