อาร์เอส กรุ๊ป พลิกฟื้นกำไรไตรมาส 1/2565 ที่ 55 ล้านบาท จากรายได้รวม 845 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% ผลจากศักยภาพของโมเดล Entertainmerce มาถูกทาง ส่งผลให้ธุรกิจสื่อฟื้นตัวชัดเจน พร้อมลุยจัดกิจกรรมและคอนเสิร์ตใหญ่ รวมทั้ง K-Pop อีเวนต์ในครึ่งปีหลัง เพื่อสร้างการเติบโตทั้งแนวตั้งและแนวราบอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจคอมเมิร์ซ เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอกย้ำการเป็น Your Wellbeing Partner เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภค รวมไปถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ เจาะกลุ่มตลาด พรีเมียมแมสที่รักสุขภาพ และการขยายตัวทางธุรกิจด้วยการเข้าซื้อ ULife เพื่อปั้นธุรกิจขายตรงยุคใหม่ คาดสามารถกลับมาสร้างผลงาน New High ได้อีกครั้ง
นายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สำหรับไตรมาสแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการขายและบริการ จำนวน 845 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจ Entertainmerce โดยธุรกิจสื่อและบันเทิงมีการเติบโตสูงขึ้นมากทั้งในแนวตั้งและแนวราบ โดยเฉพาะธุรกิจสื่อ ในไตรมาสแรกมีรายได้ จำนวน 352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103% จากไตรมาสก่อน และ 38% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการยกระดับคอนเทนต์ทั้งละคร ข่าว และรายการมวย ตลอดจนการผลิตรายการใหม่ๆ ตลอดทั้งไตรมาส ประกอบกับกลยุทธ์การหารายได้จากหลากหลายช่องทาง ทั้งรายได้โฆษณาจากสื่อโทรทัศน์ที่ฟื้นตัว เสริมด้วยรายได้จากการขายคอนเทนต์ไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สูงขึ้น และธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ยังมีทิศทางการเติบโตที่ดีในครึ่งปีหลัง รายได้ที่จะมาจากการจัดกิจกรรม K-Pop และคอนเสิร์ตหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายอีกด้วย”
“ในส่วนธุรกิจคอมเมิร์ซนั้น แม้จะยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่บริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์และแผนการตลาด เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยในไตรมาส 2 พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการและมีส่วนผสมหลักที่สำคัญอย่างสารสกัดจากกัญชงและ CBD เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Krill Oil plus CBD จากแบรนด์ well u, เครื่องดื่มคามูซี พลัส กัญชง และ คามูซี ซีบีดี ช็อต นอกจากนี้ การเข้าซื้อและโอนกิจการทั้งหมดของ ULife ซึ่งทำแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม จะทำให้ ULife กลายเป็นขายตรงยุคใหม่ที่มีความโดดเด่นแตกต่างด้วยการ Synergy กับธุรกิจอื่นๆ ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจและเพิ่มความแข็งแกร่งในการทำการตลาด นำไปสู่โอกาสทั้งในด้านการเพิ่มยอดขาย การสร้าง Business Partner ปัจจุบันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และดึงดูด Business Partner รายใหม่ๆ เข้ามาอีกด้วย และในทางกลับกัน ULife ยังทำให้ อาร์เอส มีช่องทางจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า และทำให้ Ecosystem ของ อาร์เอส กรุ๊ป ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจคอมเมิร์ซของบริษัทฯ กลับมาเติบโตก้าวกระโดดอีกครั้ง”
นายวิทวัส ได้กล่าวปิดท้ายว่า “ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการของ อาร์เอส กรุ๊ป ได้อนุมัติแผนการออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของบริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนเมื่อปีที่แล้ว ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยจะพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 4/2565 ตามแผนที่วางไว้ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มบริษัทเชฎฐ์ ติดปีกและเติบโตอย่างรวดเร็ว เราย้ำเสมอว่ากลุ่มบริษัทเชฎฐ์ เป็น Strategic shareholder สำคัญของ อาร์เอส และจะรักษาสัดส่วนการถือหุ้นในกลุ่มบริษัทเชฎฐ์ ให้เป็นบริษัทร่วม เพื่อสร้าง Synergy ต่างๆ ร่วมกันในอนาคต”