วันพฤหัสบดี ที่ 28 พฤศจิกายน 2567 07:48น.

“ซิซซ์เล่อร์” ลุยเสิร์ฟ 3 กลยุทธ์รับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่

6 ธันวาคม 2022

        ซิซซ์เล่อร์ ผลักดัน 3 กลยุทธ์รับสัญญาณเชิงบวกของตลาด รวมถึงเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ ได้แก่ การปรับโฉมร้าน และขยายสาขาใหม่ภายใต้คอนเซปต์ “Healthy Food Happy Mood” ทั่วทั้งประเทศ การพัฒนาและรังสรรค์เมนูใหม่ ๆ จากวัตถุดิบคุณภาพต่อเนื่องตลอดทั้งปี และ การเพิ่มฐานสมาชิกผ่านระบบ “Loyalty Program E-Member” ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์สุดพิเศษมากมาย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ในฐานะร้านอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับผู้บริโภคทุกกลุ่มยาวนานกว่า 30 ปี พร้อมกันนี้ได้ย้ำภาพแบรนด์ส่งท้ายปีด้วยการส่งมอบประสบการณ์ความอร่อยแบบสุขภาพดีให้แก่ผู้บริโภครับเทศกาลเฉลิมฉลอง ด้วยการเปิดตัวเมนูเฟสทีฟเอาใจสายชอบทานเนื้อที่เน้นโปรตีนประกอบไปด้วย เมนูสเต๊กหมูโทมาฮอว์ค เมนูสเต๊กเนื้อบีฟลอยน์และกุ้งลายเสือ และ เมนูสเต๊กเนื้อไพร์มริบ นำเข้าจากออสเตรเลีย ครั้งแรกของการเสิร์ฟเนื้อวัวระดับพรีเมียมออกมาเป็นเมนูสุดสเปเชียลให้ลูกค้าได้ลองรับประทาน โดยคาดว่าการเปิดตัวเมนูเฟสทีฟนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายภาพรวมเติบโตตามเป้าที่วางไว้

        นายกรีฑากร ศิริอัฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และการเงิน บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน 11 เดือนที่ผ่านมาในปี 2565 ของซิซซ์เล่อร์ ภาพรวมมีการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เป็นไปกลยุทธ์และเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ จากการเดินหน้าปรับโฉมสาขาเดิมที่มีอยู่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น และขยายสาขาใหม่ภายใต้คอนเซปต์ “Healthy Food Happy Mood” ที่มุ่งเน้นร้านพื้นที่ขนาดกลาง มาพร้อมดีไซน์ใหม่ทั้งในส่วนของรูปแบบร้าน และเมนูอาหารรวมถึงสลัดบาร์พรีเมียม เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงในแต่ละพื้นที่ให้มากขึ้น โดยปัจจุบันได้เปิดตัวสาขาภายใต้คอนเซปต์ดังกล่าวไปทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ เทอร์มินอล 21 อโศก เทอร์มินอล 21 พระราม 3 และโรบินสัน ราชพฤกษ์ รวมถึงมีแผนที่จะเปิดที่จังหวัดภูเก็ตภายในสิ้นปีนี้

        ส่งผลให้ภายในสิ้นปี 2565 ซิซซ์เล่อร์ จะมีสาขาทั่วประเทศทั้งหมดอยู่ที่ 61 สาขา เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด เนื่องจากสัดส่วนการนั่งรับประทานที่ร้านถือเป็นหัวใจหลักของซิซซ์เล่อร์ ในขณะที่ เดลิเวอรี รวมถึงบริการสั่งกลับบ้านมีการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ปัจจัยการเติบโตมาจากพฤติกรรมผู้บริโภค และการกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคผ่านการนำเสนอโปรโมชันต่าง ๆ รวมถึงโมเดล ซิซซ์เล่อร์ทูโก (Sizzler To Go) ที่เน้นการให้บริการด้วยเมนูเครื่องดื่มตอบโจทย์วิถีชีวิตประจำวันผู้บริโภคที่มีความเร่งรีบและต้องการความสะดวก เช่น สถานีรถไฟฟ้า โรงพยาบาล ปัจจุบันมีอยู่ 4 สาขา ซึ่งช่วยเพิ่มสัดส่วนยอดขายภาพรวมที่ผ่านของซิซซ์เล่อร์ได้เป็นอย่างดี

        นายกรีฑากร กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ทำให้ซิซซ์เล่อร์สามารถเติบโตและครองใจผู้บริโภคได้มาอย่างยาวนาน คือการไม่หยุดคิดค้นและรังสรรค์เมนูใหม่ ๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทั้งอาหารจานหลัก ซึ่งทุกเมนูปราศจากผงชูรส และสลัดบาร์สุดพิเศษที่รังสรรค์จากวัตถุดิบระดับพรีเมียม เช่น ช่วงปลายปีที่เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองก็มีเมนูเฟสทีฟออกมาที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายภาพรวมได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ เช่น ซิซซ์เล่อร์ ชีสโทสต์ (Sizzler Cheese Toast) หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีให้ลูกค้าสามารถสั่งกลับไปทำที่บ้านได้เอง ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่ดีมีคุณภาพในทุกโอกาส ตลอดจนการพัฒนาระบบ “Loyalty Program E-Member” ระบบสะสมแต้มออนไลน์ ผ่าน Line Official Account @SizzlerThai สำหรับสมาชิกทุกระดับที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย

        “ส่วนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ซิซซ์เล่อร์ ยังคงมุ่งเน้นการนำเสนอสินค้าและบริการ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบอาหารที่มีคุณภาพประกอบการมีสุขภาพที่ดีผ่านแนวคิด “Healthy Food Happy Mood” อย่างต่อเนื่อง ทั้งการทยอยปรับโฉมสาขาเดิม และขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4-5 สาขา ไปพร้อมการนำเสนอเมนูใหม่ ๆ ตามช่วงเทศกาลต่าง ๆ ตลอดจนการมอบสิทธิพิเศษผ่านระบบ E-Member เพื่อสร้างสีสัน และกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจำนวน E-Member ปี 2566 คาดเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัว” นายกรีฑากร กล่าวสรุป

        ด้าน นายอนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงปลายปี ถือเป็นอีกช่วงเวลาไฮซีซั่นที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีแนวโน้มจับจ่ายเพิ่มสูงขึ้น เนื่องด้วยเป็นช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองมากมาย ซิซซ์เล่อร์ ในฐานะร้านอาหารสุขภาพชั้นนำจึงได้คิดค้นและรังสรรค์เมนูใหม่ เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษในการรับประทานอาหารตลอดช่วงเวลาดังกล่าวให้กับลูกค้าครบจบในมื้อเดียว ซึ่ง 3 เมนูเฟสทีฟที่รังสรรค์ขึ้นใหม่ในครั้งนี้มาพร้อมความพิเศษและความโดดเด่นแตกต่าง ที่พร้อมให้ทุกคนได้มาลิ้มลองความอร่อยระดับพรีเมียมตามแบบฉบับซิซซ์เล่อร์ ประกอบไปด้วย

· สเต๊กหมูโทมาฮอว์ค (Grilled Pork Tomahawk) เมนูสเต๊กหมูโทมาฮอว์คย่างร้อน ๆ เสิร์ฟพร้อมเนยคาเฟเดอปารีส ตกแต่งด้วยโรสแมรี่ มาพร้อมเครื่องเคียงล้นๆ ทั้งโปเตโต้เวจเจส มะเขือเทศ และเบบี้แครอทย่าง ทานคู่กับซอสพริกไทยดำสูตรเฉพาะ รสชาติเข้ากันเป็นอย่างดี ในราคา 759 บาท

· สเต๊กเนื้อไพร์มริบ* (Grilled Sous Vide Beef Prime Ribs) เมนูสำหรับสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น สเต๊กเนื้อ ไพร์มริบ นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย นำไปซูวีเพื่อให้เนื้อมีความนุ่ม ย่างสุกได้ตามความชอบ เสิร์ฟพร้อมเนยคาเฟเดอปารีสและตกแต่งด้วยโรสแมรี่ มาพร้อมเครื่องเคียงจัดเต็ม ทั้งโปเตโต้เวจเจส การ์ลิคคอนฟิก มะเขือเทศ และเบบี้แครอทย่าง ทานคู่กับซอสพริกไทยดำและซอสบลูชีสซอส แสนละมุน ในราคา 2,899 บาท สุดพิเศษสำหรับเมนูนี้ เสิร์ฟพร้อมสลัดบาร์ไม่อั้น สำหรับ 2 ท่าน

· สเต๊กเนื้อบีฟลอยน์และกุ้งลายเสือ* (Beef Loin Steak and Grilled Tiger Prawn) เมนูสเต๊กเนื้อบีฟลอยน์นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย เลือกความสุกได้ตามใจ มาพร้อมกุ้งลายเสือชิ้นโต 2 ชิ้น ย่างร้อน ๆ เสิร์ฟพร้อมมันบดทรัฟเฟิล และซอสพริกไทยดำสูตรเฉพาะ อร่อยลงตัว ในราคา ราคา 849 บาท

        “สำหรับเมนูเฟสทีฟในปีนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่แบรนด์นำเนื้อไพร์มริบ เนื้อวัวนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย มารังสรรค์เป็นเมนูสุดสเปเชียลที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตเฉพาะตัวให้คนที่มีความชื่นชอบได้รับประทาน เป็นการยกระดับการเสิร์ฟเมนูสเต๊กที่เป็นจุดเด่นของซิซซ์เล่อร์ให้มีความพรีเมียมยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีเมนูสเต๊กอีกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น หมู ไก่ ปลา หรือซีฟู้ด ให้ลูกค้าสามารถเลือกทานตามความต้องการด้วยเช่นกัน เป็นการสะท้อนภาพร้านอาหารสุขภาพชั้นนำของซิซซ์เล่อร์ที่ครองใจผู้บริโภคยาวนานกว่า 30 ปี และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการบริการในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยในทุกโอกาสให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด” นายอนิรุทร์ กล่าวทิ้งท้าย


คลิปวิดีโอ