นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่กับรายการ Shark Tank Thailand ซีซั่น 3 รายการเรียลลิตี้ทางธุรกิจอันดับหนึ่ง ดำเนินการโดย บริษัท มีเดีย แท็งค์ จํากัด ที่ร่วมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไทยครั้งสำคัญ พร้อมร่วมทรานฟอร์มธุรกิจให้กลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และต่อยอดธุรกิจไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับโลก ด้วยการลงทุนจาก 5 นักธุรกิจชั้นนำในประเทศไทย มาทำหน้าที่ชาร์คในรายการร่วมดีลธุรกิจเพื่อลงทุนแลกกับการถือหุ้น โดยไฮไลท์ความสำเร็จตลอดซีซั่น 3 ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ เข้ามาร่วมดีลในรายการจำนวน 86 ธุรกิจ และสามารถสร้างการดีลในรายการได้จำนวน 39 ธุรกิจ ด้วยวงเงินรวม 270.1 ล้านบาท นับว่าเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวมสูงสุดตั้งแต่มีรายการ Shark Tank Thailand ในประเทศไทย
ธุรกิจที่ได้รับความนิยมในการลงทุนมากสุด คือ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รองลงมา ธุรกิจผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรม ทั้งกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และผลิตอะคริลิค ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์สำหรับผลิตสินค้าในโรงงาน, ธุรกิจแพลตฟอร์มการศึกษา และธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าแฟชั่น รวมถึงยังมีธุรกิจใหม่ๆ ได้รับการลงทุน อาทิ ธุรกิจผลิตเกม แอพพลิเคชั่นในการดูแลสุขภาพ ธุรกิจชิปปิ้ง และธุรกิจยา เป็นต้น แสดงถึงการเปิดโอกาสสำคัญให้แก่ธุรกิจไทย
หนึ่งในความน่าสนใจของซีซั่น 3 นี้ มีการรวบรวม 5 นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มาทำหน้าที่ชาร์คในรายการ โดยชาร์คที่มีการลงทุนมากสุดในซีซั่นนี้ได้แก่ “ชาร์คเต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด ที่ปิดดีลได้ถึง 16 ดีล มูลค่าประมาณ 101.51 ล้านบาท ต่อมา “ชาร์คประพล มิลินทจินดา” ประธาน คอมมูนิตีมอลล์ พีเพิล พาร์ค อ่อนนุช ได้ปิดดีลรวม 14 ดีล มูลค่าประมาณ 49.3 ล้านบาท “ชาร์คกฤษน์ ศรีชวาลา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟิโก้ กรุ๊ป และ ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมปิดดีลถึง 9 ดีล มูลค่าประมาณ 44.58 ล้านบาท “ชาร์คจิง-ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองประธานกรรมการอาวุโส กลุ่มบริษัท ไทยซัมมิทฯ ปิดดีลไป 12 ดีล มูลค่าประมาณ 43.84 ล้านบาท และ “ชาร์คหมู-ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุ๊คบี จำกัด ที่ปิดดีลรวม 7 ดีล มูลค่าประมาณ 27.84 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีชาร์ครับเชิญที่ได้ร่วมปิดดีลกับธุรกิจที่น่าสนใจ ได้แก่ ชาร์คท็อป-จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด แพลตฟอร์มเทรดเหรียญคริปโทฯ ปิดดีล 1 ดีล มูลค่า 1 ล้านบาท และ“ชาร์คเนย-สริศราว์ ลิ่วเฉลิมวงศ์” ซีอีโอ บริษัท โกลบอล ไพรม์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด ปิดดีล 1 ดีล มูลค่า 2 ล้านบาท
ขณะเดียวกันยังมีธุรกิจที่ได้รับความนิยมและแจ้งเกิดในรายการ อาทิ ธุรกิจไอศกรีมเจลาโต้ มอลลี่ อัลลี่ (Molly Ally) ผลิตจากพืชเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ก่อตั้งโดยกลุ่มนักศึกษาปริญญาโท ที่อยากให้คนไทยได้ทานไอศกรีมที่มีประโยชน์ ธุรกิจ ธุรกิจซอสปรุงรสแบรนด์ หมีปรุง ที่การันตีว่าใครทำก็อร่อย และช่วยสร้างอาชีพให้คนไทยมากมาย ธุรกิจเตี๋ยวปริญญา รสชาติสุดเด็ด ที่มีสูตรสืบทอดมาร่วม 100 ปี ที่กำลังขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ แอพพลิเคชั่นเพื่อสุขภาพ “แอ็กนอสเฮลท์” (Agnos Health) ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์โรคให้แก่ทุกคน ที่เข้ามาช่วยชีวิตคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคที่อันตราย และเข้าพบแพทย์ได้ทันเวลา และธุรกิจขนมผักโขมอบกรอบจากฟาร์มออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์ที่อยากให้เด็กๆ ได้ทานขนมที่มีประโยชน์ เป็นต้น
“ชาร์คเต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า รายการได้ร่วมสร้างโอกาสครั้งสำคัญให้แก่ผู้ประกอบการไทย จากการมีนักธุรกิจที่มีประสบการณ์เข้ามาร่วมลงทุน ที่พร้อมร่วมต่อ ยอดธุรกิจไทยให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะพาผู้ประกอบไทยไปไกลให้ถึงฝัน
“ชาร์คประพล มิลินทจินดา” ประธาน คอมมูนิตีมอลล์ พีเพิล พาร์ค อ่อนนุช ให้มุมมองว่า ผู้ประกอบการเอ็มอีไทยมีความสามารถและมีธุรกิจที่มีศักยภาพสูง แต่ยังขาดโอกาสและมีจุดอ่อนในหลายๆ ด้านทั้งการเงิน การตลาด และการผลิตสินค้า จึงมั่นใจว่า เมื่อผู้ประกอบการได้รับการลงทุนจากชาร์คนักลงทุนในรายการแล้ว จะเป็นการร่วมเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจไทยและร่วมผลักดันให้แบรนด์สินค้าไทยให้เติบโตไปได้ไกลมากขึ้น
