โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ จัดงานประชุมวิชาการด้านกระดูกสันหลัง ประจำปี 2024 International Advanced Spinal Endoscopic Masterclass in Bangkok ในหัวข้อ PSLD, PSCD, PSTD, ENDO ACDF, ENDO TLIF, PAIN INTERVENTION และ “Live Surgery Workshop” โดยทีมศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากต่างประเทศ ร่วมบรรยายและฝึกปฏิบัติด้านเทคนิคการส่องกล้อง Endoscopic โดยการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าและพัฒนาเทคนิคด้านการส่องกล้องรักษาโรคกระดูกสันหลังแบบแผลเล็ก (Advanced Spinal Endoscopic) ให้เป็นที่แพร่หลาย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล ผู้อำนวยการ รพ.เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน
นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล เผยว่า งานนี้เป็นงานแรกของปีที่เกี่ยวกับการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังโดยจะเน้นเรื่องเทคนิคการผ่าตัดรักษาโดยการใช้กล้องเอ็นโดสโคป แบบไม่ต้องผ่าตัดใหญ่แต่ได้ผลลัพธ์เหมือนกับการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งคนไข้นอนโรงพยาบาลเพียงแค่ 1 คืน โดยที่เทคนิคนี้จะเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างเฉพาะและพิเศษกว่า ซึ่งโดยปกติแพทย์ทั่วไปยังทำไม่ได้ ต้องมีการฝึกอบรมที่นานพอสมควร ดังนั้นการอบรมในวันนี้ถือว่าเป็นหลักสูตรนานาชาติ เพราะมีแพทย์จากหลายๆ ประเทศเข้ามารับฟัง จึงถือได้ว่างานนี้เป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ของเราให้ต่างชาติ เพราะโรงพยาบาลเอส สไปน์ เป็น Training Center โดยเราเป็นศูนย์ศึกษาค้นคว้าวิจัยด้านการรักษาใหม่ๆ โดยใช้เทคนิคใหม่ๆ ทำให้แพทย์ของเรามีความสามารถและพัฒนามากขึ้น
สำหรับคนไข้ที่มารักษากับเราจะได้รับการรักษาด้วยเทคนิคใหม่เสมอ เพราะแพทย์ของเราต้องเรียนรู้เพิ่มเติมค่อนข้างเยอะสำหรับการผ่าตัดกระดูกสันหลัง ซึ่งจากเดิมต้องเปิดแผลขนาดใหญ่ๆ ต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน เวลาผ่าตัดกระดูกสันหลังถ้ามีการสูญเสียความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเยอะก็จะต้องใส่เหล็กดาม แต่ในปัจจุบันเราสามารถเจาะรูเล็กๆ เข้าไปจัดการในส่วนที่มีปัญหาโดยไม่ต้องสูญเสียความแข็งแรงแต่ได้ผลลัพธ์เหมือนการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งโดยปกติเทคนิคนี้ เป็นการรักษาที่ค่อนข้างซับซ้อน เราคิดว่าถ้าการรักษาจากแพทย์ที่มีประสบการณ์และได้รับการรักษาจากสถานพยาบาลที่มีอุปกรณ์ครบครัน จะเป็นสิ่งที่ช่วยการันตีความสำเร็จของการรักษา ซึ่งโรงพยาบาลที่ทำได้จะเป็นรพ.เฉพาะทางด้านนี้โดยตรง
ขณะที่ นพ.เมธี ภัคเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เผยว่างานนี้เราได้มีการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยการส่องกล้อง ด้วยเทคนิค PSLD, PSCD, และ PSTD ซึ่งการเชื่อมกระดูกสันหลังโดยการส่องกล้องเอ็นโดสโคป แบบ Full Endo TLIF และการเชื่อมกระดูกคอด้วยวิธี Endo ACDF ต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นเทคนิคใหม่ล่าสุด โดยในวันนี้มีการผ่าตัดทั้งหมด 5 เคสด้วยกัน จึงถือได้ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่มีประโยชน์อย่างมากในทุกเคส
ด้าน นพ.ชุมพล คคนานต์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เผยว่า ในงานนี้ได้นำเสนอการรักษาโรคกระดูกสันหลังเคลื่อนด้วยวิธีการส่องกล้อง โดยเข้าไปเปลี่ยนหมอนรองกระดูกและยึดนอตด้วยระบบนำวิถี ซึ่งเราได้เปรียบเทียบจากผลการรักษาระหว่างการส่องกล้องเพื่อเปลี่ยนหมอนรองกระดูกสันหลังแบบ (Full Endo TLIF) กับผ่าตัดแบบแผลเล็กโดยที่ใช้กล้องจุลทรรศน์ (MIS-TLIF) โดยที่มีผลงานวิจัยยืนยันแล้วว่าการผ่าตัดส่องกล้องด้วยกล้องเอ็นโดสโคป จะให้ผลการรักษาที่ดีกว่าในแง่ของการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด การเสียเลือดน้อยกว่า และคนไข้อยู่โรงพยาบาลสั้นกว่าซึ่งอาการปวดหลัง หลังการผ่าตัดก็น้อยกว่าเดิมอย่างชัดเจน และถือได้ว่าเป็นงานที่เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการแชร์ประสบการณ์ระหว่างการผ่าตัดของเรากับแพทย์ต่างประเทศ ซึ่งเขาก็มีประสบการณ์แตกต่างกับเราพอสมควร
นพ.ศรัณย์ จินดาหรา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เผยว่าภายในงานได้มีโอกาสนำเสนอการผ่าตัดส่องกล้องรักษาโรคหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนอกกดทับเส้นประสาท Percutaneous Stenoscopic Thoracic Decompression : PSTD ซึ่งการผ่าตัดด้วยวิธีนี้ยากมาก เพราะเป็นช่วงที่ใกล้กับอวัยวะสำคัญของร่างกาย และโรคนี้เกิดขึ้นกับคนไทยน้อยมากอาจจะพบอยู่บ้างประมาณสัก 5% ซึ่งระดับความรุนแรงของโรคนี้ ถ้าเกิดขึ้นแล้วอาจจะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการเดินไม่ได้ ขาอ่อนแรง หรือขาเกร็ง ทรงตัวไม่ได้ เดินแล้วจะล้ม ซึ่งการผ่าตัดแบบเดิมนั้นจะต้องผ่าเปิดแผลอย่างเดียวเท่านั้น และมีการเชื่อมด้วยอุปกรณ์พวกสกรูหรือว่าเหล็กดาม แต่ในปัจจุบันเราสามารถเปลี่ยนมาเป็นการผ่าตัดที่เล็กลง ผ่านกล้องเอ็นโดสโคป ซึ่งสามารถให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันโดยไม่ต้องมีการผ่าตัดใหญ่ ไม่ต้องมีการยึดเหล็กเชื่อม ทำให้คนไข้สามารฟื้นตัวได้ไวกว่าเดิมหลายเท่า
สำหรับโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ซึ่งถือได้ว่าเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งเดียวและแห่งแรกในประเทศไทย ที่มีจุดแข็งที่เด่นชัด คือ การมีทีมแพทย์และพยาบาลเฉพาะทางโรคปวดหลังที่เกิดจากกระดูกสันหลังและระบบประสาทโดยเฉพาะ ทำให้รู้ลึก รู้จริง สามารถรักษาได้อย่างตรงจุด ประกอบกับการนำเอานวัตกรรมสมัยใหม่จากทั่วโลกเข้ามาช่วยในการรักษา ตอบโจทย์ผู้ป่วยที่มีเวลาน้อย และยังฟื้นตัวได้เร็ว ไม่ทรมานเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่กลัวการผ่าตัด