โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี เสนอขายระหว่างวันที่ 3 – 5 เมษายน นี้ ซึ่งบริษัทฯ และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” พร้อมแต่งตั้งธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ โดยจะนำเงินที่ได้ไปคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า ทาง NOBLE เตรียมออกเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ โดยเป็นการออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุก ๆ 100,000 บาท เสนอขายระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน 2566 โดยวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อนำเงินที่ได้ไปคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายนและตุลาคม 2566 จำนวน 1,732.50 ล้านบาท และ 700.00 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนที่เหลือเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ทั้งนี้บริษัทฯและหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” ซึ่งถือเป็นระดับ Investment grade หรือเรียกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้
ในส่วนของผลการดำเนินงานของปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 8,678 ล้านบาท กำไรสุทธิ 455 ล้านบาท และมียอดขาย (Pre-sale) อยู่ที่ 17,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% จากสิ้นปี 2564 ซึ่งเป็นยอดขายที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (Record High) ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯมา นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีการเปิดโครงการใหม่ในปี 2565 จำนวน 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 31,550 ล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 2) โครงการนิว เมกา พลัส บางนา 3) โครงการนิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น เฟส1 4) โครงการนิว อีโว อารีย์ 5) โครงการนิว คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง 6) โครงการนิว ครอส คูคต สเตชั่น เฟส 1 7) โครงการโนเบิล คิวเรท 8) โครงการโนเบิล ครีเอท 9) โครงการนิว โคฟ นอร์ธ ราชพฤกษ์ 10) โครงการโนเบิล เคิร์ฟ และ 11) โครงการนิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นปี 2565 ในมือรวมมูลค่า 19,627 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า
สำหรับในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมที่ระดับ 15,000 ล้านบาท และยอดขายที่ระดับ 23,000 ล้านบาท โดยมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 10 โครงการ มูลค่ารวม 23,300 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งโครงการประเภทบ้านเดี่ยว ทาว์นโฮม ที่ดินเปล่า และคอนโดมิเนียมแนวราบและแนวสูง โดยกระจายทำเลให้หลากหลายและคลอบคลุมทุกทิศของกรุงเทพฯ เช่น แถบกรุงเทพตะวันตก และตะวันออก เป็นต้น รวมถึงทำเลกลางใจกลางเมือง อาทิ ถนนวิทยุ