แม้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองแต่เชื่อมั่นว่าภาคตลาดอสังหาฯ ไปต่อได้ สำหรับหัวเรือใหญ่ พี่แจ้-ไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR ให้คอมเม้นต์กับกระแสเมืองไทยในตอนนี้ว่า ถึงแม้ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 3 จะอยู่ในช่วงทรงๆ มีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จากภาครัฐ เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนฯ และค่าจดจำนอง โดยขยายเพดานไปจนถึงบ้านระดับราคา 7 ล้านบาท ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นให้กลับมาร้อนแรงได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยเรื่องความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่ยังไม่ผ่อนคลาย ซ้ำสถานการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะการถอดถอนนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน พร้อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่เกิดขึ้นล่าสุดอาจจะมีผลในเชิงจิตวิทยาต่อผู้ซื้อ แต่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ก็ไม่ได้ปรับลดการพัฒนาโครงการแต่อย่างใด โดยเฉพาะ ESTAR ซึ่งบริษัทฯ ได้รีบปรับกลยุทธ์ด้านการขายอย่างทันท่วงที โดยจัดโปรกระตุ้นการตัดสินใจซื้อโดยไม่รอนโยบายภาครัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น ให้ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนถูก 3 ปี โดยทำแคมเปญร่วมกับธนาคารพาณิชย์ชั้นนำต่างๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถผ่อนบ้านใน 3 ปีแรกได้แบบไม่หนักมาก รวมถึงโปรฯ ลดภาระให้กับลูกค้า เช่น ฟรีทุกค่าใช้จ่ายในวันโอนฯ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าที่กำลังไม่มั่นใจในสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองในขณะนี้ ให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
“ผมมองว่าในส่วนของการเมืองไทยนั้นอยู่บนความไม่แน่นอนมาตลอด ประชาชนน่าจะปรับตัวและเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่ยาก เพราะการเมืองของประเทศไทยมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และส่งผลในเชิงจิตวิทยาระยะสั้นเท่านั้น อีกทั้งเชื่อว่าผู้ประกอบการภาคอสังหาฯ หลายๆ ค่าย ก็ต่างออกมาผนึกกำลังช่วยผลักดันให้ตลาดไปต่อ ถือว่าเป็นผลดีที่เศรษฐกิจจะยังทรงตัวได้จนจบปี อย่างไรก็ดี ในส่วนของผลการดำเนินงานของ ESTAR สำหรับครึ่งปีแรกนี้ ถ้าเทียบกับสถานการณ์ปัจจัยลบต่างๆ เราสามารถทำผลงานได้ดี โดยตอนนี้ยอดขายบริษัทฯ แตะถึงพันล้านเรียบร้อยแล้ว” นายไพโรจน์ กล่าว