“ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ที่อยู่ในมิกซ์ยูส โปรเจ็กต์ มูลค่า 2,200 ล้านบาท แห่งแรกและแห่งเดียวในย่านศาลายา บนทำเลศักยภาพปากซอยตั้งสิน ใกล้ม.มหิดล ชูจุดขาย “ยืนหนึ่งย่านศาลายา” ปลุกกระแสตลาดอสังหาฯ ทำเลศาลายา ผลักดันโครงการเป็นฮับแห่งใหม่ของทำเลตะวันตก เต็มอิ่มกับเอ็กซ์คลูซีฟไลฟ์สไตล์ ด้วยส่วนกลางใหญ่กว่า 2.6 ไร่ ที่มาพร้อมกับ 48 กิจกรรม และ Co-living space กว่า 980 ตร.ม. ในราคาเพียง 2.5-5 ล้านบาท โดยมี “ไนท์แฟรงค์” เป็นตัวแทนบริหารงานขาย และ “CPAC” ร่วมสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมการก่อสร้างเทคโนโลยี Green Building เตรียมเปิดจอง VIP DAY ในราคาพิเศษ พร้อมรับส่วนลดพิเศษกว่า 200,000 บาท 23-24 ก.ค. นี้
นายเดชโรจน์ ตั้งสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีนำ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” (Salaya One Residences) คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ที่อยู่ในมิกซ์ยูส โปรเจ็กต์ แห่งแรกและแห่งเดียวในย่านศาลายา ใกล้ ม.มหิดล ภายใต้แนวคิด “ยืนหนึ่งย่านศาลายา” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ทุ่มเทเต็มกำลังเพื่อรังสรรค์โครงการคุณภาพแห่งใหม่ “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ที่อยู่ในมิกซ์ยูส โปรเจ็กต์ มูลค่ารวม 2,200 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพในย่านศาลายา ปากซอยตั้งสิน ใกล้ ม.มหิดล โดยพัฒนาในรูปแบบคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม 3 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 471 ยูนิต และยังมีอีก 2 อาคารในส่วนของมิกซ์ยูส จะดำเนินการในส่วนของโรงแรม เซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ หอหญิง และไลฟ์สไตล์มอลล์ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสร้างความแตกต่างและปลุกกระแสตลาดอสังหาฯ ให้พื้นที่กลับมาคึกคัก โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นผลักดันให้โครงการเป็นไอคอนนิค (Iconic) ศูนย์กลางที่อยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ของทำเลตะวันตก
ทั้งนี้ “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” มีแนวคิดการพัฒนาโครงการโดยมุ่งตอบโจทย์ผู้พักอาศัยในทุกกลุ่ม โดยเน้นไปที่กลุ่มนักศึกษา (Campus Condo) ทั้งในแง่ความพิถีพิถันด้านงานออกแบบและคำนึงถึงฟังก์ชันที่ตอบโจทย์อย่างครบครัน ภายใต้จุดขาย “ยืนหนึ่งย่านศาลายา” ครอบคลุมทุกด้าน อาทิ “ยืนหนึ่ง” ด้านห้องพักขนาดใหญ่อยู่สบาย ฟังก์ชันครบจบทุกความต้องการ มีห้องพักให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ ห้องขนาดห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 31.5-33 ตร.ม., ห้อง 1 Bed Exclusive ขนาด 34.90 ตร.ม., ห้อง 1 Bed Exclusive – Corner ขนาด 36-40 ตร.ม., ห้อง 1 Bed Plus ขนาด 42-46 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom ขนาด 75 ตร.ม. มีที่จอดรถทั้งหมด 142 คัน หรือ คิดเป็น 30% (รวมซ้อนคัน) ในราคาเพียง 2.5-5 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยประมาณ 80,000 บาทต่อตร.ม. นับเป็นราคาที่สามารถเอื้อมถึง “ยืนหนึ่ง” ในย่านเช่นกัน
“ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” ยืนหนึ่งด้วยเอ็กซ์คลูซีฟไลฟ์สไตล์ ส่วนกลางใหญ่ที่สุดในย่านศาลายากว่า 2.6 ไร่ มาพร้อมกับ 48 กิจกรรม ที่ตอบโจทย์ของกลุ่มนักศึกษาและผู้อยู่อาศัยอย่างครบครัน และ Co-living space กว่า 980 ตร.ม. โดยโครงการแบ่งแยกโซนพื้นที่ส่วนกลางอย่างชัดเจน เพื่อความสะดวกในการใช้พื้นที่ พร้อมมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดให้กับผู้พักอาศัยด้วยระบบคีย์การ์ด และ “ยืนหนึ่ง” ด้านไลฟ์สไตล์ที่ได้ครบ EAT/LIVE/WORK/PLAY หนึ่งเดียวย่านศาลายา รวมถึงไลฟ์สไตล์มอลล์ด้านหน้าโครงการที่รองรับร้านค้าและร้านอาหารแบรนด์ดังไว้บริการกว่า 10 ร้านค้า
ทางด้านทำเล “ยืนหนึ่ง” โดยตั้งอยู่บนทำเลดีที่สุด ปากซอยตั้งสิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตย่านศาลายา เป็นแหล่งที่พักอาศัยของกลุ่มนักศึกษาที่มีอัตราการเข้าพักอาศัยหนาแน่น ทั้งยังเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ร้านอาหารอร่อย คาเฟ่วัยรุ่น ตลาดไนท์ ฯลฯ อีกทั้งโครงการยังมีแผนงานร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อปรับปรุงชุมชนและถนนในซอยตั้งสินให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น และผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางของพื้นที่ ด้วยบริการรถบัสรับส่งกึ่งสาธารณะระหว่างซอยตั้งสิน ม.มหิดล และรถไฟฟ้า BTS บางหว้า
“การพัฒนาโครงการ บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาทำเล วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้อยู่ และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างเจาะลึก ร่วมกับ “ไนท์แฟรงค์” ที่ปรึกษาบริหารงานขายฯ ซึ่งมั่นใจว่าจุดขายของโครงการจะแตกต่างจากทุกโครงการในทำเลนี้ ทั้งการพัฒนาในรูปแบบอาคารสีเขียวโดยความร่วมมือกับ CPAC การเพิ่มระบบความปลอดภัยและให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ขณะที่ ความโดดเด่นของคอนโดพรีเมียม คือ ทำให้ชั้น 8 เป็น Strong Point สามารถเดินเพียง 1 ชั้น ถึง “สวนลอยฟ้า” ซึ่งเป็นส่วนกลางไฮไลต์พรีเมียมโปรดักส์ ที่แตกต่างและพรีเมียมมากกว่า “ยืนหนึ่ง” ที่สุดในทำเล ทั้งนี้โครงการคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ในปี 2566 นี้”
ด้านนายณัฎฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปล่อยเช่าคอนโดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามแนวรถไฟฟ้า หรือ ประเภทแคมปัสคอนโดใกล้มหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะได้ผลตอบแทนจากราคาค่าเช่า หรือ Gross Rental Yield อยู่ที่ 3-4% หากได้สูงกว่า 4% ขึ้นไป ถือว่ามีความคุ้มค่าน่าลงทุน และปัจจัยที่ต้องพิจารณาถัดมา คือ Capital Gain ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โครงการมีมูลค่าสูงขึ้นนอกจากค่าที่ดินที่มีมูลค่าปรับขึ้นทุกปีก็คือการดูแลรักษาโครงการที่ดี โดยโครงการมิกส์ยูส หรือ โรงแรม จะได้เปรียบในข้อนี้ เพราะเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีอยู่เสมอ และอีกปัจจัยสำคัญคือทำเลที่ตั้งของโครงการ หากเป็นทำเลแห่งอนาคตที่มีปัจจัยสนับสนุนให้พื้นที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า จะผลักดันให้ราคาคอนโดในอนาคตพุ่งสูงขึ้น
สำหรับผลสำรวจเจาะลึกอสังหาฯ ปล่อยเช่าคอนโดในย่านศาลายา โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบ ม.มหิดล พบว่ามีอัตราการเช่าอะพาร์ตเมนต์สูงถึง 89% มีราคาค่าเช่าสำหรับอะพาร์ตเมนต์ทั่วไปเฉลี่ย 3,000-7,500 บาทต่อเดือน และอะพาร์ตเมนต์เกรดสูงขึ้นมามีราคาค่าเช่าอยู่ที่ 10,000-15,000 บาทต่อเดือน อย่างไรก็ดีอะพาร์ตเมนต์ในย่านศาลายาส่วนใหญ่ก่อสร้างมานานแล้ว ทำให้สภาพโครงการไม่มีความลักซ์ชัวรี่มากนักแม้จะเป็นโครงการเกรดสูง โดยทำเลแหล่งที่พักอาศัยที่ได้รับความนิยมสูง แบ่งเป็น 3 โซนหลัก คือ โซนหน้า ม.มหิดล โซนข้าง ม.มหิดล และโซนซอยตั้งสิน ขณะที่การพัฒนาโครงการคอนโด มีเพียง 2 บริเวณเท่านั้น คือ โซนข้าง ม.มหิดล และ ซอยตั้งสิน โดยซอยตั้งสิน นับเป็นทำเลที่ดีได้รับความนิยมสูง เพราะเป็นแหล่งชุมชน มีความปลอดภัย และใกล้มหาวิทยาลัยมากกว่าโซนข้าง ม.มหิดล ที่ทำเลจะขนานไปกับแนวรางรถไฟ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเสียงรถไฟตลอดวัน
สำหรับผู้ปกครองของนักศึกษา ม.มหิดล ที่มีความพร้อมและเห็นโอกาสการลงทุน เมื่อเทียบกับค่าเช่าระยะเวลา 4-6 ปี ค่าเช่าเดือนละ 12,000 บาท เทียบกับคอนโดใหม่ ราคาประมาณ 2.55 ล้านบาท จะคิดเป็นประมาณ 22% ของราคาซื้อขาดแล้ว ดังนั้น มองว่า “การซื้อ” ถือว่าคุ้มค่ามากกว่า เพราะได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าในระหว่างเรียน และหลังเรียนจบก็ยังสามารถปล่อยเช่า หรือ ขายต่อได้ในราคาที่ดี
นางสาวกัลยา วรุณโณ Managing Director – SMART Structure บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ท่าหลวง) จำกัด กล่าวว่า “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับการก่อสร้างในแบบ Green Construction เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบ Smart Living ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่ตรงกันกับนโยบายของ CPAC ที่ต้องการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้กับการก่อสร้าง ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบจนถึงการก่อสร้างจริง และถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสีเขียวนำร่อง (Case study) โครงการแรก เพราะที่ผ่านมาบริษัทฯ จะเน้นเฉพาะโครงการบ้านแนวราบ
“บริษัทฯ นำเอาเทคโนโลยีที่เรียกว่า “CPAC BIM” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่ใช้ในการบริหารจัดการการก่อสร้าง เพื่อช่วยลดต้นทุน ควบคุมเวลาการก่อสร้างได้ CPAP Drone Solution ทำให้เห็นภาพรวมการใช้พื้นที่ และลดความผิดพลาดการก่อสร้าง CPAC 3D Printing พิมพ์รูปโครงสร้างและตัวอาคาร ลดการใช้แรงงาน ลดเศษวัสดุ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ จะนำมาใช้กับโครงการ ศาลายา วัน เรสซิเดนท์”
อนึ่ง “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” ตั้งอยู่บนทำเลปากซอยตั้งสิน นับเป็นโซนที่ดีที่สุดของซอย และที่สำคัญการพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส มีทั้งคอนโด โรงแรม เซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ และไลฟ์สไตล์มอลล์ เมื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว จะสร้างความเจริญให้ซอยตั้งสินคึกคักมากขึ้นอีก และผลักดันให้อนาคต คอนโดในโซนนี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างคุ้มค่า