ปรีดา กรุ๊ป เปิดตัว “โซลเลซ พหลฯ–ประดิพัทธ์” คอนโดมิเนียมแบรนด์น้องใหม่ ระดับ Luxury ในระดับราคาที่จับต้องได้ บนความสูง 50 ชั้น สูงสุดหนึ่งเดียวในพื้นที่ พหลฯ–ประดิพัทธ์ สู่ความเป็นไอคอนิค แลนด์มาร์คแห่งแรก และเป็นซิกเนเจอร์ไอเทม โครงการแรกจาก ปรีดา กรุ๊ป จัดเต็มด้วยส่วนกลางที่ครบที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ 6 ชั้น สร้างเทรนด์ใหม่แห่งการอยู่อาศัยที่ไร้ขีดจำกัด ภายใต้คอนเซปต์ “โลกความสุขในแนวตั้งที่ครบที่สุด” Live Worldticle ด้วยความเป็นธรรมชาติ กับพื้นที่สีเขียวเกือบ 2 ไร่ บนทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า ทางด่วน อาคารรัฐสภาและ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
นายปิติพัฒน์ ปรีดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปรีดาโฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ปรีดา กรุ๊ป ได้พัฒนาโครงการ “โซลเลซ พหลฯ – ประดิพัทธ์” (Solace Phahol Pradipat ) คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่จาก ปรีดา กรุ๊ป รองรับตลาดกลุ่ม Luxury ในระดับราคาที่จับต้องได้ นำเสนอออกมาในรูปแบบของอาคาร Mixed Use สูง 50 ชั้น มูลค่าโครงการ 3,100 ล้านบาท ซึ่ง “โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์” ถือเป็นคอนโดมิเนียมที่มีความสูงที่สุดบนทำเล พหลฯ – ประดิพัทธ์ ที่ ปรีดา กรุ๊ป ตั้งใจให้เป็นผลงานซิกเนเจอร์ เพื่อเป็นไอคอนิค แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของพื้นที่ ที่สร้างความแตกต่างให้เกิดภาพจำที่สะท้อนผลงานของ ปรีดา กรุ๊ป โครงการนี้พัฒนาขึ้นบนพื้นที่ 3 ไร่ 3 งาน 59 ตารางวา ผสมผสานการใช้งานระหว่างคอนโดพักอาศัย,พื้นที่เชิงพาณิชย์ และพื้นที่สำนักงาน รวมทั้งหมด 558 ยูนิต จัดเต็มด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่บนพื้นที่ 6 ชั้น เป็นโครงการที่มีพื้นที่สีเขียวที่อยู่บนพื้นดินและบนอาคารเกือบ 2 ไร่ จากพื้นที่โครงการทั้งหมดเกือบ 4 ไร่ จึงเปรียบเสมือน Oasis แห่งใหม่ในย่านพหล–ประดิพัทธ์ สะท้อนแนวคิด “โลกความสุขในแนวตั้งที่ครบที่สุด” Live Worldticle ตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนรุ่นใหม่บนทำเลศักยภาพ สามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสถานีสะพานควาย อารีย์ ใกล้ทางด่วน ใกล้สถานีกลางบางซื่อ
“โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์”เป็นคอนโดมิเนียมที่โดดเด่นด้วยความสูง 50 ชั้น แต่ออกแบบได้ดีจนควบคุมราคาเปิดตัวได้อย่างน่าสนใจ ดังนั้นแม้ “โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์” จะมีความสูงมากกว่าโครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่จะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 35-40 ชั้น ซึ่งเป็นระดับที่สร้างความคุ้มทุนให้กับโครงการได้ดีกว่าโครงการที่มีความสูงเกินกว่านั้น จะมีภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นหลายด้าน ทั้งจากโครงสร้างที่ต้องเสริมแข็งแรงให้มากขึ้น รวมถึงค่าแรงการก่อสร้าง ที่จะสูงขึ้นตามระยะเวลาการก่อสร้างที่ต้องเพิ่มขึ้นตามจำนวนชั้นที่ปกติจะต้องใช้เวลา 7–10 วันต่อหนึ่งชั้น การมีจำนวนชั้นถึง 50 ชั้น จึงเป็นความท้าทายในการพัฒนาโครงการในทุกด้านทั้งด้านการออกแบบให้มีจุดคุ้มทุนมากที่สุด งานดีไซน์ที่ต้องให้โดดเด่นสมกับเป็นไอคอนิค และคุณภาพงานก่อสร้าง ที่ ปรีดา กรุ๊ป กล้าที่จะแตกต่าง และอีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญของ “โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์” คือการออกแบบผังของทุกชั้นให้แตกต่างและเกิดความคุ้มค่า โดยเกือบทั้งโครงการจะออกแบบให้แต่ละชั้นเป็นแบบ Sigle Loaded Corridor ทำให้ในเกือบทุกยูนิตจะมีความเป็นส่วนตัวที่แตกต่างจากโครงการอื่น โดยแทบไม่มีห้องตรงข้ามที่หันหน้าเข้าหากัน แตกต่างจากการออกแบบจากคอนโดมิเนียมทั่วไปที่แต่ละยูนิตจะเรียงตัวกัน 2 ฝั่งโดยมีทางเดินตรงกลาง โดย “โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์” จะมียูนิตนำเสนอ 5 ประเภท เริ่มจาก ห้อง Studio เริ่มต้นที่ 29.90 ตารางเมตร,1 Bedroom ขนาด 28.49–38. 90 ตารางเมตร,2 Bedroom ขนาด 45.82–54.78 ตารางเมตร, Loft 1 Bedroom ขนาด 28.49-38.90 ตารางเมตร (ชั้นลอย 10,16 ตารางเมตร) และ Loft 2 Bedroom ขนาด 45.82–54.49 (ชั้นลอย 19,15 ตารางเมตร) โดยในชั้นสูงตั้งแต่ชั้น 21 ขึ้นไปได้ออกแบบให้มีเพียง 13 ยูนิตต่อชั้นเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และมีโซนพิเศษชั้น 44-49 ที่เรียกว่า Legacy Zone โดดเด่นและหรูหราที่มาพร้อมความสูงของเพดาน 3 เมตร
นางสาวปิยะฉัตร ปรีดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปรีดา เรียล เอสเตส จำกัด กล่าวว่า “โซลเลซ พหลฯ – ประดิพัทธ์” ได้แรงบันดาลใจมาจากความเป็นธรรรมชาติที่สะท้อนองค์ประกอบของโลก ได้แก่ 1.ดิน 2.น้ำ 3.ป่า 4.ท้องฟ้า จากจุดเริ่มต้นของแนวคิดที่ไม่เหมือนใครนี้ได้ถ่ายทอดออกมาสู่การออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการที่ตอบโจทย์การพักผ่อนให้สามารถสัมผัสธรรมชาติได้ครบที่สุดอีกโครงการหนึ่ง โดยมีพื้นที่ส่วนกลางครอบคลุมพื้นที่ 6 ชั้น ประกอบด้วย ชั้น 1 ที่มาพร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และ Auto Parking Lounge ชั้น 10 พื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ทุกการพักผ่อนที่แตกต่าง ด้วย Private Onsen , Private Spa & Beauty,The Oasis Fitness , Private Pool Bar,Panoramic Swimming Pool ความยาว 29 เมตร,Sunset View Jacuzzi, Kids Playground , Uban Farm เป็นต้น ชั้น 11 ตอบโจทย์สำหรับคนรักการออกกำลังกาย มีทั้ง Sport & Game Lounge , Pilates & Yoga Room, Dance Studio ส่วนชั้น 19 จะรองรับการทำงานและพื้นที่จัดประชุมและงานเลี้ยง เช่น Meeting Room,Sky Private Kitchen , Party Deck และ Outdoor Dining เป็นต้น และชั้น 20 จะเป็นพื้นที่ของ Floating Daybed , Sky Garden Deck และ Skywalk นอกจากนี้ยังมีชั้น Rooftop ที่มี Observation Deck และ Star Deck ที่ไม่เหมือนใคร
ปัจจุบัน “โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์” ได้เปิดให้จองแล้วเพียง 2.99 ล้านบาท ซึ่งราคานี้ถือว่าเป็นราคานำเสนอสุดพิเศษ เนื่องจากเป็นราคาที่คำนวณมาจากราคาต้นทุนนับจากวันซื้อที่ดินเมื่อ 8 ปีที่แล้ว โดยไม่ได้ปรับขึ้น จึงถือเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับโครงการคุณภาพเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัว บนทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า ทางด่วน อาคารรัฐสภาและ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์