วันจันทร์ ที่ 28 เมษายน 2568 17:43น.

แกร็บฟู้ด เผย 5 เทรนด์อาหารมาแรงแห่งปี 2025 จับตาดาวรุ่งสาเก กระแสเมนูของว่าง ชิโอะปังสุดฮอต โปรตีน-ซูเปอร์ฟู้ดฟีเวอร์

28 เมษายน 2025

        แกร็บฟู้ด แอปสั่งอาหารอันดับ 1 ในประเทศไทย1 เผย 5 เทรนด์อาหารที่น่าจับตามองในปี 2025 ผ่านรายงาน “เจาะลึกธุรกิจและเทรนด์ร้านอาหารปี 2025” (A Comprehensive Guide for 2025 Restaurateurs) ซึ่งเปิดตัวในงานประกาศรางวัล #GrabThumbsUp Awards 2025 พบดาวรุ่งดวงใหม่อย่าง ‘สาเก’ มาแรงกับการแพริ่งกับอาหารที่ช่วยทำให้ภาพลักษณ์ทันสมัยขึ้น ขณะที่เทรนด์สแน็กรองท้อง และอาหารเพื่อสุขภาพยังคงเติบโตในวงกว้างโดยเฉพาะกระแส ‘โปรตีน-ซูเปอร์ฟู้ดฟีเวอร์’ นอกจากนี้ เมนูไวรัลที่มาจากต่างประเทศยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยที่พร้อมเปิดรับความแปลกใหม่ มองหาความเซอร์ไพรส์ และต้องการอยู่ในกระแสเสมอ (FOMO) โดยมีโซเชียลมีเดียเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างกระแส และผลักดันแบรนด์และเมนูให้แจ้งเกิดในวงกว้าง

“สาเก” วัตถุดิบเปลี่ยนเกม ที่วงการอาหารต้องจับตา

        ด้วยอิทธิพลของกระแส Asianization ที่มาแรงในช่วงปีที่ผ่านมา “สาเก” ได้กลายเป็นดาวรุ่งที่วงการอาหารทั่วโลกให้ความสนใจ เมื่อผนวกกับความนิยมในอาหารญี่ปุ่นของคนไทย สาเกจึงพร้อมขึ้นแท่นไฮไลต์ที่น่าจับตามองของปีนี้ โดยเฉพาะการนำไปแพริ่ง (Pairing) หรือจับคู่กับอาหาร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่พบมากขึ้นในร้านอาหารสไตล์แคชวลไดนิ่ง (Casaul Dining) จึงเป็นที่คาดว่าปีนี้จะได้เห็นเทรนด์ร้านอาหารแนว Sake Bar เติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่แพ้กระแสเนเชอรัลไวน์ (Natural Wine) ที่เคยร้อนแรงก่อนหน้านี้ ร้านอาหารและบาร์ที่นำเสนอประสบการณ์สาเกในมุมที่แปลกใหม่ จะยิ่งมีโอกาสเข้าถึงลูกค้ากลุ่ม Early Adopter ได้ก่อน

Snackification” ของกินเล่นแทนมื้อหลัก

         จากไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของผู้บริโภคยุคใหม่ การรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้ออาจไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนจึงมองหาเมนูที่เน้น ‘กินไว กินง่าย ได้ประโยชน์’ ส่งผลให้เทรนด์ “Snackification” หรือการทานของว่างแทนมื้อหลัก กลายเป็นกระแสที่มาแรง ผู้บริโภคมองหาเมนูขนาดพอดีคำ (Bite-size) ที่สะดวกและให้พลังงานเพียงพอ สามารถรองท้องได้ในแต่ละช่วงของวัน หลายแบรนด์จึงจับเทรนด์นี้ด้วยการนำเสนอเมนูแนว Grab & Go ที่ตอบโจทย์ชีวิตแบบพร้อมเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น บาร์ธัญพืช โอนิกิริ สลัดแร็ป หรือแม้แต่เส้นหมี่ไก่ฉีก พร้อมชูจุดขายเรื่องวัตถุดิบที่ให้พลังงานสูง ดีต่อสุขภาพ และแพคเกจจิ้งที่หยิบกินง่าย กลายเป็นช่องว่างทางการตลาดที่ร้านค้าและแบรนด์สามารถใช้เข้าถึงกลุ่มคนเมืองยุคใหม่ได้

โปรตีน-ซูเปอร์ฟู้ดฟีเวอร์

        ไลฟ์สไตล์รักสุขภาพยังคงเติบโตในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย การชูจุดขายเรื่องวัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจึงเป็นเทรนด์ที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม หนึ่งในกระแสที่มาแรงคือ “โปรตีนฟีเวอร์” สะท้อนผ่านข้อมูลจากร้านน้ำผลไม้สเปเชียลตี้แห่งปีอย่าง PASH Juices ที่พบว่า ‘เวย์โปรตีน’ เป็นท็อปปิ้งยอดนิยมอันดับหนึ่งของเครื่องดื่มสมูทตี้ ขณะเดียวกัน วัตถุดิบที่ให้โปรตีนสูงอย่างเต้าหู้ กรีกโยเกิร์ต และถั่วต่างๆ ล้วนได้รับความนิยมในการนำมาใช้ประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน สอดคล้องกับมูลค่าตลาดของโปรตีนทางเลือกที่เติบโตขึ้นจากปีก่อน2 รวมถึง “ซูเปอร์ฟู้ด” นานาชนิด อาทิ สาหร่ายสไปรูลิน่า ส่วนผสมในสมูทตี้สีฟ้าสุดฮิต หรือ Sea Moss Gel เจลสาหร่ายทะเลสีแดงที่กำลังเป็นไวรัล ดังนั้น การเพิ่มเมนูหรือตัวเลือกส่วนผสมเพื่อสุขภาพในรูปแบบที่น่าสนใจ จะเป็นแต้มต่อที่ช่วยดึงดูดลูกค้าสายเฮลตี้อย่างแน่นอน

Swavory” ผสมผสานรสหวาน-คาว

          เทรนด์ “Swavory” หรือการผสมผสานรสชาติหวาน (Sweet) และคาว (Savory) กำลังเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะในฝั่งของขนมและเครื่องดื่มที่เห็นการสร้างสรรค์เมนูทวิสต์ใหม่ๆ ด้วยการเติมคาแรกเตอร์ของคาวเข้าไป เช่น สมูทตี้โบวล์หน้ายำผลไม้สไตล์ไทยรสแซ่บอย่างเมนู ‘Yum Fruit Zaap! Bowl’ จากแบรนด์ Acai Story หรือน้ำแข็งใสสไตล์เม็กซิกันที่ตัดรสด้วยซอสพริกอย่างเมนู ‘คากิโกริแมงโก้นาดาซอสศรีราชา’ จาก After You เทรนด์นี้ยังเปิดโอกาสให้แบรนด์ต่างวงการได้คอลแลบร่วมกันเพื่อสร้างความเซอร์ไพรส์ให้ตลาด เช่นเดียวกับวงการค็อกเทลไทย ที่นำวัตถุดิบอาหารคาวมาผสมผสานในเมนูเครื่องดื่มที่แปลกใหม่ การชูรสเค็ม-หวานแบบไทยๆ ไม่เพียงแต่สร้างความแตกต่างในตลาด แต่ยังช่วยยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นและถ่ายทอดวัฒนธรรมอาหารไทยในมุมมองที่ทันสมัย ดึงดูดทั้งนักชิมชาวไทยและต่างชาติที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ

จับกระแสต่างแดน สร้างจุดเด่นต่อยอดความปัง

        ในปีที่ผ่านมา เมนูไวรัลในไทยส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศ โดยมักเริ่มจากความนิยมเฉพาะกลุ่ม ก่อนที่จะกลายเป็นกระแสเมนสตรีมที่ขับเคลื่อนโดยแบรนด์ใหญ่และโซเชียลมีเดีย จนเกิดเป็น “Dupe Culture” ในวงการอาหาร เช่น เมนูสมูทตี้สีฟ้า หรือกระแสช็อกโกแลตดูไบที่ฮิตติดลมบน อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ เทรนด์เมนูจากต่างแดนยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง อย่างกระแส ‘ชิโอะปัง’ หรือขนมปังเกลือ ที่มียอดค้นหาบนแกร็บฟู้ดพุ่งสูงขึ้นถึง 66 เท่าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ รวมถึง ‘ทาร์ตไข่สไตล์ฮ่องกง’ และอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าจับตามองคือการกลับมาของ ‘โยเกิร์ตซอฟเสิร์ฟ’ ร้านที่ติดตามกระแสและปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว จะมีโอกาสสร้างจุดเด่นและเติบโตในตลาดที่แข่งขันสูงได้


คลิปวิดีโอ