วันศุกร์ ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 07:15น.

‘ทริพเพิล ไอ’ เปิดผลงานปี 67 ทำกำไรสุทธิ 441 ล้านบาท

19 กุมภาพันธ์ 2025

         ‘บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์’ เปิดผลประกอบการปี 2567 ทำรายได้รวม 2,398.1 ล้านบาท เติบโต 35.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) และมีกำไรสุทธิ (หลังหักรายการพิเศษ) 441.4 ล้านบาท ชะลอตัวลง 21.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY)  ปี 2568 ตั้งเป้าเติบโต 20% เปิดแผน “Synergy 360o” มุ่งผสานศักยภาพเชื่อมโยงทั้งธุรกิจหลักและธุรกิจที่เข้าลงทุนแบบทุกมิติเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งด้านการเพิ่มรายได้ บริหารต้นทุน และสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ รับปัจจัยบวกจาก AOTGA ที่มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องจากจำนวนเที่ยวบิน-ปริมาณสินค้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้น พร้อมยื่นประมูลผู้ให้บริการภาคพื้นดินของสนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 และ ANI เดินหน้าขยายขอบเขตการให้บริการ ตามยุทธศาสตร์ Logistics and Beyond

         นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 720.9 ล้านบาท เติบโต 47.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ (หลังหักรายการพิเศษ) 120.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีกำไรสุทธิ (หลังหักรายการพิเศษ) 98.3 ล้านบาท และยังเพิ่มขึ้น 17.9% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จากปัจจัยบวกธุรกิจท่องเที่ยวและขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) ในช่วง Peak  Season

         ขณะที่ภาพรวมผลประกอบการของปี 2567 บริษัทฯ สามารถทำรายได้จากการขายและบริการรวม 2,398.1 ล้านบาท เติบโตถึง 35.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) โดยมีการเติบโตทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจหลัก โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) ซึ่งเติบโตถึง 67% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน ANI ลดลงตามสัดส่วนการถือหุ้นหลังจากที่ ANI เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวลงจากผลกระทบของค่าเงินบาทและภาวะการแข่งขัน ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ (หลังหักรายการพิเศษ) 441.4 ล้านบาท  ชะลอตัวลง 21.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) อย่างไรก็ดี แม้จะต้องเผชิญความผันผวนจากภาวะทางเศรษฐกิจ และผลกระทบจากส่วนแบ่งกำไรใน ANI ที่ลดลง คาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯ ในปีนี้จะมีทิศทางที่ดีขึ้น

        ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ กล่าวต่อว่า ในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโต 20% ด้วยการต่อยอดยุทธศาสตร์ Logistics an Beyond ด้วยแผน Synergy 360o เพื่อผสานศักยภาพเชื่อมโยงทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจหลักและกลุ่มธุรกิจที่เข้าลงทุนแบบทุกมิติ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งด้านการเพิ่มรายได้ การบริหารจัดการต้นทุนขายด้วยการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างคุ้มค่าเพื่อเพิ่มอัตราการทำกำไรและการร่วมกันพัฒนาบริการเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น การร่วมมือกับ ANI พัฒนาบริการ Cargo Airline เพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์การขนส่งสินค้าทางอากาศในเส้นทางที่มีอัตราทำกำไรสูง เป็นต้น นอกจากนี้ จากการผสานความร่วมมือกับ AOTGA เมื่อปลายปี 2567 ซึ่งเราได้นำร่องโครงการ Airport Truck Link หรือบริการรถบรรทุกเชื่อม 3 สนามบินหลักของไทย ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต รวมทั้งการเปิดให้บริการคลังสินค้ารองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Warehouse) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีการตอบรับที่ดีมาก โดยในปี 2568 จะเป็นปีที่เราเปิดให้บริการเต็มปี ซึ่งจะส่งผลให้มีการเติบโตเป็นเท่าตัว

         สำหรับธุรกิจที่เข้าลงทุน อย่าง บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ที่บริษัทฯ ลงทุนผ่านบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) หรือ SAL มีการเติบโตต่อเนื่องตามเที่ยวบินและปริมาณสินค้าผ่านคลังภายในสนามบินดอนเมืองและสนามบินภูเก็ตที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งเตรียมยื่นประมูลผู้ให้บริการภาคพื้นดินของสนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 ล่าสุดคาดว่าจะมีการเปิดเผย TOR ในเดือนมีนาคมนี้

        ในส่วนของ บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI คาดว่าในปี 2568 มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากความต้องการขนส่งสินค้าทางอากาศที่มีอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนแผนขยายธุรกิจไปยังประเทศใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ เช่นประเทศในยุโรปเพื่อรองรับการส่งออกสินค้าจากยุโรปมายังประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีแผนขยายธุรกิจไปยังเกาหลีใต้และญี่ปุ่น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 2 ของปีนี้

         “สำหรับนโยบายเศรษฐกิจทรัมป์ 2.0 ซึ่งหลายภาคส่วนมีความเป็นห่วงว่าจะส่งผลกระทบกับการค้าระหว่างประเทศและต่อเศรษฐกิจโลก แต่ด้วยเครือข่ายและความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เราได้สร้างขึ้นผ่านยุทธศาสตร์ Logistics and Beyond มาโดยตลอด จะทำให้เราสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจได้จากประเทศที่ได้รับผลบวกจากสงครามทางการค้า ซึ่งจากแผน Synergy 360o ที่เราวางไว้ พร้อมปัจจัยบวกต่างๆ รวมไปถึงศักยภาพในการรับมือต่อภาวะผันผวนและความเปลี่ยนแปลง ทำให้มั่นใจว่า III จะสามารถเติบโต 20% ตามเป้าหมายของปี 2568 ได้อย่างแน่นอน” นายทิพย์ กล่าว


คลิปวิดีโอ