นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริตอกย้ำการเป็นผู้นำที่อยู่อาศัยในระดับลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ด้วยความสำเร็จที่เห็นได้อย่างชัดเจนของโครงการระดับแฟล็กชิพบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ “บ้านแสนสิริ พัฒนาการ” ที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับตลาดบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่ยังคงเป็นโครงการที่ถูกพูดถึงและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของเราจนถึงปัจจุบัน รวมถึงแบรนด์บ้านเดี่ยว นาราสิริ Luxury in Details งดงามในรายละเอียด ซึ่งปิดการขายในทุกโครงการ ล่าสุด แสนสิริประสบความสำเร็จอีกครั้งในตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ แบรนด์ บูก้าน (BuGaan) เอ็กซ์คลูซีฟ โมเดิร์น เรสซิเดนท์ แบรนด์ใหม่ล่าสุด ภายใต้ “Sansiri Luxury Collection” ในทำเล โยธินพัฒนา ไพร์มโลเคชัน ที่หาไม่ได้อีกแล้วใจกลางเมือง มูลค่าโครงการรวม 600 ล้านบาท โดยปิดการขายเอ็กซ์คลูซีฟ โมเดิร์น เรสซิเดนท์ ที่มีเพียง 14 ยูนิต ระดับราคา 35.9 – 80 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 4 เดือน
“แสนสิริสานต่อความสำเร็จในบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ แบรนด์ บูก้าน (BuGaan) จากความเชื่อมั่นในแบรนด์ แสนสิริ จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 37 ปี ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเข้าถึงลูกค้าในทุกระดับราคา นอกจากนี้แสนสิริยังนับเป็น Taste -Maker Brand ที่พัฒนาบูก้าน (BuGaan) แบรนด์ลักซ์ชัวรี่ ที่สามารถเล่านิยามความลักซ์ชัวรี่แบบใหม่ในทุกรายละเอียดออกมาได้อย่างพิถีพิถัน ภายใต้แนวคิดการพัฒนาแบรนด์และโครงการ จากความเข้าใจลูกค้า หรือ Customer Centric และความเข้าใจไลฟ์สไตล์ลูกค้ากลุ่ม Young Successor ที่มีความชอบและไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำแบบใคร ภายใต้แนวคิดการออกแบบโครงการ “Made For Customer Lifestyle” สู่บ้านที่สะท้อนตัวตนของเจ้าของบ้าน “My Home Speaks for Myself” ที่ Customized Space และฟังก์ชันให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์และรสนิยมของผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง” นายอุทัย กล่าว
ส่งผลให้ “BuGaan” (บูก้าน) เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่ม Young Successor ได้เป็นอย่างดี ทั้งความเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ ที่เปรียบเสมือน Penthouse on Ground หรือ เพนท์เฮาส์ในรูปแบบบ้าน กับสเปซและฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์ในแบบ Modern Luxury Living ใส่ใจในทุกรายละเอียดผ่านสเปซและฟังก์ชันรองรับไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบันที่หลากหลาย อย่างเหนือระดับ ส่วนกลางแบบส่วนตัวด้วยสระว่ายน้ำระบบน้ำแร่ Freshwater Swimming Pool และลิฟท์ส่วนตัวภายในบ้าน พร้อมความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนยูนิตในโครงการที่มีเพียง 14 ยูนิตเท่านั้นซึ่งควรค่าแก่การครอบครอง ส่งผลให้ บูก้าน (BuGaan) ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ความสำเร็จของบูก้าน (BuGaan) เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ ยังมาจากทำเลที่นับเป็น The Best Location for Luxury Residence “โยธินพัฒนา” ซึ่งเป็นทำเลที่หาไม่ได้อีกแล้วใจกลางเมือง สำหรับผู้ที่ปรารถนาในการมีบ้านระดับลักซ์ชัวรี่และ ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ใกล้เลียบทางด่วนเอกมัย- รามอินทรา
“ทั้งนี้ จากความสำเร็จของแบรนด์บูก้าน (BuGaan) และการปิดการขายโครงการ บูก้าน โยธินพัฒนา แสนสิริยังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกโครงการด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และไม่หยุดนิ่งต่อการก้าวทันเทรนด์การออกแบบ พร้อมการนำเสนอคุณภาพที่เป็นที่สุดในทุกรายละเอียด ร่วมด้วยการผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนมีระดับรุ่นใหม่อย่างสมบูรณ์แบบต่อไป โดยวางแผนเดินหน้าพัฒนาแบรนด์บูก้านต่อยอดความสำเร็จและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่ม Niche Target ใน Luxury Residential Area ทำเลอื่นๆ อาทิ โลเคชั่นใหม่ล่าสุด ทำเลสุดไพร์ม ย่านพัฒนาการ 32 ห่างจาก บ้านแสนสิริ พัฒนาการ ไปเพียง 300 เมตร ราคาเริ่มต้น 49 ล้านบาท* และกรุงเทพกรีฑา เป็นต้น พร้อมยังได้วางแผนรุกเซกเมนต์บ้านเดี่ยวระดับบน อาทิ แบรนด์ นาราสิริ บุราสิริ เศรษฐสิริ และ DEMI ในปี 2565 อีกด้วย” นายอุทัย กล่าว
นอกจากนี้ ความสำเร็จจากการปิดการขายโครงการบูก้าน โยธินพัฒนา ยังส่งผลให้ ล่าสุดแสนสิริมียอดขายจากโครงการแนวราบไปแล้วถึง 19,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นถึง 98% จากเป้าหมายยอดขายโครงการแนวราบที่วางไว้ 20,000 ล้านบาท และสร้างยอดโอนไปได้แล้ว 13,800 ล้านบาท โดยในไตรมาสสุดท้ายยังเตรียมเปิดอีก 3 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท รองรับความต้องการทุกเซกเมนต์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแสนสิริในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการมีบ้านของคนทุกกลุ่ม