วันอังคาร ที่ 17 กันยายน 2567 03:18น.

EXIM BANK เดินหน้าสู่ Blue Economy พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้ Go Green ได้อย่างสมบูรณ์

2 สิงหาคม 2024

        ปัจจุบันบริษัทชั้นนำทั่วโลกรวมทั้งไทยต่างให้ความสำคัญกับการนำหลัก ESG (Environmental, Social, and Governance) มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งของการทำหน้าที่พลเมืองที่ดี ช่วยบรรเทาปัญหาวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกเดือด ภูมิอากาศแปรปรวน หรือมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การตั้งเป้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) หรือ Go Green เป็นพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจในโลกการค้าปัจจุบัน โดยเชื่อมโยงกับการ Go Blue เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ผืนดินไปสู่มหาสมุทร เศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) จึงก้าวเข้ามามีบทบาทและความสำคัญต่อโลกการค้ายุคใหม่มากขึ้น ทั้งในแง่ของการเป็นแหล่งผลิตออกซิเจน เป็นแหล่งอาหารและรายได้ รวมทั้งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้า

        ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า วันนี้ EXIM BANK ได้ผนวก ESG ไว้ในการดำเนินงานของธนาคารทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงิน และได้เริ่ม Go Blue มุ่งเดินหน้าสู่ Green Development Bank อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ

        -Green Portfolio มุ่งสนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและที่เกี่ยวเนื่อง โดยพอร์ตสินเชื่อด้านสิ่งแวดล้อมของ EXIM BANK เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปี 2553 ที่มีสัดส่วนเพียง 11% เพิ่มเป็น 38% ในปัจจุบัน และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 50% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดในปี 2570 เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทุกระดับเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของการส่งออก ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

        -Green Product พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินสีเขียวครบทุกมิติ ทั้งด้าน Funding การระดมทุนผ่านการออกพันธบัตรสีเขียว (Green Bond) เพื่อสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 5,000 ล้านบาท และ SME Green Bond จำนวน 3,500 ล้านบาท ล่าสุด EXIM BANK ออก Blue Bond จำนวน 3,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักลงทุนชั้นนำในประเทศ โดยมี Demand จากนักลงทุนสูงกว่าวงเงินราว 2.5 เท่า เป็นอีกหนึ่งกลไกของการพัฒนาเพื่อช่วยเยียวยาทรัพยากรทางทะเล โดยโครงการที่ใช้เงินลงทุนจาก Blue Bond เช่น การรักษาความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล การประมงเพื่อความยั่งยืน และด้าน Financing การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผู้ประกอบการยกระดับธุรกิจสู่เศรษฐกิจสีเขียวและยั่งยืน เช่น Sustainability Linked Loan (SLL) สินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยสำหรับดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ ESG ได้แก่ สินเชื่อ EXIM Green Start, EXIM Solar D-Carbon Financing และสินเชื่อสินเชื่อเพื่อธุรกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล (Blue Economy) ภายใต้แนวทาง Sustainability Linked Loan (SLL)

        -Green Process ปรับปรุงประสิทธิภาพและกระบวนการดำเนินธุรกิจที่สอดรับกับหลักการเศรษฐกิจสีเขียวในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจก (Scope 1-2) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) นับเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) แห่งที่ 2 ของประเทศ ล่าสุด ได้รับการรับรองรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization) ปี 2565 จาก อบก. ซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในองค์กร และเป็น SFIs แห่งเดียวที่ได้รับการรับรองในปี 2566 นอกจากนี้ EXIM BANK มีแผนที่จะเปลี่ยนเป็นรถยนต์ของธนาคารให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 100% ภายในปี 2576 ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) ในพื้นที่ต่าง ๆ ของธนาคาร รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องทำความเย็น (Chiller) และหลอดไฟในอาคาร

        “หากวันนี้ผู้ประกอบการยังไม่ปรับตัวเข้าสู่โลกยุคใหม่ก็อาจจะถูกกลืนหายไปกับคลื่นเศรษฐกิจที่ยังคงผันผวน การเดินหน้าสู่ Green Economy อย่างสมบูรณ์จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากเราไม่ให้ความสำคัญกับ Blue Economy ซึ่งหมายถึงการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน …You can’t go Green without Blue” ดร.รักษ์ กล่าว


คลิปวิดีโอ