SAM ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรจาก TRIS ที่ระดับ “AA+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ชูบทบาท AMC ภาครัฐ เตรียมระดมทุนออกหุ้นกู้ Q2 ปี 65 รองรับหนี้เสียหลังโควิด ช่วยฟื้นฟูลูกหนี้และระบบสถาบันการเงิน
นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM กล่าวว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS) จัดอันดับเครดิตองค์กรของ SAM ที่ระดับ AA+ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” เป็นปีที่สอง โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะของ SAM ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความสำคัญกับภาครัฐในระดับ “สำคัญมาก” และมีความสัมพันธ์ ในระดับ “สูงสุด” กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฯ) จาก “เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตองค์กรที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ” เนื่องจากกองทุนฯ เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดและมีอำนาจควบคุม กำหนดและกำกับดูแลนโยบาย ทิศทางในการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงนโยบายทางการเงินของ SAM อย่างใกล้ชิดผ่านทางคณะกรรมการบริษัท ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจาก ธปท. กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่น ๆ ของภาครัฐ ซึ่งแสดงถึงความใกล้ชิดระหว่าง SAM และภาครัฐ ทั้งนี้ ความสัมพันธ์และความสำคัญของ SAM ต่อกองทุนฯ และ ธปท. ได้รับการสนับสนุนจากบทบาทของ SAM ในการเป็นตัวแทนของ ธปท. ในการดำเนินนโยบายที่สำคัญของธนาคารกลางและทำหน้าที่ในฐานะบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐเพียงแห่งเดียวที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินด้วยการเข้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินต่าง ๆ และเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างที่สำคัญในการรับมือกับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มมากขึ้นในระบบสถาบันการเงิน ดังนั้น หากการดำเนินงานของ SAM มีการหยุดชะงัก อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงินโดยรวม ซึ่งเห็นได้จากการที่ SAM มีบทบาทในการดำเนิน “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ที่ริเริ่มโดย ธปท. เพื่อส่งเสริมการปรับโครงสร้างหนี้โดยสมัครใจสำหรับลูกหนี้รายย่อยประเภทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันที่ประสบปัญหาในการชำระคืนหนี้ ปัจจุบัน โครงการคลินิกแก้หนี้มีจำนวนลูกหนี้ภายใต้โครงการเพิ่มขึ้นเป็น 68,000 บัญชี เนื่องจากมีการขยายคุณสมบัติผู้สมัครอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกหนี้สามารถเข้าร่วมโครงการได้มากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ SAM ในการเป็นผู้ดำเนินนโยบายของ ธปท.
โดยในมุมมองของ TRIS นั้น SAM จัดเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีขนาดของสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศจากจำนวนบริษัทบริหารสินทรัพย์ทั้งหมด 59 แห่ง โดยมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการรวม 2.9 หมื่นล้านบาท คิดเป็นภาระหนี้ตามบัญชีรวม 3.5 แสนล้านบาท ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากขนาดของธุรกิจและความชำนาญของ SAM รวมถึงการสนับสนุนแหล่งเงินทุนจากกองทุนฯ TRIS เชื่อว่าบทบาทของ SAM ไม่อาจแทนที่ด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์รายอื่นในระยะสั้นถึงปานกลาง
นายธรัฐพรกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านแหล่งเงินทุนหลักสำหรับการขยายธุรกิจของ SAM นั้น TRIS ได้ระบุในรายงานว่า SAM มีเงินสดรับชำระหนี้จากลูกหนี้สินเชื่อด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายถึง 1.2 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงที่ผ่านมา และแม้ว่าเงินสดรับจะลดลงในช่วงสภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากสถานการณ์โควิด 19 SAM ยังมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆ เป็นแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้น 9.5 พันล้านบาท และการได้รับการจัดอันดับเครดิตครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของการออกและจำหน่ายหุ้นกู้ในอนาคต เพื่อระดมเงินทุนมารองรับปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งธนาคารพาณิชย์ไทยและต่างชาติที่จะเพิ่มมากขึ้นภายหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยคาดว่าจะเข้าสู่ตลาดหลังจากมาตรการการช่วยเหลือลูกหนี้จบลง ส่งผลให้บริษัทบริหารสินทรัพย์มีแนวโน้มเติบโตและ SAM มีโอกาสในการเข้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล