เลขาธิการ คปภ. จัดปฐมนิเทศติวเข้มนักศึกษา วปส. รุ่นที่ 11 ฉายภาพและปูพื้นสร้างความเข้าใจระบบงานของ คปภ. ในภาคปฏิบัติก่อนเจาะลึกสหวิทยาการด้านประกันภัย พร้อมเปิดกว้างรับฟัง ความคิดเห็น เพื่อนำไปพัฒนาระบบประกันภัยของไทยให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนภายใต้ New Emerging Risk
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) โดยสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) ได้จัดปฐมนิเทศและกิจกรรมหลักสูตร วปส. รุ่นที่ 11 ประจำปี 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจหลักการพื้นฐานด้านประกันภัย บทบาทหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. เชื่อมความสัมพันธ์ รวมทั้งการแนะนำการศึกษาค้นคว้าเพื่อทำรายงานวิชาการการศึกษากลุ่ม (Group Project : GP) ตลอดจนการทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ร่วมกัน ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ โรงแรมลาโค่ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
ในโอกาสนี้ ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) ได้เป็นประธานเปิดปฐมนิเทศหลักสูตร วปส. รุ่นที่ 11 ประจำปี 2566 พร้อมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “นโยบายของสำนักงาน คปภ. กับความท้าทายในการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยภายใต้ New Emerging Risk” โดยได้ฉายภาพบทบาทของสำนักงาน คปภ. และการดำเนินการในเชิงรุกภายใต้สถานการณ์ที่มีความเสี่ยงอุบัติใหม่ต่าง ๆ เกิดขึ้น โดยในปี 2566 จะเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านของสำนักงาน คปภ. จากเดิมที่อยู่ในสถานะของการตั้งรับ (Response) และเรียนรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไปสู่การสร้างสมดุล (Rebuilding) ของระบบประกันภัย ด้วยการฟื้นฟูความเชื่อมั่น (Recovery) ควบคู่กับการเสริมสร้างความมั่นคงและยืดหยุ่น (Resiliency) ให้กับระบบประกันภัย เพื่อให้ภาคธุรกิจประกันภัยสามารถก้าวข้ามความท้าทายต่าง ๆ ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่น ซึ่งจะเร่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ภาคธุรกิจประกันภัยมุ่งสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง ปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่เน้นในเรื่อง Principle-based มากขึ้น ยกระดับกระบวนการให้ความเห็นชอบผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมเพื่อเร่งส่งเสริมและกระตุ้นให้ธุรกิจประกันภัยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่อย่างจริงจัง ผลักดันให้ประกันภัยตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน ขับเคลื่อนการปรับปรุงกฎหมายแม่บทด้านการประกันภัย ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยด้วยเทคโนโลยี ยกระดับการกำกับดูแลเพื่อเตรียมรองรับมาตรฐานสากลที่เปลี่ยนแปลงไป การบูรณาการความร่วมมือด้านการสื่อสาร เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมประกันภัยให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนเพิ่มมากขึ้น ยกระดับสำนักงาน คปภ. มุ่งสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล หรือ SMART OIC ที่มีความยืดหยุ่น พร้อมรับความท้าทาย และชูบทบาทสถาบัน วปส. ในการเสริมสร้างความรู้และส่งเสริมงานวิจัยด้านการประกันภัย เป็นต้น
การปฐมนิเทศครั้งนี้ยังมีการบรรยายวิชาการในหัวข้อ “หลักการและกฎหมายประกันภัยที่ควรรู้” โดย นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกฎหมายและคดี ได้เสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับหลักการและสาระสำคัญของกฎหมายประกันภัยทั้งระบบที่จำเป็นจะต้องทราบก่อนที่จะมีการสอนเจาะลึกลงในรายละเอียดในชั่วโมงเรียนต่อ ๆ ไป รวมทั้งมีการแนะนำ “หลักเกณฑ์วิธีการทำรายงานวิชาการการศึกษากลุ่ม (Group Project : GP)” โดย ดร.นิรัตน์ ทรัพย์ทวีธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง ได้ให้คำแนะนำแนวทางการศึกษาค้นคว้าเพื่อทำรายงานวิชาการแก่นักศึกษา นอกจากนี้ ได้ร่วมทำกิจกรรม CSR สร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีต่อช้าง รวมถึงรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นต่อประชากรช้างในประเทศไทย เพาะเมล็ดมะค่าโมง ทำปุ๋ยจากมูลช้าง ให้อาหารช้าง อาบน้ำช้าง ร่วมบริจาคและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของศูนย์เพื่อนำรายได้ไปใช้ในการดูแลช้างอีกด้วย โดยได้รับเกียรติจาก คุณวีนา อุปปัทมา กรรมการมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
“การปฐมนิเทศ วปส.รุ่นที่ 11 ครั้งนี้ถือได้ว่าครบเครื่องและเข้มข้นในด้านวิชาการเพื่อปูพื้นฐานความรู้หลักการด้านการประกันภัยให้กับนักศึกษาก่อนเริ่มเรียนจริง รวมทั้งมีกิจกรรมการละลายพฤติกรรม เพื่อให้นักศึกษาทุกคนมีส่วนร่วม โดยการปฐมนิเทศนี้จะเน้นพัฒนาการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริงและแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมของนักศึกษาก่อนที่จะเข้าห้องเรียนเพื่อศึกษาแบบสหวิทยาการด้านประกันภัย รวมทั้งเป็นการให้ข้อมูลพื้นฐานทั้งแนะนำการจัดทำรายงานวิชาการการศึกษากลุ่มตามหัวข้อยุทธศาสตร์ประกันภัยด้านต่าง ๆ ที่ต้องการขับเคลื่อน เพื่อระดมความคิดเห็นมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบประกันภัยของไทย” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
…………..