เสนาเดินหน้าปั้นแบรนด์ Flexi ต่อเนื่องหลังเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ และการการันตีผู้นำ Lifestyle Condo ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกบ้าน ทั้งด้านคุณภาพ ฟังก์ชันหลากหลาย ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ New Gen กับการใช้ชีวิตที่แตกต่างอย่างเฉพาะตัว พร้อมแนวคิด SENA Low Carbon เพื่อสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดี ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันแบรนด์ Flexi มีคอนโดมิเนียมในทำเลคุณภาพ ทั้งหมด 7 โครงการ โดยล่าสุดโครงการ เฟล็กซี่ สำโรง อินเตอร์เชนจ์ (Flexi Samrong Interchange) ได้รับการอนุมัติรับรองจากการคาดการณ์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจาก EIA (Environmental Impact Assessment) พร้อมดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จ ประมาณไตรมาสที่ 4 ปี 2569 คิดเป็นมูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท
โครงการคอนโดมิเนียม เฟล็กซี่ สำโรง อินเตอร์เชนจ์ (Flexi Samrong Interchange) ถูกออกแบบด้วยแนวคิด “เชื่อมชีวิต ชิดทุกไลฟ์สไตล์” เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 37 ชั้น ที่เน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ New Gen ในคอนเซ็ปต์ “อยู่ Flexi ชีวิตไปได้อีกเยอะ” มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 917 ยูนิต โดยมีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 1 ห้องนอน ขนาด 23.5–26.5 ตร.ม., 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 34–34.5 ตร.ม. ไปจนถึง 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตร.ม. ตัวห้องออกแบบให้เป็นห้องหน้ากว้าง ให้รู้สึกถึงความโอ่โถง ไม่แออัด แต่ก็ยังจัดเต็มเพื่อทุกฟังก์ชันการใช้ชีวิต ทั้ง Walk-in Closet ซึ่งจุของเยอะ ดีไซน์เก๋ และ Private kitchen พร้อมเฟอร์นิเจอร์พร้อมตกแต่งครบ ที่สำคัญโครงการยังอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยม เชื่อมต่อรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้ง BTS สายสีเขียวและ MRT สายสีเหลือง เดินทางง่ายรวดเดียวถึงกลางใจเมือง ทั้งสยามสแควร์ CentralWorld หรือทองหล่อ-เอกมัย ให้คุณใช้ชีวิตในเมืองได้แบบไม่มีสะดุด เข้าออกได้ 2 ทาง ทั้ง ถนนสุขุมวิท และเทพารักษ์ ซอย 4 พิเศษสุดๆ พร้อมด้วยโปรโมชั่นพิเศษในราคาเริ่มต้นเพียง 2.09 ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากห้องพักจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของ New Gen แล้ว โครงการเฟล็กซี่ สำโรง อินเตอร์เชนจ์ (Flexi Samrong Interchange) ยังโดดเด่นด้วย ส่วนกลาง 3 ชั้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทุกฟังก์ชันจัดหนักจัดเต็ม ชั้น G ประกอบด้วย Co–Working Space, Meeting Room, Garden, Jogging Track, Stretching zone ชั้น 7 ได้แก่ Swimming Pool, Fitness, Co-Kitchen & Bar, Theater Room, Garden, Laundry และชั้น Rooftop ที่มี Jogging Track, Roof Garden และ Solar cell รวมถึงการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงด้วยระบบ Access Control และลิฟต์ระบบ Visitor Management ควบคุมการเข้าออกของบุคคลภายในอาคาร
และอีกจุดเด่นของโครงการตามแนวคิด SENA Low Carbon ใส่ใจสิ่งแวดล้อม คือส่งเสริมการอยู่อาศัยแบบ Decarbonized Lifestyle ให้ลูกบ้าน ด้วย Smart Tech ที่แค่ใช้ชีวิตปกติ ก็เหมือนได้ปลูกต้นไม้ช่วยโลกทุกวัน เช่น Smartify E commerce platform, Universal Design, EV Station, Telemed ห้องพร้อมอุปกรณ์แพทย์พื้นฐาน AED, Solar Cell การนำพลังงานสะอาดมาใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย, Smart Parking, Waste Management ระบบบริหารจัดการขยะ, Smart Mobility แอปพลิเคชันให้ข้อมูลการเดินทางพร้อม EV Shuttle service รับ-ส่งลูกบ้านที่จุดขนส่งสาธารณะ เพื่อการเดินทางแบบไร้รอยต่อ รวมถึงมีการจัดพื้นที่สำหรับ EV Charger Station ในพื้นที่จอดรถอีกด้วย
