ทุกๆ คนทราบเป็นอย่างดีว่าการย่อยอาหารมีความสำคัญ การย่อยอาหารให้เป็นสารอาหารที่ร่างกายนำไปใช้เป็นพลังงาน การเจริญเติบโตและการซ่อมแซมเซลล์ แต่จะมีกี่คนที่เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างการย่อยอาหารและประสิทธิภาพการกีฬา
อาหารอเมริกันในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นอาหารแปรรูปสูง ไขมันอิ่มตัว น้ำตาล และไฟเบอร์ต่ำ จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า อาหารประเภทนี้ช่วยลดแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในระบบ ทำให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารได้ยากขึ้นและเพิ่มการอักเสบทั่วร่างกาย ส่งผลให้เกิดการผลิตสารอักเสบในลำไส้ ไม่เพียงเท่านั้นยังทำให้เกิดการอักเสบตามระบบต่างๆ ในร่างกายส่งผลต่อการทำงานของสมอง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้จะขัดขวางสมรรถภาพทางกีฬาและการฟื้นตัว
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพการเล่นกีฬา แบคทีเรียในลำไส้เกิดจากอาหาร รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ส่งผลต่อประสิทธิภาพของนักกีฬาและการฟื้นตัว การวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าการออกกำลังกายช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ไม่ดีในร่างกาย ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารและดูดซึมสิ่งที่ต้องการได้เป็นอย่างดี
นักกีฬาเริ่มตระหนักมากขึ้นว่าประสิทธิภาพโดยรวมได้รับผลกระทบจากสิ่งที่กินอย่างไรและสุขภาพทางเดินอาหารส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นกีฬา ดังนี้
ลดการอักเสบ
การอักเสบเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังหลายชนิดและยังรบกวนประสิทธิภาพการกีฬาได้หลายวิธี แต่ส่วนใหญ่อาจทำให้การฟื้นตัวหลังการออกกำลังกายช้าลงมาก การวิจัยแสดงให้เห็นว่า การปรับสมดุลไมโคร ไบโอมช่วยลดการอักเสบของระบบ ซึ่งช่วยบรรเทาทั้งระยะสั้นและลดความเสี่ยงในระยะยาว
ช่วยเพิ่มระดับพลังงาน
การผสมผสานของแบคทีเรียที่เป็นมิตรในไมโครไบโอมอาจช่วยเพิ่มระดับพลังงานได้ โดยส่งผลกระทบต่อวงจร Adenosine triphosphate (ATP) หรือวงจรพลังงาน ATP เป็นวิธีทางชีวเคมีของร่างกายในการจัดเก็บและขนส่งพลังงาน ไมโครไบโอมที่ดีต่อสุขภาพยังสามารถปรับปรุงการเผาผลาญ สิ่งนี้สามารถช่วยให้นักกีฬาทุกคน รวมถึงผู้ที่เล่นกีฬาสามารถเล่นกีฬาได้ยาวนานขึ้น โดยส่งสารที่จำเป็นไปยังไมโทคอนเดรีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าของเซลล์ร่างกาย
ปรับปรุงความแข็งแกร่งทางจิตใจ
บางคนอาจแย้งว่าความสำเร็จในกีฬาเป็นเรื่องของจิตใจ 100 เปอร์เซ็นต์ นักกีฬาและโค้ชมักให้เหตุผลว่าผลงานที่แย่ในการแข่งขันเกิดจากการคิดมากเกินไป จุลินทรีย์ในลำไส้พูดคุยกับสมองผ่านเส้นประสาทเวกัส ซึ่งควบคุมการทำงานของอวัยวะภายใน เช่น การย่อยอาหาร อัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราการหายใจ แม้ว่าจะเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าไมโครไบโอมสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้ นี่เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในด้านนี้ แต่การศึกษาบางชิ้นแนะนำว่า ลำไส้อาจส่งผลต่อความคิดและสมาธิ ในบางกรณีเมื่อจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่สมดุล แสดงว่ามีส่วนทำให้เกิดอาการป่วยทางจิต การศึกษาชิ้นหนึ่งเชื่อมโยง dysbiosis หรือความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้กับความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
ปรับปรุงการนอนหลับ
ความไม่สมดุลของไมโครไบโอมในลำไส้สัมพันธ์กับคุณภาพการนอนหลับที่ไม่ดีและการรับรู้ที่ลดลง เนื่องจากไมโครไบโอมในลำไส้ควบคุมระดับของฮอร์โมนต่างๆ เช่น คอร์ติซอล เซโรโทนินและกาบา ซึ่งล้วนส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ ไมโครไบโอมยังส่งผลต่อความสามารถของร่างกายในการสร้างเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อวงจรการหลับ การตื่นที่ดีต่อสุขภาพ การนอนหลับที่มีคุณภาพ สุขภาพทางเดินอาหารที่ดี ระดับพลังงาน และประสิทธิภาพการทำงานล้วนเชื่อมโยงกันเป็นวัฏจักรที่สามารถสร้างขึ้นและลดลงได้
ระบบป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระ
นักกีฬาต้องการระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานสูง เพื่อให้พวกเขาสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้อยู่ในจุดสูงสุดของเกม ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ของเซลล์ภูมิคุ้มกันที่ถูกสร้างขึ้นในลำไส้ ดังนั้นความสมดุลในไมโครไบโอมจึงเป็นระบบที่ทรงพลังที่ร่างกายใช้สำหรับเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระเพื่อให้มีสุขภาพดี
การวิเคราะห์การย่อยอาหารแบบองค์รวมช่วยให้เข้าใจผลในเชิงบวกที่เกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งมีผลต่อร่างกายและส่งผลต่อประสิทธิภาพการกีฬาได้ดีขึ้น การหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปสามารถช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้และช่วยในการย่อยอาหาร ซึ่งงานวิจัยแสดงให้เห็นว่ามีประโยชน์หลายประการ เช่น ลดการอักเสบ มีพลังงานมากขึ้น องค์ประกอบของร่างกายดีขึ้น นอนหลับดีขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น และจิตใจแข็งแรงขึ้น แม้ว่าองค์ประกอบของจุลินทรีย์ในลำไส้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำนายสภาวะของสุขภาพหรือโรคใดๆ ได้ แต่การให้ความสำคัญกับสุขภาพของไมโครไบโอมช่วยให้ไม่มีโรค มีสุขภาพที่ดีและทำงานได้ดีที่สุด
