วันพุธ ที่ 30 เมษายน 2568 14:32น.

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ตรึงราคาไตรมาส 2/68 แก้โจทย์เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า

30 เมษายน 2025

        สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิก ประกาศไม่ปรับราคาไตรมาส 2/68 ชี้เป็นจังหวะที่ดีของการสร้างบ้านใหม่ในราคาต้นทุนเดิม ส่วนภาพรวมยอดขายไตรมาสแรกปรับตัวลดลง 7% เหตุจากเศรษฐกิจไร้สัญญาณฟื้นตัว มองเซ็กเมนต์ 2 – 5 ล้านบาท และ 5–10 ล้านบาทยังเป็นตลาดที่น่าสนใจ เร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ ขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านช่องทางออนไลน์และออนกราวด์ เตรียมโรดโชว์ต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก จับตากำแพงภาษีการค้าสหรัฐฯ หลังครบระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน อาจกระทบต้นทุนสร้างบ้านสร้างใหม่ราคาพุ่งในช่วงครึ่งปีหลังปี 68

        นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน หรือ HBA เปิดเผยว่า ตลาดรับสร้างบ้านในไตรมาส 2 ของปี 2568 บริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ยังไม่ปรับราคาก่อสร้างบ้าน แต่เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งสงครามการค้าจากนโยบายทรัมป์ 2.0 แม้จะประกาศพักการเก็บภาษี 90 วัน เพื่อเปิดโอกาสในการเจรจาระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหรัฐอเมริกา ยังไม่มีความแน่นอนว่าภายหลังจากครบระยะเวลาของการผ่อนผันที่ 90 วันแล้ว สินค้าสำหรับกลุ่มวัสดุก่อสร้างซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนของการสร้างบ้านจะได้รับผลกระทบมากแค่ไหน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการปรับขึ้นราคารับสร้างบ้านในครึ่งปีหลัง 2568

        ขณะที่ภาพรวมความเชื่อมั่นผู้บริโภค มีความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศและเศรษฐกิจทั่วโลกที่เข้าสู่ภาวะชะลอตัว รวมไปถึงสถานการณ์การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ผันผวน ทำให้ระมัดระวังในการใช้จ่ายและชะลอการตัดสินใจสร้างบ้าน มีผลต่อภาพรวมยอดขายไตรมาสแรกของปี 2568 ธุรกิจรับสร้างบ้านในส่วนของสมาชิกสมาคมฯ ปรับตัวลดลงประมาณ 7%

บ้าน 5–10 ล้านบาท ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจ

        แม้ว่าภาพรวมไตรมาสแรกจะหดตัว นายอนันต์กร กล่าวว่า ส่วนใหญ่อยู่ในเซ็กเมนต์ (Segment) บ้านราคา 20 ล้านขึ้นไป สะท้อนจากการชะลอตัดสินใจสร้างบ้านออกไป เพราะความไม่มั่นใจในสภาพเศรษฐกิจ และตลาดทุนไม่ค่อยดีนักในช่วงที่ผ่านมา

        ขณะที่บ้านในเซ็กเมนต์ 2–5 ล้านบาท และ 5–10 ล้านบาท ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจต่อเนื่องถึงไตรมาสที่สอง สะท้อนจากผลตอบรับจากงาน “รับสร้างบ้าน Focus 2025” ที่จัดเมื่อ 12–16 มีนาคม 2568 ซึ่งบ้านในสองกลุ่มราคานี้สามารถทำยอดขายรวมกันได้มากถึง 68.81% จากยอดขายทั้งหมด โดยมีความเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามผู้บริโภคจะกลับมาสร้างบ้านเมื่อสัญญาณทุกอย่างเริ่มดีขึ้น เพราะบ้านเป็นปัจจัยสี่ที่สำคัญสำหรับทุกคน

คว้าโอกาสที่ใช่ สร้างบ้านใหม่ไตรมาส 2 ในราคาต้นทุนเดิม

        นายอนันต์กร กล่าวว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อไตรมาสสองที่ยังไม่มีสัญญาณบวกที่ชัดเจน บริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ยังคงไม่ปรับราคารับสร้างบ้าน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่กำลังวางแผนสร้างบ้านได้ตัดสินใจในช่วงเวลาที่ดี และต้นทุนที่ดีที่สุด

        ทั้งนี้ หากกำแพงภาษีการค้าสหรัฐฯ เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากครบกำหนดระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน อาจกระทบต่อราคาวัสดุก่อสร้างบางรายการและทำให้ราคาบ้านสร้างใหม่ในครึ่งหลังของปี 2568 มีความจำเป็นต้องปรับราคาขึ้น

        “ภาษีที่ทรัมป์ จะประกาศออกมาไม่รู้ว่ากระทบต่อราคาวัสดุก่อสร้างกลุ่มไหนบ้าง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการปรับขึ้นของราคารับสร้างบ้าน แต่ในช่วงไตรมาส 2 นี้ ราคาวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ยังไม่มีการปรับราคาขึ้น ทำให้สามารถยังคงยืนราคาเดิมของบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกฯ ได้ จึงเป็นโอกาสและจังหวะที่ดีของผู้บริโภคที่กำลังวางแผนสร้างบ้าน” นายอนันต์กร กล่าว

รุกโรดโชว์ต่างจังหวัด ตอกย้ำมาตรฐานคุณภาพ–บริการ

        ในช่วงไตรมาสสอง และต่อเนื่องถึงสถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านในครึ่งหลังของปี 2568 ทางสมาคมฯ มีความพร้อมในการขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศ โดยสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) และนำเสนอจุดเด่นด้านคุณภาพ มาตรฐานงานก่อสร้าง และบริการที่แตกต่าง เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคในการใช้บริการกับบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิก ซึ่งกระจายตัวให้บริการอยู่ทั่วประเทศผ่านช่องทางออนไลน์

       สำหรับการจัดโรดโชว์ในต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก (On-ground Marketing) นั้น นายอนันต์กร กล่าวว่า กิจกรรมจะเกิดขึ้นภายในปีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการตัดสินใจว่าจะจัดขึ้นที่ใดระหว่างพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเป็นพื้นที่มีความต้องการสร้างบ้านค่อนข้างสูง และทางสมาคมฯ มีเป้าหมายขยายฐานสมาชิก พร้อมกับสร้างการเติบโตด้านยอดขายในตลาดต่างจังหวัดให้มากขึ้น โดยสมาคมฯ มีเป้าหมายจัดกิจกรรมการตลาดและสร้างการรับรู้ผู้บริโภคในรูปแบบนี้ให้ได้หนึ่งครั้งต่อปี

        “จากสถานการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้บริโภคตระหนักถึงมาตรฐานการก่อสร้างบ้านที่แข็งแรงและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งทางสมาคมฯ ดำเนินการก่อสร้างภายใต้มาตรฐาน พรบ.ควบคุมอาคาร เรื่องกำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทานและแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ. 2564 โดยแบ่งพื้นที่เฝ้าระวัง ออกเป็น 3 บริเวณด้วยกัน บริเวณที่ 1 ส่วนใหญ่อยู่ที่จังหวัดแถวภาคใต้, บริเวณที่ 2 กรุงเทพฯ และปริมณฑล และบริเวณที่ 3 ส่วนใหญ่อยู่จังหวัดภาคเหนือ โดยกฎหมายกำหนดให้การออกแบบก่อสร้างอาคารบริเวณที่ 1 และ 2 ต้องคำนวณแรงต้านทานแผ่นดินไหว สำหรับการก่อสร้างอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 15 เมตร หรือ 5 ชั้นขึ้นไป ส่วนบริเวณที่ 3 เป็นอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 10 เมตร หรือ 3 ชั้นขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นว่าบ้านที่ก่อสร้างโดยบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ มีมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด และเชื่อถือได้ในด้านความปลอดภัย”นายอนันต์กร กล่าว


คลิปวิดีโอ