การลงทุนมีหลายรูปแบบ เช่น บัญชีเงินฝาก กองทุน คริปโตเคอเรนซี ฯลฯ ซึ่งจะมีผลตอบแทนที่แตกต่างกันออกไป สำหรับคนที่มีเงินออมสักก้อน และกำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนในระยะยาว อสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในการลงทุนที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะผันผวน ด้วยมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ปรับขึ้นทุกๆ 2-3 ปี ตามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจและความต้องการของผู้ซื้อ รวมถึงผลตอบแทนจากการให้เช่าที่สร้างรายได้ระยะยาวให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของ
ส่วนจะเลือกลงทุนแบบไหน ที่สร้างผลกำไรได้แน่ เห็นได้ว่าอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีหลายโครงการให้เลือก ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อ วัตถุประสงค์หลักในการใช้งาน และวิถีการใช้ชีวิตของคนในแต่ละยุคสมัย เมื่อหลายสิบปีก่อนส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการเช่า (Lease Hold) สิทธิ์การเช่าและเข้าใช้งาน โดยมองถึงโอกาสในเชิงพาณิชย์ตลอดระยะการถือครอง แต่สำหรับเทรนด์การลงทุนยุคใหม่ โครงการในรูปแบบผสมผสานการใช้งาน หรือ มิกซ์ยูส (Mixed-Use) เป็นโอกาสและทางเลือกใหม่สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจลงทุน
เปิด 4 เหตุผล ลงทุนใน ‘มิกซ์ยูส’
ในการลงทุนอสังหาฯ ในโครงการมิกซ์ยูส เป็นที่สนใจจากนักลงทุนในต่างประเทศมานานแล้ว ขณะที่ในไทยเริ่มมีความต้องการซื้อมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยด้านการลงทุนเข้ามาเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักของการตัดสินใจซื้อ
“มูลค่า” หรือ โอกาสในการเติบโตของอสังหาฯ ในโครงการประเภทมิกซ์ยูสจะเกิดจาก “ส่วนผสม” หรือ องค์ประกอบการโครงการสร้างขึ้น
Live and Work สมดุลของชีวิตและงานที่เกิดขึ้นได้ทันทีเมื่อใช้ชีวิตอยู่ในโครงการมิกซ์ยูส ด้วยองค์ประกอบการที่มีครบสำหรับความต้องการของคนยุคใหม่
Residential And Office ที่อยู่อาศัยและสำนักงาน คงจะดีไม่น้อยถ้าในทุก ๆ วันสามารถใช้เวลาเดินทางแค่ไม่กี่ก้าวเดินก็ถึงออฟฟิศ นับเป็นวิถีชีวิตที่คนรุ่นใหม่มองหา
Mixed-Use Hotels โรงแรมแบบผสมผสานที่มาพร้อมบริการต่าง ๆ เช่น ศูนย์ฟิตเนส พื้นที่ค้าปลีก ร้านอาหารและความบันเทิง
Location ทำเลศักยภาพที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังอีกหลายพื้นที่สำคัญในกรุงเทพฯ
เมื่อทุกเหตุผลรวมกัน สุดท้ายจะเกิดเป็น “มูลค่า” ที่ดีกว่าในด้านการลงทุนอสังหาฯ ในโครงการมิกซ์ยูส เมื่อเปรียบเทียบกับโครงการที่เพียง “อยู่อาศัย” อย่างเดียว
การลงทุนที่คุ้มค่า ‘Landmark @MRTA Station’
ผลตอบแทนในการลงทุน (Yield) เปรียบเทียบจากความเป็นไปได้ของการตั้งราคาค่าเช่าในกรณีที่ต้องการปล่อยเช่าเพื่อสร้างผลตอบแทนรายได้ในโครงการมิกซ์ยูส อยู่ในเกณ์ 6-12% ต่อปีขึ้นอยู่กับศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ ความต้องการของผู้เช่าและผู้ที่ต้องการซื้อ รวมถึง “มูลค่า” ของโครงการที่เกิดจากการออกแบบทุกอย่างที่ผสมผสานไว้ครบเพื่อการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่
โครงการ Landmark @MRTA Station ดำเนินการพัฒนาโดย บมจ. ไซมิส แอสเสท ตั้งอยู่ในโซน New CBD พระราม 9 ที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับการเดินทางเชื่อมต่อเข้าสู่อีกหลายพื้นที่สำคัญในกรุงเทพฯ ห่างจาก MRT 350 ม. รวมถึงสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยัง Airport rail link สู่สนามบินสุวรรณภูมิ
ทำเลพระราม 9 ยังเป็นศูนย์กลางของการทำงาน ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน สถานทูต ห้างสรรพสินค้า ทำให้ความต้องการอสังหาฯ ในโซนนี้มีทั้งเพื่อการอยู่อาศัย ทำงาน และช้อปปิ้ง จากทั้งคนไทย ต่างชาติที่เข้ามาทำงาน และนักท่องเที่ยว
‘บริการคุณภาพ’ สร้างคุณค่าในสายตานักลงทุน
พื้นที่ส่วนกลางที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และความหลากหลายของ “บริการ” และ “สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย” ที่มีพร้อมในโครงการ Landmark @MRTA Station มีผลต่อการตัดสินใจซื้อทั้งในมุมมองนักลงทุนและผู้เช่า
ทุกความต้องการใช้งานที่เกิดขึ้นมีครบครันในโครงการเดียว “Landmark @ MRTA Station” ซึ่งมีข้อดีจากส่วนผสมที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อให้เป็น โครงการมิกซ์ยูสที่ครบวงจร ประกอบด้วย 3 อาคาร ได้แก่
ส่วนโรงแรม 17 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น รวม 250 ยูนิต บริการโดยมืออาชีพในอุตสาหกรรมโรงแรมที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก Crowne Plaza Hotel by IHG การันตีถึงคุณภาพที่จะได้รับจากการบริหารจัดการ
Siamese Tower อาคารสูง 38 ชั้น รวม 1,131 ยูนิต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครบทั้ง ร้านค้า สำนักงาน และคอนโดมิเนียมแบบ Branded Residence จากความร่วมมือกับ Cassia Residences Rama 9 Bangkok ในกลุ่ม Banyan Tree Group เข้ามาบริหารงาน
Siamese Residence อาคารสูง 29 ชั้น รวม 561 ยูนิต ภายในมี ร้านค้า สำนักงานและคอนโดมิเนียม
