บริษัท ดูบ้าน กรุ๊ป จำกัด ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ เปิดตัวแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ Art Deco และ Mid-Century Style ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Design Meet Innovation” โดดเด่นดีไซน์และการสร้าง ผสานนวัตกรรมล้ำสมัย พร้อมรองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต เห็นบ้านก่อนสร้างด้วย 3D-interactive เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยสูงสุด ส่งมอบพร้อม Smart Security รองรับ EV Charger และ Solar Roof เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน
ณพิชญา ไกรชวินยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดูบ้าน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นแนวคิดบ้าน Innovative ว่า “สถาปนิกเปรียบเสมือนนักวางแผนในการจัดการกิจกรรม พื้นที่ ความงามและความรู้สึกในสถาปัตยกรรม ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ใช้งาน ฉะนั้น ทุกวันที่ตื่นมาเหมือนเราได้เจอโจทย์ใหม่ที่ท้าทายตลอดเวลา และอยากก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ออกไป นี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของบ้าน Innovative โดยเราจะออกแบบบ้าน โดยมีจุดเด่นที่ความเป็นตัวตนของลูกค้า หากลูกค้าไม่มีไอเดียตั้งต้น เราก็จะสร้างสรรค์ไอเดียของลูกค้าออกมาจากนามธรรมเป็นรูปธรรมให้ได้ตามความต้องการ จึงเป็นที่มาของ ‘แบบบ้านพร้อมสร้าง’ ของดูบ้าน ที่มีความหลากหลาย ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย ของลูกค้าในแต่ละไลฟ์สไตล์และการใช้งาน รวมทั้งคำนึงถึงงบประมาณของลูกค้าที่จะต้องใช้จ่ายกับการสร้างบ้านได้อย่างคุ้มค่าที่สุดและสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน”
ณพิชญา กล่าวต่อไปว่า ในสภาวะเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว “ดูบ้าน กรุ๊ป” ได้นำเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ลูกค้า โดยผ่านกระบวนการ PoC หรือ Proof of Concept ที่ศึกษาความต้องการ innovation ของกลุ่มลูกค้า มาช่วยออกแบบบ้านให้ตอบโจทย์ความต้องการในการดำเนินชีวิตประจำวัน เริ่มตั้งแต่สำรวจการออกแบบ แล้วนำเสนอสิ่งที่เหมาะสมและตรงใจลูกค้ามากที่สุด ซึ่งผลจากการสำรวจ มีความสอดคล้องกับข้อมูลวิจัยของศูนย์ SCB Economic intelligence center พบว่ามากกว่า 70% ของลูกค้าให้ความสำคัญและยินดีจ่ายเพิ่มกับ Innovation ด้าน Smart Security และประหยัดพลังงาน
ด้าน อนันต์ทวุฒน์ ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดูบ้าน กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึง Innovation ในแง่การออกแบบว่า “เราได้มุ่งเน้นการแก้ปัญหา Pain point ที่พบในลูกค้า โดยใช้โปรแกรมเข้ามาทำให้สามารถเห็นภาพบ้านในฝันของตัวเองในทุกมิติชัดเจน จุดเด่น คือ ทีมออกแบบจะเลือกวัสดุอย่างน้อย 2-3 แบบ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนให้ลูกค้าเห็นภาพได้ทันทีและใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด ทั้งยังมีการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ เพื่อปรับใช้ให้ตรงกับทุกหน่วยธุรกิจ ให้มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น”
อนันต์ทวุฒน์ กล่าวต่อไปถึงแนวคิดที่ส่งเสริมการออกแบบที่ยั่งยืน โดยจะมุ่งเน้นการใช้พลังงานจากธรรมชาติผ่านการดีไซน์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อม เช่น การคำนึงถึงทิศทางลม ทิศทางแสง ทำอย่างไรให้ผู้อยู่อาศัยอยู่ในบ้านได้แบบเย็นสบายและประหยัดพลังงานได้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นนโยบายยั่งยืน “จากแนวความคิดที่กล่าวมา จึงเกิด Casa Modern House ต้นแบบบ้าน Innovative พร้อมสร้างของเรา ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคใหม่ ฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย โดยมีการจัดสรรพื้นที่แบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน อาทิ พื้นที่ทำกิจกรรมร่วมของคนในบ้าน พื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคน รวมไปถึงบริบทอื่นๆ ที่เราคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นทิศทางของแดด ลม ฝน ที่เป็นพื้นฐานของการออกแบบ”
“เหนือสิ่งอื่นใดเรายังคำนึงถึงกิจกรรมที่ต่อเนื่องกันของคนในบ้าน อาทิ พื้นที่ที่สามารถมองเห็นการทำกิจกรรมภายนอกและภายในพร้อมกัน ทำให้ผู้คนมีปฎิสัมพันธ์กันในครอบครัว รวมไปถึงการออกแบบให้สวยตามเทรนด์ปัจจุบัน แต่ยังคงความงามไปจวบจนอนาคตในสไตล์ Mid-Century ผสาน Art deco และความ Minimal ไม่เพียงเท่านั้น ยังใส่ใจเทคโนโลยีในบ้าน ด้วยระบบ Smart home ที่อำนวยความสะดวกในการใช้งานและด้านความปลอดภัยด้วย ระบบ Menetic Alarm และกล้อง CCTV สามารถสั่งงานด้วยโทรศัพท์มือถือ การออกแบบโดยคำนึงถึงแสงหรือลมธรรมชาติเพื่อช่วยประหยัดพลังงานในบ้าน การออกแบบเพื่อรองรับระบบ Electric Vehicle รวมไปถึงให้คำปรึกษาเพื่อรองรับ รองรับ Solar Roof ซึ่งเป็นเทรนด์บ้านในอนาคตที่จะช่วยเรื่องของการประหยัดพลังงาน ซึ่งความใส่ใจทั้งหมดนี้เราไม่ได้มีเฉพาะแบบบ้าน Casa Modern House เท่านั้น เพราะแบบบ้านแต่ละหลังก็มีตัวตน เอกลักษณ์ การจัดสรร และ Concept เป็นของตัวเอง พร้อมความ Innovative ที่เหมาะสมกับแต่ละหลัง” อนันต์ทวุฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ ณพิชญา ไกรชวินยง ยังได้เผยถึงแบบบ้านในอนาคตของ “ดูบ้าน กรุ๊ป” ว่าจะยังคงใส่ใจในการสร้างสรรค์บ้านที่มีเอกลักษณ์ สามารถปรับเปลี่ยนให้ตรงตามความต้องการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย ทั้ง Concept และ Style โดยเป็นการ Workshop ร่วมกันระหว่างสถาปนิกและลูกค้าที่สามารถเลือกบ้านไปสร้างตามแบบฉบับ Persona ของตัวเอง นอกจากนี้เรายังใส่ใจที่จะพัฒนาแบบบ้านให้มีความเป็น Universal design ให้เหมาะสมกับคน ทุกวัย รวมทั้งพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับวิถีการใช้ชีวิตและกิจกรรมในบ้านของผู้อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปจากเดิม และปรับให้ยืดหยุ่นสามารถอยู่ได้ในยุค Climate change โดยนำความยั่งยืนในการออกแบบเข้าไปในแบบบ้านแต่ละหลัง เพื่อการใช้สอยของคนในบ้าน เช่น การใช้แสงธรรมชาติในช่วงเช้าเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า การใช้ลมธรรมชาติให้บ้านเย็น และมีอากาศไหลผ่านเพื่อลดการใช้แอร์ พร้อมทั้งเหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเฉพาะตัว
