แสนสิริ เปิดเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี และอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50% ต่อปี กำหนดจองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ทริสเรทติ้งจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดยมี 10 สถาบันการเงินชั้นนำให้ความเชื่อมั่น ผนึกกำลังเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป (ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน) เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 1 – 2 และ 6 มิถุนายนนี้
นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) กล่าวว่า แสนสิริเปิดเผยอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดใหม่ ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50% ต่อปี ซึ่งจะจัดจำหน่ายผ่าน 10 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) หุ้นกู้ทั้ง 2 ชุด จะชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยเสนอขายให้แก่ผู้ประชาชนเป็นการทั่วไป จองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปชำระคืนหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2562 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2566 และส่วนที่เหลือเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ซึ่งในปีนี้แสนสิริมีแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย ไว้ที่ 55,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้รวม 40,000 ล้านบาท รวมถึงวางเป้าหมายกำไรสุทธิทุบสถิติ ALL-Time High ซึ่งนับเป็นเป้าหมายที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในทุกๆด้าน
ทั้งนี้ 10 สถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้แสนสิริระบุว่า หุ้นกู้แสนสิริ มีกระแสตอบรับที่ดีโดยมีผู้ลงทุนสอบถามรายละเอียดการจองซื้อเข้ามาจำนวนมาก ก่อนเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 1 – 2 และ 6 มิถุนายนนี้ มาจากความหลากหลายของอายุหุ้นกู้ที่มีทางเลือกให้ผู้ลงทุนโดยแบ่งเป็น 2 ชุดให้เลือกจองซื้อ มีผลตอบแทนที่น่าพอใจ รวมถึงอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี