แอล พี พี ร่วมกับ ซลีปชาร์จ ขยายโซลูชั่นการบริการ นำร่อง 7 โครงการ ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าฯ ด้วยนวัตกรรมที่เป็นจุดเด่น ระบบ Overnight แก่โครงการที่ แอล พี พี บริหารจัดการ มุ่งยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตและความสะดวกสบายแก่ลูกบ้าน พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถ EV ที่พักอาศัยในคอนโดฯ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและขับเคลื่อนพลังงานสะอาดในสังคมไทย
นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด หรือ LPP ผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า LPP และ ZLEEPCHARGE หรือ บริษัท ซลีปชาร์จ จำกัด ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในขยายโซลูชั่นด้านบริการ โดยนำร่องพัฒนาจุดชาร์จรถ EV สำหรับคอนโดมิเนียมและที่พักอาศัยร่วมโดยเฉพาะ (Custom Experience) เพื่ออำนวยความสะดวกสบายและตอบโจทย์การใช้ชีวิตในปัจจุบันให้แก่ผู้อยู่อาศัยภายในโครงการที่ LPP ดูแลให้มีความล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นจุดเด่นในการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV ในโครงการที่ LPP บริหารจัดการ ซึ่งนอกจากจะเป็นการยกระดับมาตรฐานคุณภาพการใช้ชีวิตให้สามารถตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของสังคมเมืองในปัจจุบันได้ลงตัวแล้วนั้น ยังเป็นการแสดงจุดยืนที่สำคัญในเรื่องของความใส่ใจสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมอีกด้วย
นายสุรวุฒิ กล่าวว่า “LPP ได้พิจารณาแล้วว่าสถานีชาร์จของ ZLEEPCHARGE มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีการออกแบบวิธีชาร์จมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ใกล้เคียงกับการใช้งานแบบ Homecharger ตามบ้านมากที่สุด ด้วยระบบ “Overnight” ที่ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องกังวลว่าจะต้องลงมาขยับรถตอนกลางดึก อีกทั้งยังสามารถเข้าออกช่องชาร์จได้อย่างมีอิสระตลอดคืนที่ลูกบ้านจองการใช้งานเอาไว้ โดยในปี 2566 นี้ LPP ได้ผนึกกำลังกับ ZLEEPCHARGE นำร่องติดตั้งสถานีชาร์จในโครงการที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ LPP ไปแล้วจำนวน 7 โครงการ หรือ 14 เครื่องชาร์จ ซึ่งคาดว่า LPP และ ZLEEPCHARGE จะร่วมกันทำการติดตั้งสถานีชาร์จ ภายในปี 2023 จนครบ 20 โครงการ และตั้งเป้าที่จะขยายไปอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในปี 2024 จะสามารถขยายสถานีชาร์จได้อีกกว่า 100 โครงการโดย LPP และ ZLEEPCHARGE จะทำการศึกษาและพิจารณาจุดบริการในแต่ละโครงการ และความต้องการใช้งานร่วมกับคณะกรรมการของแต่ละโครงการ เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Charging ให้ครอบคลุมการใช้งานของผู้อยู่อาศัยได้อย่างสูงสุด
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเข้าถึงเทรนด์ของคนรุ่นใหม่และผู้อยู่อาศัยในปัจจุบันที่หันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้สัดส่วนในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า xEV เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การมี Charging Infrastructure ภายในโครงการจึงช่วยตอบโจทย์ทั้งพฤติกรรมความต้องการของผู้อยู่อาศัย รวมถึงช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ลดมลภาวะ และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสร่วมกันที่จะขยายการใช้งานของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมไปยังโครงการอื่นที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ LPP อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยทุกท่านสามารถใช้สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้แบบ “ชาร์จปลอดภัย ให้คุณใช้ชีวิต ‘สมูท’ ได้ทุกวัน”
ด้าน นายธีร์พิสุทธิ์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซลีปชาร์จ จำกัด (Zleepcharge) ผู้พัฒนาโซลูชั่นและให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า EV ครบวงจร กล่าวว่า “Zleep มีเป้าหมายในการผลักดันเทคโนโลยีพลังงานสะอาดไปพร้อมๆ กับการทำให้ผู้ใช้บริการใช้ชีวิตง่ายขึ้น และทำอย่างไรให้ประชาชน Go green มากขึ้น ซึ่ง Zleep มีจุดเริ่มต้นขึ้นจากแนวคิดนี้ เพราะเราคิดว่าหากการใช้รถ EV เป็นการก้าวไปสู่ความเป็นสังคมไร้คาร์บอน (Carbon Neutrality) แล้วเราจะทำอย่างไรให้คนที่ใช้รถ EV ได้พบกับประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิม เพราะการจะกระตุ้นให้สังคมเร่งเข้าสู่ Carbon Neutrality นั้น ควรมาคู่กับโซลูชั่นที่ทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น และสะดวกสบายมากขึ้น หรือถึงขั้นที่อาจเรียกได้ว่าอยู่นิ่งๆ ก็ช่วยโลกได้ จึงถือเป็นการทำให้สังคมเข้าสู่ Carbon Neutrality ได้ดีที่สุด
อีกทั้งยังมองว่าสถานที่แต่ละแห่งนั้นมีความแตกต่างกันออกไป เราจึงไม่ควรใช้รูปแบบของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Charging Experience) แบบเดียวกันทุกที่ แต่ควรคิดวิธีการชาร์จให้เหมาะสมกับแต่ละสถานที่ทั้งบ้าน ออฟฟิศ โรงแรม ฯลฯ สำหรับคอนโดมิเนียมนั้น เราคิดว่าประสบการณ์การใช้งานควรจะใกล้เคียงกับการชาร์จที่บ้าน เราจึงได้สร้างระบบ “Overnight” ขึ้นมา โดยเป็นบริการชาร์จโดยจอดรถทิ้งไว้ข้ามคืน และไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีที่จอดรถ หรือ ต้องลงมาเลื่อนรถกลางดึกด้วยฟีเจอร์ชาร์จรถ EV overnight ของ Zleep ซึ่งนอกจากระบบ Overnight สำหรับที่พักอาศัยรวมแล้ว Zleep ยังมี Custom Charging Experience สำหรับสถานที่อื่นเช่นกัน โดยเรามีกำหนดการจะเปิดตัวบริการชาร์จ สำหรับออฟฟิศ โรงแรม และร้านกาแฟ ภายในปี 2023 นี้”