พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัว “PLUS CONSULTANCY SERVICE” บริการที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ ครบวงจร โชว์จุดแข็งประสบการณ์กว่า 30 ปี ตอบโจทย์ลูกค้าที่มองหาคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ สร้างจุดขายให้แตกต่างท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้น โดยใช้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ พร้อมตั้งเป้าเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจที่องค์กรชั้นนำให้ความไว้วางใจ
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า “พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งมั่นพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี จาก Core Business ได้แก่ การบริการดูแลที่พักและบริหารโครงการนิติบุคคล (Living Management) บริหารอาคารเชิงพาณิชย์ (Facility Management) LIV–24 เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ และงานตัวแทน ซื้อ ขาย เช่า และที่ปรึกษางานขายโครงการ (Sale Agent Management & Brokerage Service) เน้นธุรกิจในตลาดที่เชี่ยวชาญ ทำให้เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่มองหาบริการที่ปรึกษาอสังหาฯ เพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาขอคำปรึกษาภายใต้ความเชี่ยวชาญของพลัสฯ เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้ออกแบบบริการให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละเจ้าได้มีทางเลือกมากขึ้น โดยล่าสุดเปิดตัว PLUS CONSULTANCY SERVICE บริการที่ปรึกษาอสังหาฯ อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ เนื่องจากบางปัญหาหากไม่มีประสบการณ์จะต้องมีการลองผิด ลองถูก สูญเสียทั้งเวลา งบประมาณและทรัพยากรบุคคล แต่การเข้ามาปรึกษาพลัสฯ ที่มีประสบการณ์จะสามารถลดขั้นตอนเหล่านี้ลงได้ โดยสามารถเข้ามาปรึกษาเฉพาะส่วนที่มีปัญหา พลัสฯ จึงเป็นเหมือน One Stop Service ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลลูกค้าทุกขั้นตอน สะดวก รวดเร็ว เชื่อถือได้ และอยู่ในงบประมาณที่วางไว้”
PLUS CONSULTANCY SERVICE มีความเชี่ยวชาญใน 2 ธุรกิจหลัก
1.ให้คำปรึกษาในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
-Project Development: เชี่ยวชาญด้านการศึกษา วิเคราะห์ วางแผน พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท ทั้งโครงการที่พักอาศัยทั้งแนวราบ แนวสูงและวิลล่า ทีมงานของเรามีความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน พร้อมนำเสนอแนวทางการพัฒนาโครงการที่เหมาะสม คำนึงถึงศักยภาพของทำเล ความต้องการของลูกค้าในตลาด ทำการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลตลาด รวมถึงความเป็นไปได้ทางการเงินและการลงทุนอีกด้วย
-Sales & Marketing: ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการขายและการตลาด พร้อมวางกลยุทธ์ ตั้งราคาขาย การกำหนดกลุ่มลูกค้า และสร้างแคมเปญการตลาดที่โดนใจลูกค้าเป้าหมาย นำเสนอจุดเด่นของโครงการ ดึงดูดความสนใจและกระตุ้นยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงมีการวิเคราะห์ตลาดและคู่แข่งด้วยประสบการณ์และความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง
-Luxury Service Design: แนวโน้มของตลาดอสังหาฯ โครงการระดับลักซ์ชัวรี่มีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องหาจุดต่างเพื่อแข่งขันในตลาด พลัสฯ จะเข้ามาช่วยออกแบบประสบการณ์การอยู่อาศัยเหนือระดับเพื่อ รองรับไลฟ์สไตล์ลูกค้า โดยให้คำแนะนำทางกายภาพออกแบบพื้นที่การใช้งานต่างๆอย่างเหมาะสม เช่น จัดพื้นที่รองรับ Back Office Service ระบบการบริการลูกค้าที่ฉับไว รวมไปถึงการดูแลโครงการตั้งแต่กายภาพ บริการ ออกแบบบรรยากาศภายในโครงการ ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ไปจนถึงการปิดการขาย และที่สำคัญคือการดูแลบริหารหลังการขาย โดยพลัสฯใส่ใจทุกรายละเอียดของประสบการณ์ลูกค้า เช่น ขั้นตอนการต้อนรับลูกค้าเพื่อยกระดับมาตรฐานและสร้างความน่าจดจำ ออกแบบบริการให้มีเอกลักษณ์เหมาะสมกับคอนเซปต์โครงการ รวมถึงคัดสรรและฝึกพนักงานให้มีความเป็น Luxury DNA เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรก และยกระดับโครงการให้เหนือกว่าคู่แข่ง
2.ให้คำปรึกษาด้านการดูแล Property Management
-Operation & Maintenance: ปัจจุบันมีผู้พัฒนาอสังหาฯ หลายกลุ่มที่ขยายธุรกิจมายังตลาดที่พักอาศัย (Residential) ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม บริษัทก่อสร้าง ฯลฯ แต่ยังไม่มีประสบการณ์ด้านการดูแลบริหารจัดการ จึงต้องการทีมมืออาชีพมาให้คำแนะนำตั้งแต่ระหว่างออกแบบโครงการไปถึงการบริหารหลังการขาย รวมถึงนิติบุคคลที่มีความต้องการแก้ปัญหาเฉพาะจุด พลัสฯ สามารถให้คำปรึกษาในการจัดตั้งนิติอย่างถูกต้องตามหลักข้อกำหนดต่างๆ รวมถึงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางรองรับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป การ Design Journey ลูกค้าและจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิต การกำหนดค่าส่วนกลางที่เหมาะสมกับการดูแลต่างๆ เช่น งานซ่อมบำรุงรักษาตามระยะ การคัดสรรบริษัทคู่สัญญาต่างๆ หรือหากเป็นโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ที่มีบริการพิเศษต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะถูกนำมากำหนดเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลโครงการให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อยู่เสมอ รวมถึงการดูแลรักษากายภาพของโครงการให้เหมือนวันแรก ยิ่งจะช่วยเพิ่มคุณค่าของโครงการให้มากขึ้น
-Facility Inspection & Analysis:ตามกฎหมายอาคารในประเทศไทยจำเป็นที่ต้องมีการดูแล และตรวจสอบอาคารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความแข็งแรงและลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยพลัสฯ จะเข้ามาทำหน้าที่วางแผนตรวจสอบสภาพ วิเคราะห์ การซ่อมบำรุงอาคารอย่างมืออาชีพ ด้วยมีความรู้และประสบการณ์ด้านวิศวกรรม ทั้งในการตรวจสอบโครงสร้าง การวางแผนงานล่วงหน้าอย่างละเอียด ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบปรับอากาศ และระบบอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นระบบที่มีมูลค่าสูง ช่วยยืดอายุการใช้งาน และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้
-ESG & Energy Saving: ความท้ายทายในการดูแลอาคารในปัจจุบันเจ้าของอาคารต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พลัสฯ สามารถให้คำแนะนำและเสนอแนวทางในการประหยัดพลังงาน สนับสนุนธุรกิจให้ยั่งยืน วิเคราะห์การใช้พลังงานของอาคาร วางแผนและควบคุมการใช้พลังงานให้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นำเสนอเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการติดตั้งระบบ เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การทำระบบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก นอกจากช่วยลดค่าใช้จ่ายได้แล้ว ยังสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นองค์กรที่ทันสมัยมีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้อีกด้วย
“พลัสฯ เป็นองค์กรที่มีความถนัดในการทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจร การจะดึงเอาศักยภาพของคน องค์ความรู้และประสบการณ์ขององค์กร มาผสานกับการใช้เทคโนโลยีเฉพาะด้าน ควบคู่กันไปในการเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้า ฉะนั้นการมีบริษัทที่ปรึกษาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ต้องนึกถึงในยุคที่การเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยีเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว องค์กรธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องปรับตัวและหาทางออกใหม่ๆ เพื่อรับมือกับความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พลัสฯ ในฐานะที่ปรึกษาอสังหาฯ ครบวงจร พร้อมให้คำแนะนำและโซลูชันที่เหมาะสม ช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน”นายอนุกูล กล่าวทิ้งท้าย