วันพุธ ที่ 27 พฤศจิกายน 2567 13:31น.

D7 ทุ่มงบฯ 100 ล้าน เปิดตัว “D7 คอมบูชะ” ชาหมักผสมไฟเบอร์จับกลุ่มคนรุ่นใหม่

30 กันยายน 2022

        ในปีนี้“ไทยแอทลาสโกลบอล ฟูด” ขยายไลน์เครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ D7 ล่าสุดทุ่มงบฯ 100 ล้านเปิดตัว “D7 คอมบูชะ” ชาหมักผสมไฟเบอร์อย่างเป็นทางการ ย้ำภาพจับตลาดคนรุ่นใหม่ รักสุขภาพ ตอบรับกระแสความนิยมการดื่มชาหมักที่กำลังมาแรง ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในยุโรป อเมริกา และเกาหลี พร้อมชูพรีเซ็นเตอร์สายวาย “มาย-อาโป” ดันกระแสขึ้นแท่นเจ้าตลาดเครื่องดื่มสุขภาพ คาดการณ์ปีนี้สามารถปิดยอดขายรวมไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท

        นายจักรกฤช สุขวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยแอทลาสโกลบอล ฟูด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟพร้อมดื่มสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ D7 (ดีเซเว่น) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ D7 อย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาไลน์สินค้าเดิมและการพัฒนาสินค้าใหม่ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

        โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้พัฒนาเครื่องดื่มใหม่ออกสู่ตลาดรับไตรมาสสุดท้าย คือ D7 คอมบูชะ “อร่อย สดชื่น มีประโยชน์” รังสรรค์ขึ้นให้เป็นเครื่องดื่มของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ พัฒนาสูตรออกมาได้อย่างลงตัว ด้วยการคัดสรรจากใบชาอู่หลงที่มีกลิ่นหอมเฉพาะหมักด้วยกรรมวิธีที่ได้มาตรฐาน นานถึง 30 วัน ให้มีรสชาติอร่อยดื่มง่ายและส่งผลดีกับสุขภาพ อาทิ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายและปรับสมดุลลำไส้ให้ทำงานปกติ มีให้เลือก 2 รสชาติคือ รสออริจินัล บรรจุในกระป๋องสีเขียว มีไฟเบอร์พรีไบโอติก 7000 มิลิกรัม และ รสผสมนมเปรี้ยว บรรจุในกระป๋องสีฟ้า มีไฟเบอร์พรีไบโอติก 6000 มิลลิกรัม ซึ่งไฟเบอร์ชนิดนี้นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของ function food additive ทำหน้าที่เป็นอาหารสำคัญของ ไพรไบโอติกที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง ให้พลังงานต่ำ ช่วยให้อิ่มท้อง ลดการอยากอาหาร เหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการการควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ยังเสริม วิตามิน B3 B5 B6 และวิตามิน D ซึ่งวิตามินในกลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท ส่งผลให้คลายจากอาการซึมเศร้า กระตุ้นภูมิ และช่วยดูดซับแคลเซียมได้ดี สามารถจัดเก็บได้นานถึง 1 ปี โดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น

        นายจักรกฤช เพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวเครื่องดื่ม “D7 คอมบูชะ” เข้าสู่ตลาด ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยใช้ “โบ เมลดา” นักแสดงและนางแบบชาวไทย ซึ่งเป็นตัวแทนผู้หญิงยุคใหม่ จับกลุ่มไฮเอนด์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีผลตอบรับดีที่ดีมาก ล่าสุดส่งท้ายปีซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้าย บริษัทพร้อมตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ “มาย-อาโป” ที่กำลังได้รับความนิยม และเป็นกระแสในเรื่องของความเท่าเทียมของกลุ่มคนรุ่นใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังเป็นศิลปินที่อยู่ในกลุ่ม rising star ที่มีผลงานที่โดดเด่น และกำลังโลดแล่นบนถนนสายบันเทิงทั้งตลาดภายในประเทศ และต่างประเทศในอนาคต จึงคาดว่า “มาย-อาโป” จะสามารถสร้างกระแสและเป็นแรงผลักดันให้สินค้าได้ผงาดในตลาดเครื่องดื่มได้อย่างเต็มภาคภูมิ และขึ้นแท่นเจ้าตลาดเครื่องดื่มสุขภาพของไทย

        นายจักรกฤช กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มใหม่เข้าสู่ตลาดครั้งนี้บริษัทฯ ได้จัดสรรงบประมาณสำหรับทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งปีนี้จำนวน 100 ล้านบาท มีทั้งภาพยนตร์โฆษณา ออนไลน์ และออฟไลน์ รวมถึงอัดโปรโมชั่นผ่านแคมเปญ “D7 รวยแหลกแจกทะลุล้าน” ลุ้นรางวัลมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท เพียงแค่ซื้อ D7 คอมบูชะ รสชาติใดก็ได้ พร้อมส่งใบเสร็จหรือใบเสร็จออนไลน์มาที่ Line Official ของ D7 ยิ่งส่งมากยิ่งมีสิทธิ์มาก โดยบริษัทฯ จะทำการจับรางวัลทุกสัปดาห์ ตั้งแต่วันนี้ – 6 พฤศจิกายน 2565
อนึ่ง ปัจจุบันเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ D7 แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. D7 แลคโต น้ำองุ่นขาวผสมนมเปรี้ยว ที่เหมาะกับทุกวัยดื่มได้ง่ายๆ มี 5 รสชาติ คือ องุ่น ลิ้นจี่ ส้ม ผลไม้รวม และออริจินัล 2. D7 กาแฟและชาไทย กระป๋องพร้อมดื่ม 3. D7 Kurve ชาไทย มีวิตามิน B และไฟเบอร์ 8000 มิลลิกรัม ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ปรับสมดุลลำไส้ เป็นสารสกัดจากธรรมชาติแท้ และมีวิตามิน B 3 5 6 และ 12 ช่วยป้องกันการอ่อนเพลีย ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ บำรุงระบบประสาทและสมอง 4. D7Zlim และD7 Beautie กาแฟผสมไฟเบอร์ แอลคานิทีนและคอลลาเจน 5. ใหม่ล่าสุด D7 คอมบูชะ ชาหมักผสมไฟเบอร์ 7000 มิลลิกรัม พร้อมวิตามิน B และ D

        D7 คอมบูชะ พร้อมวางจำหน่ายทั้งร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต ทั่วประเทศ อาทิ เซเว่น อีเลฟเว่น, โลตัส, กรูเมต์มาร์เก็ต, ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต, ฟู้ดแลนด์, วิลล่า มาร์เก็ต ฯลฯ รวมถึงช่องทางออนไลน์ชั้นนำ เช่นช้อปปี้, ลาซาด้า เป็นต้น จัดจำหน่ายในราคาปลีกกระป๋องละ 30 บาท ซึ่งเป็นราคาขายต่อหน่วยที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ หากเทียบกับเครื่องดื่มในกลุ่มคอมบูชะนำเข้าที่มีราคาเฉลี่ยประมาณ 80 บาทขึ้นไป หรือแบรนด์อื่นในตลาดที่ผลิตโดยกลุ่ม SMEs รายย่อย ก็จำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 80 บาทขึ้นไปเช่นกัน มั่นใจว่าหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาสสุดท้ายนี้จะสามารถโกยยอดขายส่งท้ายปี 2565 ของบริษัทรวม 200 ล้านบาท อย่างแน่นอน


คลิปวิดีโอ