‘อีสท์สปริง’ โชว์จ่ายปันผลกองทุน LTF งวด 6 เดือนหลัง ปี 2567 จำนวน 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดอีสท์สปริง JUMBO25 หุ้นระยะยาวปันผล และกองทุนเปิดอีสท์สปริง JUMBO PLUS หุ้นระยะยาวปันผล รวมมูลค่ากว่า 71 ล้านบาท กำหนดจ่าย 16 มกราคม 2568 นี้
นายยิ่งยง เจียรวุฑฒิ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ภายใต้การบริหารจัดการพร้อมกัน 2 กองทุน สำหรับผลการดําเนินงานรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ประกอบด้วย กองทุนเปิดอีสท์สปริง JUMBO25 หุ้นระยะยาวปันผล (ES-JB25LTFD) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดอีสท์สปริง JUMBO PLUS หุ้นระยะยาวปันผล (ES-JBPLTFD) ในอัตรา 0.10 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 16 มกราคม 2568 คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลรวม 71.77 ล้านบาท
สำหรับกองทุนเปิดอีสท์สปริง JUMBO25 หุ้นระยะยาวปันผล (ES-JB25LTFD) มีนโยบายที่จะเน้นลงทุนในหุ้นเต็มอัตรา (Fully Invested) ตลอดเวลา โดยจะลงทุนในหุ้นสามัญและ/หรือหุ้นบุริมสิทธิของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 25 บริษัทแรก ที่เข้าหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหลักทรัพย์เกณฑ์ดังกล่าวได้พิจารณาถึงมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) การจ่ายเงินปันผลหรือประกาศที่จะจ่ายเงินปันผล สภาพคล่องของหลักทรัพย์ (Free Float) และการควบคุมการกระจุกตัวของหลักทรัพย์ในแต่ละอุตสาหกรรม
โดยมีการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือ ปี 2563 อยู่ที่ 0.50 บาทต่อหน่วย ปี 2564 อยู่ที่ 0.52 บาทต่อหน่วย ปี 2565 อยู่ที่ 0.38 บาทต่อหน่วย ปี 2566 อยู่ที่ 0.78 บาทต่อหน่วย ปี 2567 อยู่ที่ 0.48 บาทต่อหน่วย โดยรวมกับจ่ายปันผลงวดนี้อีก 0.20 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินจ่ายปันผลทั้งสิ้น 2.86 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 8 มกราคม 2568)
ส่วนกองทุนเปิดอีสท์สปริง JUMBO PLUS หุ้นระยะยาวปันผล (ES-JBPLTFD) มีนโยบายลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 แต่ไม่เกินร้อยละ 75 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นสามัญและ/หรือหุ้นบุริมสิทธิของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 25 บริษัทแรกที่เข้าหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหลักทรัพย์ เกณฑ์ดังกล่าวได้พิจารณาถึงมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ผลประกอบการของบริษัทการจ่ายเงินปันผลหรือประกาศที่จะจ่ายเงินปันผล สภาพคล่องของหลักทรัพย์ และการควบคุมการกระจุกตัวของหลักทรัพย์ในแต่ละอุตสาหกรรม
ทั้งนี้มีการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือ ปี 2563 อยู่ที่ 0.40 บาทต่อหน่วย ปี 2564 อยู่ที่ 0.35 บาทต่อหน่วย ปี 2565 อยู่ที่ 0.285 บาทต่อหน่วย ปี 2566 อยู่ที่ 0.46 บาทต่อหน่วย ปี 2567 อยู่ที่ 0.37 บาทต่อหน่วย โดยรวมกับจ่ายปันผลงวดนี้อีก 0.10 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินจ่ายปันผลทั้งสิ้น 1.965 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 8 มกราคม 2568)