“ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” บริจาคเงินส่วนตัวในนาม “ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์” รวมกว่า 51 ล้านบาท มอบให้วัด สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล มูลนิธิ และองค์กรสาธารณประโยชน์กว่า 40 แห่งทั่วประเทศ ตามเจตนารมณ์ที่ต้องการทำนุบำรุงศาสนา สนับสนุนทุนการศึกษา และช่วยเหลือหน่วยงานที่ทำงานเพื่อสังคมและประเทศไทย
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ รองประธานกรรมการ และผู้ก่อตั้ง บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2553 จุดเริ่มต้นของ “การให้” เกิดจากการที่ตนเคยได้รับทุนจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อครั้งเป็นนิสิต ซึ่งทุนนั้นได้เปลี่ยนชีวิต ทำให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา จนเรียนจบออกมาทำงาน และสร้างกิจการของตัวเอง เมื่อประสบความสำเร็จแล้วจึงต้องการแบ่งปันและมอบโอกาสให้ผู้อื่นบ้าง โดยใช้เงินส่วนตัวเป็นทุน เพื่อนำไปช่วยเหลือคนกลุ่มต่าง ๆ ทั้งด้านศาสนา การศึกษา และสังคม ตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ และได้มอบทุนต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ปีนี้เป็นปีที่ 14
“ที่ผ่านมา ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ได้มอบเงินสนับสนุนให้องค์กรสาธารณกุศลแล้วรวม 105 องค์กร เป็นจำนวนเงินกว่า 474 ล้านบาท โดยในการคัดเลือกองค์กรที่ได้รับทุน เราได้เปิดโอกาสให้พนักงาน ทุกคนของพฤกษามาร่วมเป็นจิตอาสา ทำหน้าที่สำรวจความต้องการของแต่ละองค์กร ติดตามผลการดำเนินงาน และเป็นสะพานบุญในการนำเสนอและหยิบยื่นโอกาสให้กับหน่วยงานในท้องถิ่นของตนเอง ทำให้พนักงานมีส่วนร่วมในฐานะผู้ให้ ซึ่งจะเป็นรากฐานในการพัฒนาชุมชนของตนไปพร้อม ๆ กัน” นายทองมา กล่าว
สำหรับการมอบทุนในปีนี้ มีวัด สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล มูลนิธิ และองค์กรสาธารณประโยชน์ทั่วประเทศ ได้รับทุนรวม 40 แห่ง แบ่งเป็นด้านศาสนา 7 หน่วยงาน ด้านการศึกษา 17 หน่วยงาน และด้านสังคม 16 หน่วยงาน
นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช ผู้อำนวยการมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ผู้รับทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 กล่าวว่า หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ทำหน้าที่รวบรวมข้อเขียนต้นฉบับของท่านพุทธทาส รวมทั้งจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างสติปัญญาและจิตใจของผู้คนให้มีความสงบ เย็น และเป็นประโยชน์ นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่สืบสานงานพระพุทธศาสนา และเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านศาสนธรรมอันรื่นรมย์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านจิตใจในลักษณะ Spiritual Fitness & Edutainment การที่คุณทองมาได้เอื้อเฟื้อมอบทุนให้จึงนับเป็นคุณูปการแก่วงการศาสนาอย่างมาก โดยเฉพาะการช่วยให้สามารถรักษาผลงานของท่านพุทธทาสไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด และตอนนี้ได้ขยายงานไปดูแลจดหมายเหตุของครูบาอาจารย์รูปอื่นด้วย ในส่วนของกิจกรรม ที่จัดขึ้น เมื่อทำแล้วได้ผลดีก็มีการขยายผลไปยังวัดอื่น ๆ จนเกิดการทำงานแบบธรรมภาคี หนึ่งในโครงการสำคัญที่เกิดขึ้นจากทุนนี้ คือ วัดบันดาลใจ ซึ่งตอนนี้ได้ขยายผลเป็น วัดวิถีใหม่ ทำให้เราถวายงานพระและวัดได้เต็มที่มากขึ้น
“ทุนที่ได้รับในปีนี้ เราจะนำไปทำโครงการวัดวิถีใหม่ให้เกิดความต่อเนื่อง มีการปรับปรุงวัด และทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับสภาพที่ปรับใหม่ให้มีความร่มรื่นรมณีย์ รวมทั้งจัดภาวนาออนไลน์ และขยายไปสู่งานออนไลน์อื่น ๆ นอกจากนี้ จะส่งเสริมงานธรรมสตรี และสนับสนุนพระคิลานธรรม ซึ่งเป็นการรวมตัวของพระที่ปรารถนาจะช่วยเหลือดูแลจิตใจเพื่อนมนุษย์ที่ประสบความทุกข์ ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ ทำให้เราทำกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง และขยายผลมากขึ้น เราเชื่อมั่นว่าในอนาคตจะมีพระที่พร้อมมาเป็นครูบาอาจารย์มากขึ้น เพื่อสอนผู้ที่มีทุกข์ ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับผู้คนได้อย่างมหาศาล” นายแพทย์บัญชา กล่าว
ด้าน นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่ามูลนิธิกระจกเงาให้ความสำคัญกับปัญหาคนหาย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสังคมอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย เราได้รับทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 เพื่อทำภารกิจค้นหาคนหาย ก่อนหน้านี้เรามีเจ้าหน้าที่เพียง 2 คน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการทำภารกิจให้มีประสิทธิภาพ การได้รับทุนดังกล่าวช่วยให้ปัจจุบันเราสามารถเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เป็น 8 คน และพัฒนาระบบฐานข้อมูลค้นหา คนหายขึ้นมาได้ ปัจจุบันอัตราการพบตัวคนหายเพิ่มขึ้นเป็น 80%
“เรายังคงให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่และระบบฐานข้อมูล เงินที่ได้รับจากทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ ในปีนี้ เราจะนำไปเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ให้เป็น 10 คน เพื่อให้สามารถรับแจ้งเหตุ ประสานงานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ และลงไปหน้างานได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงการพัฒนาฐานข้อมูลคนหายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทำโปรแกรมจับคู่ภาพคนเร่ร่อนหรือศพไร้ญาติที่มีคนส่งเข้ามาให้เราตรวจสอบกับฐานข้อมูลคนหายที่มีอยู่ ซึ่งจะมีความแม่นยำมากขึ้น และเชื่อมโยงกับหน่วยงานราชการอย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เราคาดหวังว่าสิ่งที่เราทำจะทำให้คนหายมีโอกาสกลับคืนสู่ครอบครัวได้มากขึ้นเป็น 85% ขอขอบคุณคุณทองมา และทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ ที่ช่วยสนับสนุนให้เราทำภารกิจพาคนหายกลับบ้าน ทำให้ชีวิตของคนรอไม่ต้องจมอยู่กับอดีต ช่วยปลดล็อกให้เขาเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปได้” นายเอกลักษณ์ กล่าว