วันพุธ ที่ 27 พฤศจิกายน 2567 17:32น.

เอ็นพลัส และ ดิ เอสเตท ลงนาม MoU เสริมแกร่งธุรกิจเวิลด์ฮับ เพื่อรองรับต่างชาติ ต่อยอด MQDC ผู้นำตลาด

8 ธันวาคม 2021

        เอ็นพลัส อิงค์ (Enplus Inc.) บริษัทขนย้ายชั้นนำระดับโลกของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ริโก้ ลีสซิ่ง (Ricoh Leasing) ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัท ดิ เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ The Estate (Thailand) บริษัทในเครือของบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย โดยการลงนามครั้งนี้จะมีบทบาทสำคัญของการริเริ่มเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจในอาเซียน

        การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจครั้งนี้จะเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจแบบ B2B ระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย โดยทั้ง เอ็นพลัส และ ดิ เอสเตทจะช่วยกันเติมเต็มและเสริมสร้างประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในทุกมิติ นำเสนอโซลูชั่นการบริการและประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสให้กับลูกค้า ความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทจะทำให้ เอ็นพลัส สามารถขยายธุรกิจในอาเซียน ในขณะที่ ดิ เอสเตท สามารถให้บริการแบบครบวงจรที่ พัฒนาเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าองค์กรในญี่ปุ่น และขยายฐานลูกค้าภายในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

        ดร.เนตรนภิศ สุขบาง ประธานผู้อำนวยการ บริษัท ดิ เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “การลงนามความร่วมมือกับเอ็นพลัสในครั้งนี้ จะทำให้ดิ เอสเตทรุก ตลาดต่างประเทศในเชิงกลยุทธ์ได้มากขึ้น ด้วยการเป็น “แหล่งข้อมูลทางเลือก” ด้านอสังหาริมทรัพย์สำหรับธุรกิจระหว่างประเทศที่กำลังมองหาโซลูชั่นที่อยู่อาศัยแบบครบวงจรทั้งระยะสั้นและระยะยาวในประเทศไทย

        อีกทั้งความร่วมมือกับเอ็นพลัสในครั้งนี้จะเป็นเวทีสำคัญด้านความร่วมมือทางธุรกิจที่มีความเป็นไปได้ผ่านรูปแบบธุรกิจและการลงทุนในอนาคตอีกมากมาย รวมถึงศักยภาพสำหรับแพลตฟอร์มบริการที่อยู่อาศัย/บริการที่อยู่อาศัยข้ามพรมแดนแบบบูรณาการ พร้อมพัฒนาไปสู่เป้าหมายการเป็น World Expat Hub เจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรระหว่างประเทศ”

        ด้านมิสคานะ คุโมชิตะ (Ms. Kana Kumoshita) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นพลัส อิงค์ จำกัด (Enplus Inc.) กล่าวเสริมว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ ดิ เอสเตท เพื่อขยายธุรกิจในอาเซียนและเผยแพร่ปรัชญาองค์กร ตามแนวคิด “More Value, Less Barrier” (เพิ่มคุณค่าการบริการ ลดอุปสรรคความยุ่งยาก) โดยการร่วมมือกันในครั้งแรกนี้ เรามีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็วรวมถึงลดความซับซ้อนของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานในการโยกย้ายที่อยู่ใหม่สำหรับลูกค้าองค์กรระหว่างประเทศอีกด้วย

        การลงนามความร่วมมือกับดิ เอสเทตในครั้งนี้ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ท้าทายความสามารถของเราในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาการทำงานด้านทรัพยากรบุคคลระหว่างประเทศญี่ปุ่นและภูมิภาคอาเซียนให้ง่ายขึ้นด้วย”


คลิปวิดีโอ