วันจันทร์ ที่ 3 มีนาคม 2568 21:47น.

LEO บอร์ดใจดีเคาะจ่ายปันผลปี 67 อัตรา 0.14 บ./หุ้น เดินหน้าปีนี้ขอโตเพิ่ม 19%

3 มีนาคม 2025

        บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ มีเฮ! บอร์ดใจดีอนุมัติจ่ายเงินปันผลปี 2567 อัตราหุ้นละ 0.14 บาท ขึ้น XD วันที่ 13 มี.ค.68 กำหนดจ่ายวันที่ 14 พ.ค.68 ล่าสุดเปิดงบปี 67 โชว์รายได้แตะ 1,632.5 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 19% กำไรสุทธิของบริษัทใหญ่ที่ 83.4 ล้านบาท ฟากซีอีโอ “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” ระบุแผนปี 68 ลุยยุทธศาสตร์ “LEO Go Green” สร้างการเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้น ดันผลงานเติบโต 20-25%

       นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงวดปี 2567 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567) บริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน1,632.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 259.6 ล้านบาท คิดเป็น19% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ (งบการเงินรวม) อยู่ที่ จำนวน 47.6 ล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 83.4 ล้านบาท

       “ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา บริษัทได้รักษาความสามารถในการทำผลงานให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งนี้บริษัทได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลกของปี 2567 จึงทำให้ผลประกอบการของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่ LEO ไปร่วมลงทุนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และหลายบริษัทยังอยู่ในสภาวะการขาดทุน จึงทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯที่แสดงในงบการเงินรวมต้องรับรู้ผลการขาดทุนจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วม และทำให้กำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ลดลง” นายเกตติวิทย์ กล่าว

       ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่4/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 398.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2566 และมีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่อยู่ที่ 13.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาส 3/2567 และถือเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดของปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นไนไตรมาส 4/2567 จำนวน 121.0 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาส 3/2567 และไตรมาส 4/2566 เมื่อเปรียบเทียบปี 12M/2567 กับปี 12M/2566 กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 14.3 ล้านบาท คิดเป็น3% และ มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่30% ในไตรมาส 4/2567 เมื่อเปรียบเทียบกับ 24% ในไตรมาส 3/2567

        อนึ่งในปี 2567 บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากหน่วยธุรกิจใหม่ๆ เช่น การขนส่งสินค้าทางรางภายในประเทศภายใต้บริษัท Sritrang LEO Multimodal Logistics ซึ่งมีรายได้ในปี 2567 ประมาณ 140 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 ได้มากกว่า 70% การขนส่งทางรางไปยังประเทศจีน-ลาว ของบริษัท LaneXang Express มีการเติบโตของรายได้ถึงประมาณ 5 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2566 และการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนของบริษัท LEO Sourcing & Supply Chain ที่มีการเติบโตของรายได้มากกว่าปี 2566 ถึงเกือบ140% โดยเฉพาะการส่งออกทุเรียนที่มีการส่งออกมากขึ้นในช่วงปลายปี 2567 นอกจากนั้นธุรกิจใหม่อื่นๆ ได้แก่ โครงการ Self-Storage และ Wine Storage สาขาที่ 3 ที่ถนนพระราม 4 ที่บริษัทฯ ได้เริ่มรับรู้รายได้ และ การให้บริการการจัดการโลจิสติกส์และกระจายสินค้า ของบริษัท Advantis LEO ที่มีการเพิ่มขึ้นของรายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเพิ่มของรายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่นี้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics และบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าธุรกิจใหม่ๆเหล่านี้จะสร้างการเติบโตของกำไรขั้นต้นและผลประกอบการของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่องให้เติบโตอย่างต่อเนื่องใน 1-2 ปีข้างหน้า

       บริษัทฯ ยังมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการบริหารจัดการบริษัทให้เป็นไปตามแผน ชูกลยุทธ์ “LEO Go Green” ยกระดับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรอย่างความยั่งยืน พร้อมต่อยอดธุรกิจ Non-freight และ Non-Logistics สร้างรายได้เพิ่มจากการบริการจัดการด้าน Warehouse / Distribution Center ดันผลงานปี 2568 ให้มีการเติบโต 20-25% และมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics เพิ่มขึ้นมาเป็นอย่างน้อย 30-35% ของภาพรายได้รวม และทำให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นของบริษัทสูงขึ้น

       พร้อมกันนี้ ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลของปี 2567 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตรา 0.14 บาท/หุ้น เป็นจำนวนเงินรวม 44.1 ล้านบาท จากกำไรสุทธิของบริษัทใหญ่ที่ 83.4 ล้านบาท และกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 13 มีนาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 14 พฤษภาคม 2568


คลิปวิดีโอ