วันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน 2567 09:37น.

แสนสิริโชว์ผลงาน 9 เดือน กวาดยอดขายทะลุ 25,500 ลบ. ไตรมาส 4 เปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,000 ลบ.

6 ตุลาคม 2021

        แสนสิริ (SIRI) ตอกย้ำความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาฯ โชว์ผลงานรอบ 9 เดือนปี 64 กวาดยอดขายทะลุ 25,500 ล้านบาท ไตรมาส 3 โกยยอดขายทะลัก 7,900 ล้านบาท โตขึ้น 139% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 3,300 ล้านบาท พร้อมสร้างผลงานยอดโอนรอบ 9 เดือนพุ่งรวม 23,700 ล้านบาท มั่นใจผลงานตามเป้า จากการมี Secured Revenue ในช่วง 9 เดือนแล้วถึง 90 % จากเป้ารายได้ 27,600 ล้านบาท 

        เผยไตรมาสสุดท้าย เตรียมเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท รับสัญญาณเศรษฐกิจฟื้น แบ่งเป็น 4 คอนโดมิเนียม มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท และ 3 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท รองรับความต้องการทุกเซกเมนต์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแสนสิริในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการมีบ้านของคนทุกกลุ่ม เตรียมแผนขยายธุรกิจ ประกาศรับซื้อที่ดิน 10 ทำเล รอบกรุงเทพฯ – ปริมณฑล รับเศรษฐกิจ – อสังหาฯ ได้แรงบวก หลังคลายล็อคคุมโควิด

        นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แสนสิริมีผลงานที่แข็งแกร่งในรอบ 9 เดือน โดยสร้างยอดขายรวมได้ถึง 25,500 ล้านบาท คิดเป็น 82% จากเป้าหมายยอดขาย 31,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายจากโครงการแนวราบ 17,300 ล้านบาท และยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 8,200 ล้านบาท โดยผลงานในไตรมาสที่ 3 บริษัทมียอดขายสูงถึง 7,900 ล้านบาท โตขึ้น 139% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดขาย 3,300 ล้านบาท

        ความสำเร็จของยอดขายในรอบ 9 เดือน มาจากการปิดการขายโครงการ 5 โครงการทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม นอกจากนี้แสนสิริยังตอกย้ำความสำเร็จของการเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาฯ ไทย ในตลาดซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ด้วยความสำเร็จของโครงการ “BuGaan เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์” ระดับราคา 35.9 – 80 ล้านบาท ที่จ่อคิวปิดการขาย รวมทั้งการเป็น “ผู้นำการพัฒนาแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับบน” ด้วยยอดขายจากแบรนด์เศรษฐสิริ และ บุราสิริ ที่มียอดขายที่ดีต่อเนื่อง อาทิ เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา2 ,เศรษฐสิริ พระราม 5 และเศรษฐสิริ จรัญฯ – ปิ่นเกล้า2 เป็นต้น ขณะที่ทาวน์โฮมแบรนด์ สิริ เพลส ซีรีย์ใหม่ “Dream Destination” ที่รุกเปิดตัวในปีนี้ก็ได้รับความสนใจและกระแสตอบรับที่ดีในทั้ง 2 โครงการ ทั้ง สิริ เพลส บางนา-เทพารักษ์ ที่พัฒนาจากแรงบันดาลใจการออกแบบจากมหานครนิวยอร์ก และสิริ เพลส วงแหวน – ลำลูกกา แรงบันดาลใจการออกแบบจากเสน่ห์แห่งเมืองเกียวโต พร้อมเตรียมเปิดตัวทาวน์โฮม สิริ เพลส โครงการใหม่ ในซีรีย์ “Dream Destination” อีกหลายทำเลต่อยอดความสำเร็จในเร็วๆ นี้

        ยังรวมถึง ความสำเร็จของยอดขายคอนโดมิเนียมในช่วง 9 เดือน ที่ประสบความสำเร็จครอบคลุมทุกเซกเมนต์ อาทิ คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค, โอกะ เฮาส์ และเดอะ เบส สะพานใหม่ เป็นต้น โดยบริษัทยังได้ปิดการขายโครงการ ดีคอนโด ธาร จรัญฯ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมไฮไลท์ด้วยความร้อนแรงของซีรีย์คอนโดมิเนียม แบรนด์ THE MUVE (เดอะ มูฟ) แบรนด์คอนโดน้องใหม่จากแสนสิริ หนึ่งในโปรดักส์ไฮไลท์ในปีนี้ ที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแสนสิริ ในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการมีบ้านของคนทุกกลุ่ม และรองรับเซกเมนต์ในระดับราคาที่เข้าถึงง่าย สร้างความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากกลุ่มลูกค้าไทยและชาวต่างชาติ

        ตั้งแต่ “เดอะ มูฟ เกษตร” ตามมาด้วย “เดอะ มูฟ ราม 22” ที่ Sold Out! รวดทุกยูนิตที่เปิดขายในทั้ง 2 โครงการ สะท้อนความเป็นเบอร์หนึ่งเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมของแสนสิริอย่างแท้จริง และมีแนวโน้มจะส่งต่อความสำเร็จไปยัง เดอะ มูฟ บางนา/เดอะ มูฟ บางแค และ เดอะ มูฟ ประดิพัทธิ์ อีก 3 คอนโดน้องใหม่ซีรีย์ฮอตแห่งปี ที่เตรียมเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 ต่อไป

        นอกจากนี้ แสนสิริยังมีผลงานการโอนที่โดดเด่นในรอบ 9 เดือน โดยมียอดโอนโครงการรวมทั้งแนวราบและแนวสูงถึง 23,700 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76% จากเป้าหมายยอดโอน 31,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดโอนจากโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม ในสัดส่วน 52 : 48 โดยไตรมาสสุดท้าย 

        บริษัทยังมียอดโอนต่อเนื่องจากคอนโดมิเนียมเอดจ์ เซ็นทรัล – พัทยา คอนโดไลฟ์สไตล์สุดพีคใจกลางพัทยา และ ดีคอนโด ไฮด์อเวย์ – รังสิต รองรับการรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ตามเป้าหมายรายได้จากการขายที่วางไว้ 27,600 ล้านบาท โดยล่าสุด แสนสิริมี Secured Revenue หรือรายได้ในมือที่รองรับแล้วถึง 24,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90% จึงคาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้ารายได้ที่วางไว้

        แสนสิริยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 4 อีก 7 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท ได้แก่ “DEMI สาธุ 49” ดีลักซ์ ทาวน์โฮมจากแสนสิริ ราคา 17.9 – 35 ล้านบาท, โครงการฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์ บ้านเดี่ยวในสังคมส่วนตัวเพียง 10 ยูนิต ราคา 7 – 9 ล้านบาท เปิดชมครั้งแรก 30 – 31 ตุลาคมนี้ และโครงการอณาสิริ รังสิต บ้านสไตล์ญี่ปุ่น เริ่ม 4.59 – 7 ล้านบาท เปิดชมครั้งแรกธันวาคมนี้

        นอกจากนี้เพื่อต่อยอดความสำเร็จของการเป็นผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวระดับบน จากยอดขายที่ดีของแบรนด์บ้านเดี่ยวเศรษฐสิริและบุราสิริ แสนสิริยังได้เตรียมเปิดขายบ้านดีไซน์ใหม่ใน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการบุราสิริ พหล-วัชรพล บ้านบรรยากาศรีสอร์ท พร้อม Courtyard ในราคา 13.99 – 22 ล้านบาท ,เศรษฐสิริ จรัญฯ – ปิ่นเกล้า 2 บ้านดีไซน์ใหม่ พร้อม Double Volume ในราคา 12 – 25 ล้านบาท และเศรษฐสิริ พหล – วัชรพล บ้านวิวสวน พร้อม Double Volume ในราคาเริ่ม 18.99 ล้านบาท ในวันที่ 16 – 17 ตุลาคมนี้อีกด้วย

        “ขณะที่แผนการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาสสุดท้าย แสนสิริเตรียมเปิดตัว 4 โครงการคอนโดมิเนียม ราคาเข้าถึงง่าย มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท ได้แก่ “เดอะ มูฟ ประดิพัทธิ์” ทำเลคอมมูนิตี้ ใจกลางเมืองเพียง 500 เมตร จาก BTS สะพานควาย เริ่ม 2.19 ล้านบาท เตรียมเปิดให้จองสิทธิ์มาก่อนได้ก่อนเร็ว ๆ นี้ และ “เดอะ มูฟ บางแค” ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีบางแคเพียง 190 เมตร เริ่ม 1.39 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซลล์ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดตัว “ดีคอนโด พนา” คอนโดใหม่ ใกล้ MRT บางขุนนนท์ ส่วนกลางครบ พร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เริ่ม 1.59 – 3.99 ล้านบาท เปิดจองวันที่ 6 – 7 พฤศจิกายนนี้ พร้อมเตรียมเปิดตัวแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ “condo me” คอนโด มี นวนคร มีคอนโดง่ายๆ เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมอยู่ ราคาต่ำล้าน เริ่ม 999,999 บาท เปิดจองวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ ตอบรับความต้องการกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น และตอกย้ำความมุ่งมั่นของแสนสิริในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการมีบ้านของคนทุกกลุ่ม” นายอุทัย กล่าว

        แสนสิริมองเห็นโอกาสที่ดีหลังสถานการณ์โควิดที่เริ่มคลี่คลาย ซึ่งหากรัฐสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาได้เร็วก็จะส่งผลที่ดีต่อตลาดอสังหาฯ ตามไปด้วย ทั้งนี้ แสนสิริมองแง่บวกถึงทิศทางในปี 2565 หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ที่ต้องปรับตัวให้เร็ว รองรับความต้องการลูกค้าและการกลับมาของตลาด เพื่อพร้อมวิ่งก่อนใคร

        โดยบริษัทได้เตรียมแผนขยายธุรกิจ ประกาศรับซื้อที่ดินจำนวนมาก 10 ทำเล รอบกรุงเทพฯ – ปริมณฑล โดยมีทำเลไฮไลท์​ที่ต้องการ ได้แก่ 1. ทำเลสายไหม – วัชรพล – สุขาภิบาล 5 ​,2. ทำเลรามอินทรา – เกษตร-นวมินทร์ – ประดิษฐ์มนูธรรม ​,3. ทำเลพระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา – รามคำแหง – มีนบุรี ​,4. ทำเลบางนา – อ่อนนุช – ศรีนครินทร์ – กิ่งแก้ว – ลาดกระบัง​ ,5. ทำเลพระราม 3 – พระราม 2 – สุขสวัสดิ์ – ประชาอุทิศ​ ,6. ทำเล ราชพฤกษ์ – พระราม 5 – รัตนาธิเบศร์ ​,7. ทำเลเพชรเกษม – พุทธมณฑล – ศาลายา​ ,8. ทำเลราชเทวี – ปทุมวัน –พระราม 4 – สุขุมวิท – สาทร ​,9. ทำเลจตุจักร – รัชดา – ลาดพร้าว​และ และ10. ทำเลธนบุรี – คลองสาน – บางรัก – เจริญกรุง – เจริญนคร


คลิปวิดีโอ