เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ต่อยอดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน จากคอนเซปต์ คอนโด Low-Carbon ผ่านแนวคิด Smart City ด้วยเทคโนโลยี Smart Mobility ตัวช่วยที่เชื่อมต่อทุกการเดินทางให้กับลูกบ้านแบบไร้รอยต่อ พร้อม V MOVE – Suttle Car Service รถรับส่งพลังงานไฟฟ้าบริการฟรี เริ่มให้บริการ 1 พ.ย.นี้ โดยโครงการแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงรับประโยชน์ 2 ต่อจากการสนับสนุนปรับลดค่าโดยสารจากภาครัฐ ช่วยเพิ่มเงินเหลือในกระเป๋า แล้วยังร่วมกันรักษ์โลกแบบง่ายๆ ไปด้วยในทุกๆ วัน
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เสนาดีเวลลอปเมนท์ เชื่อว่าทุกคนในวันนี้อยากช่วยกันรักษ์โลก การทำให้การรักษ์โลกนั้นไม่ยากจนเกินไป จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเสนา เพื่อให้ลูกบ้านครอบครัวเสนาสามารถรักษ์โลกได้ง่ายๆ ในทุกวัน
“สำหรับลูกบ้านของเสนานั้น สามารถรักษ์โลกได้ง่ายๆ ในทุกวันผ่านการใช้ชีวิตปกติ เนื่องจากเรามีการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยที่ให้ความสำคัญกับบ้านประหยัดพลังงาน หรือใช้พลังงานทดแทน และสร้างคาร์บอนให้น้อยที่สุด โดยปัจจุบันแบ่งออกเป็น แนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ และ คอนโด Low-Carbon ที่นอกจากจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การพักอาศัยของคนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจรักษ์โลกแล้ว ยังช่วยให้ลูกบ้านใช้ชีวิตแบบลดคาร์บอนได้ง่ายๆ เหมือนได้ช่วยปลูกต้นไม้ในทุกๆ วัน โดยได้นำแนวคิด Smart City มาพัฒนา Feature ต่างๆ เพื่อการใช้ชีวิตแบบส่งต่อความยั่งยืนอย่างดีที่สุด อาทิ การเลือกใช้วัสดุที่ลด CO2, การติดตั้ง Solar Rooftop ในโครงการบ้าน และพื้นที่ส่วนกลาง, การติดตั้ง EV Station, Smart Parking รวมถึงการนำ Smart Mobility มาใช้ โดยมีแอพพลิเคชั่นให้ข้อมูลและวางแผนการเดินทางได้ พร้อมSuttle Service ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ จะช่วยให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เกิดเป็นความคุ้นชินที่สะดวกสบาย และยังเหมือนได้ช่วยรักษ์โลกไปในตัวพร้อมๆ กัน”
ผศ.ดร.เกษรา กล่าวถึงบริการ Smart Mobility ว่า บริการนี้จะช่วยเชื่อมต่อทุกการใช้ชีวิตให้เป็นเรื่องง่าย ซึ่งนอกจากจะเป็นแอพที่ให้ข้อมูล คำนวนระยะทาง และให้คำแนะนำทางเลือกในการเดินทางแล้ว ยังมาพร้อมกับ V MOVE หรือ Shuttle Car Service บริการรถรับส่งพลังงานไฟฟ้า ที่จะให้บริการรับส่งลูกบ้านครอบครัวเสนาฟรีจากโครงการไปยังสถานีรถสาธารณะ หรือรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด เพื่อการเดินทางแบบไร้รอยต่อ ซึ่งแนวคิดนี้สามารถช่วยให้คุณลดการสร้างคาร์บอนจากการเดินทางได้แบบ 100% เพราะใช้รถสาธารณะ และรถรับส่งพลังงานไฟฟ้า หรือถ้าเทียบกับการขับรถไปทางงานเองวันละ 60 กม. จะสามารถลดการสร้างคาร์บอนได้ประมาณ 1.47 T.CO2 ต่อไป หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ 147 ต้น
“ล่าสุดนี้การสนับสนุนของภาครัฐจากนโยบายลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงเหลือ 20 บาทตลอดสาย ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมย์ทรัพย์ มองว่าเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ผู้คนที่พักอาศัยอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ประโยชน์ และมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ถูกลง ในขณะที่ลูกบ้านครอบครัวเสนาเอง ซึ่งปัจจุบันมีโครงการในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง คือ Flexi เตาปูน, Niche Pride เตาปูน, KITH เวสท์เกต-บางบัวทอง และ VELA วงแหวน-บางบัวทอง ถือว่าได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นเป็น 2 ต่อ เนื่องจากเรามีบริการ V MOVE ที่ให้บริการฟรีในช่วงจากหน้าโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้า การเดินทางจึงมีค่าใช้จ่ายเพียงรอบละ 20 บาทเท่านั้น และที่สำคัญนอกจากจะมีค่าเดินทางที่ถูกลงแล้ว ยังถือว่าคุณได้ช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย โดยปัจจุบันตั้งเป้าให้บริการ V MOVE เฟสแรกทั้งหมด 19 โครงการ และจะเริ่มเปิดให้บริการใช้จริงวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ที่โครงการ Niche Mono พระราม9 เป็นแห่งแรก”
ผศ.ดร.เกษรา กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับรถ V MOVE นั้น เป็นอีกหนึ่งบริการที่สะท้อนแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ที่นอกจากจะพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดีในทุกๆ ช่วงเวลาแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาโลกควบคู่กันไปด้วย
