EXIM BANK เผย 9 เดือน ยอดสินเชื่อคงค้าง อยู่ที่ 172,000 ล้านบาท มั่นใจปีนี้ตามเป้าที่ 185,000 ล้านบาท พร้อมจับมือ MARSH PB สร้างองค์ความรู้ และ ความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการ และ นักลงทุนไทย รับมือ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า บริบทการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตเกิดจากความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก นำมาซึ่งความผันผวน โดยเฉพาะความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่เป็นความเสี่ยงต่อการค้าโลก ผู้ส่งออกจึงควรพร้อมรับมือและรู้จักการป้องกันความเสี่ยงอย่างครบวงจร เนื่องด้วยที่ผ่านมา Geopolitics ได้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของโลกไปจนถึงภาคธุรกิจทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ รวมถึงสงครามในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ขยายวงกว้างและเริ่มบานปลายล้วนส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการขนส่งสินค้าที่อาจเพิ่มขึ้นจากเส้นทางการเดินเรือได้รับผลกระทบ ไปจนถึงราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในการกำหนดทิศทาง Geopolitics โลกในระยะถัดไป ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการค้าการลงทุนโลกเป็นวงกว้าง เนื่องจากที่ผ่านมาทั้ง Trade War และ Tech War ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ต่างส่งผลต่อรูปแบบห่วงโซ่อุปทานโลก ไม่ว่าจะเป็นการย้ายฐานการผลิตกลับประเทศของสหรัฐฯ (Reshoring) หรือการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่เป็นมิตรหรือประเทศที่วางตัวเป็นกลางเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้า และยิ่งไปกว่านั้นนโยบายทางการเมืองของสหรัฐฯ นับเป็นตัวแปรที่จะมีอิทธิพลมากต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในหลายภูมิภาคในระยะข้างหน้า
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า ภาคของการส่งออกไทยที่เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันมีสัดส่วนราว 55% ของ GDP แม้ภาคการส่งออกของไทยจะเผชิญกับความผันผวนของบริบทการค้าโลกจาก Geopolitics ตัวเลขการส่งออกไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 ยังสามารถขยายตัวได้ดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ที่ 4% และคาดการณ์ว่าการส่งออกของไทยในปี 2567 จะยังขยายตัวจากปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ทั้งจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่มีศักยภาพในการเติบโต และยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่อง
ด้านดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า สำหรับ 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 172,000 ล้านบาท โดยมีอัตราเบิกจ่ายเพิ่มขึ้นไม่ถึง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ยังเป็นบวกอยู่ ซึ่งเป้าหมายปีนี้วางไว้ 185,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ร่วมกับบริษัทนายหน้าประกันภัน และ ที่ปรึกษาความเสี่ยงชั้นนำของโลก MARSH PB เพื่อสร้างองค์ความรู้ และ ความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการ และ นักลงทุนไทย ผ่านมุมมองการวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ และ แนวโน้มของปัญหา Geopolitics ตลอดจนคำแนะนำถึงกลยุทธ์ และ เครื่องมือทางการเงินในการรับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะบริการประกันการส่งออก และ การลงทุน ในการรับมือกับความท้าทายจาก Geopolitics ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยทั้งสองหน่วยงานจะส่งเสริม และ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมที่จะเริ่มต้นหรือ ขยายธุรกิจระหว่างประเทศได้มากขึ้นอย่างมั่นใจท่ามกลางความท้าทายจากสถานการณ์ Geopolitics โลกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ พร้อมช่วยให้ภาคธุรกิจไทยเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เสริมสร้างความเข้าใจในสถานการณ์ในยุคปัจจุบัน และ ช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคงยั่งยืนในอนาคต
“ความร่วมมือกับ MARSH PB ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งภารกิจของ EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังที่มุ่งดำเนินบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนา โดยขยายความร่วมมือกับพันธมิตร เติมเต็มข้อมูลความรู้ โอกาส และเครือข่ายทางธุรกิจ ตลอดจนเครื่องมือทางการเงิน รวมถึงเครื่องมือบริหารความเสี่ยงด้านการส่งออก และ ลงทุนให้ผู้ประกอบการไทย ได้ก้าวเป็นนักรบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และ แข่งขันได้อย่างยั่งยืนในตลาดการค้า และ ประเทศเป้าหมายการลงทุนที่มีจำนวนมากมายในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก”ดร.รักษ์ กล่าว