Grand Seiko (แกรนด์ ไซโก) แบรนด์นาฬิกาลักชัวรีชั้นนำระดับโลก สัญชาติญี่ปุ่น มีประวัติยาวนานกว่า 60 ปี เปิดเกมส์รุกหนักตลาดนาฬิกาหรูเมืองไทย วางกลยุทธ์ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์นาฬิกาไฮเอนด์หนึ่งเดียวจากเอเชียในระดับโลก ที่ไปจัดแสดงในงาน Watches and Wonders ซึ่งเป็นงานจัดแสดงนาฬิกาชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมสร้างกระแสความภูมิใจในแบรนด์ผ่านการสร้างประสบการณ์ร่วมในกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีอายุ 30-45 ปี ควบคู่กับการสร้าง Brand Engagement และ Brand Loyalty ในกลุ่มลูกค้าเดิม ประเดิมต้นปีจัดงานเปิดตัวแคมเปญ My Grand Seiko My Pride พร้อมฉลองความสำเร็จของนาฬิการุ่นไอคอนิก Sakura ระหว่างวันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.00-22.00 น. ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน
นายอากิระ ซากาอิริ กรรมการผู้จัดการ แกรนด์ ไซโก ประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับในปี 2024 ภาพรวมตลาดนาฬิกาลักชัวรีมีแนวโน้มทรงตัวและค่อยๆ ฟื้นตัว หลังจากที่ชะลอตัวในช่วงการระบาดของโควิด 19 ที่ผ่านมา ซึ่งต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบ เช่น ภาวะสงคราม ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เกิดขึ้นทั่วโลก จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่ประเทศไทย และมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็น 1 ใน ตลาดสำคัญของแกรนด์ ไซโก ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ในปีที่ผ่านมายอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายปวริศร์ เอี่ยมเอกพัฒนา Luxury Group Director แกรนด์ ไซโก ประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้แกรนด์ ไซโก วางกลยุทธ์ตอกย้ำภาพลักษณ์สร้างการจดจำแบรนด์นาฬิกาลักชัวรีหนึ่งเดียวจากเอเชียในระดับโลกในใจกลุ่มลูกค้า ตามคอนเซ็ปต์ Nature of Time ที่สะท้อนถึงแก่นแท้และ DNA ของแบรนด์ รวมทั้งเป็นผู้นำด้านความเที่ยงตรงสูงสุดและความประณีตของงานคราฟส์แมนชิพทุกดีเทลตามแบบฉบับญี่ปุ่น โดยเฉพาะการขัดเงาแบบซารัตสึ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ถูกพัฒนาขึ้นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ พร้อมๆ กับการโฟกัสขยายฐานกลุ่มลูกค้าในช่วงอายุ 30-45 ปี ผ่านการสร้าง Emotional Attachment เน้นการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้กลุ่มลูกค้าใหม่เข้ามามีประสบการณ์ร่วม ได้ใกล้ชิดและทำความรู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้น ควบคู่กับการสร้าง Brand Loyalty ในกลุ่มลูกค้าเดิมที่รู้จักแบรนด์ดีอยู่แล้ว
เพื่อให้สอดรับกับกลยุทธ์การตลาดและการโฟกัสกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ผ่านการสร้างประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ จึงจัดแคมเปญ My Grand Seiko My Pride นำเสนอความภาคภูมิใจและเอกลักษณ์ในทุกมิติของแบรนด์ ผ่านนิทรรศการของนักสะสมนาฬิกา 10 ท่าน และแคมเปญที่บอกเล่าเรื่องราวความภาคภูมิใจในความสำเร็จของเซเลบริตี้คนดัง 8 ท่าน พร้อมฉลองความสำเร็จของนาฬิการุ่นไอคอนิก “Sakura”
จากชื่อแคมเปญ My Grand Seiko แสดงถึงความผูกพันกับแบรนด์ที่นำเสนอผ่านการจัดแสดงนาฬิกาจากนักสะสมนาฬิกาแถวหน้าของเมืองไทย 10 ท่าน อาทิ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์, ปราสาท วิทยาภัทร์, ธนสาร วิจิตรกาญจน์ ฯลฯ ส่วน My Pride บอกเล่าเรื่องราวความภาคภูมิใจกับความสำเร็จของตัวเองในวันนี้ของเซเลบริตี้ทั้ง 8 ท่าน ได้แก่ เจย์ สเปนเซอร์, จุลจักร จักรพงษ์, ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล, กรุณ ซอโสตถิกุล, อภินรา ศรีกาญจนา, สรีนา ธีระวิทยภิญโญ, วฤธ หงสนันทน์ และ ชวัล เจียรวนนท์ เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ต่อไป สอดคล้องกับแกรนด์ ไซโกที่เป็นความภาคภูมิใจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพราะเป็นแบรนด์นาฬิกาลักชัวรีหนึ่งเดียวที่ได้ไปร่วมงาน Watches and Wonders ซึ่งเป็นงานจัดแสดงนาฬิกาชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งการได้รับรางวัล GPHG ซึ่งถือว่าเป็นรางวัลออสการ์ในวงการนาฬิกาลักซัวรี และ Grand Seiko Standard นั้นยังมีมาตรฐานความเที่ยงตรงที่สูงกว่ามาตรฐานจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเครื่องการันตีคุณภาพและมาตรฐานในระดับโลกอีกด้วย
อีกหนึ่งไฮไลต์ของงาน คือ นิทรรศการฉลองความสำเร็จของนาฬิการุ่นไอคอนิก Sakura ขนาด 40 มิลลิเมตร ราคาเรือนละ 227,000 บาท กลไก Spring Drive ความเที่ยงตรงที่ +1-1 วินาทีต่อวัน สวมใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดดเด่นด้วยดีไซน์หน้าปัดที่นำความงามอันแสนละมุนของสีชมพูอ่อน ๆ จากแพดอกไม้ Hana-Ikada (ฮานา-อิคาดะ) ที่ปรากฏขึ้นในช่วงเวลา Shunbun (ชุนบุน) ช่วงเวลาที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากันในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเกิดจากกลีบซากุระปลิวไปตามสายลมแล้วร่วงหล่นปกคลุมพื้นผิวของแม่น้ำ สะท้อนสัจธรรมแห่งธรรมชาติของเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเมื่อเวลาผันเปลี่ยนไป
นอกจากนี้ภายในงานยังมี Grand Seiko Pop Up Café ที่มีเมนูพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติรอบๆ สตูดิโอที่นำมาสร้างสรรค์เป็นหน้าปัดนาฬิกาแกรนด์ ไซโกรุ่นต่างๆ ซึ่งนับเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ที่สนใจได้เข้ามาใกล้ชิดกับแบรนด์ในบรรยากาศเป็นกันเอง