ฉมา แอ็สเซ็ท เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง จากสมุนไพรไทยออร์แกนิค ภายใต้แบรนด์ “ฉมา” เปิดตัว “ฉมาสหคลินิก” คลินิกดูแลสุขภาพแบบองค์รวมครบวงจร ด้วยศาสตร์การแพทย์แบบผสมผสาน รับเมกะเทรนด์ Health-Wellness โตก้าวกระโดดหลังโควิด เผยคนไทยกลับมาใช้ชีวิตรีบเร่ง แต่ต้องการมีสุขภาพที่ดีสู้โรคและมลพิษ บวกกับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพฟื้นตัว ชูจุดเด่นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เน้นการดูแลรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แบบผสมผสาน ด้วย 5 บริการครบองค์รวม ออกแบบเฉพาะกับอาการของแต่ละบุคคล
นางสาวปรินดา ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉมา แอ็สเซ็ท จำกัด เปิดเผยว่า จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายใต้แบรนด์ “ฉมา ฟาร์ม” และ “ฉมา เฮิร์บ” ในช่วงปีที่ผ่านมา ล่าสุด “ฉมา” ได้เปิดตัว “ฉมาสหคลินิก” คลินิกดูแลสุขภาพแบบองค์รวม มุ่งเน้นการดูแลรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แบบผสมผสาน เน้นให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคของแต่ละบุคคล พร้อมให้คำแนะนำในเรื่องอาหารเป็นยา การปรับพฤติกรรม การจ่ายยาสมุนไพร การปรับสมดุลร่างกาย น้ำผักบำบัด เพื่อการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมกับอาการของแต่ละบุคคล
อย่างไรก็ดี เทรนด์การรักสุขภาพมีแนวโน้มโตก้าวกระโดดนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากคนส่วนใหญ่ตระหนักว่าสุขภาพดีแบบองค์รวมช่วยให้ปลอดโรคมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ และหลังวิกฤตโควิด-19 ผู้คนออกไปใช้ชีวิตทำงานได้ตามปกติ ออกเดินทางท่องเที่ยวได้ทั่วโลก ใช้ชีวิตเต็มที่พร้อมกับความเร่งรีบ ไม่สามารถดูแลสุขภาพได้อย่างที่ควรเป็น ขาดสมดุล โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพียงพอต่อร่างกาย รวมถึงการนอนอย่างมีคุณภาพ และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำให้ภูมิคุ้มกันไม่ดี เจ็บป่วยง่าย และเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดความต้องการบริการด้านดูแลสุขภาพแบบทางเลือก เข้ามาเป็นส่วนช่วยให้การดูแลสุขภาพทั้งในรูปแบบ Naturopathy หรือ ธรรมชาติบำบัดที่ใช้สมุนไพร การนวดแบบต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการดูแลรักษาสุขภาพ
ทั้งนี้ ข้อมูลของ GWI เคยคาดการณ์มูลค่าตลาด Health-Wellness ทั่วโลกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะมีมูลค่าตลาดจะเติบโตอยู่ที่ 180 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5.9 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตเกินคาดการณ์ โดยกลุ่มที่มีมูลค่าสูงสุด ได้แก่ 1. การดูแลตัวเอง ความสวยงาม การชะลอวัย 2. การทานอาหารเพื่อสุขภาพ หรือทานอาหารเป็นยา 3. การออกกำลังกายและกายภาพ 4. สาขาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) โดยข้อมูลของ GWI ชี้ให้เห็นแนวโน้มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลกจะโตเฉลี่ยสูงถึง 20.9% ภายในปี 2568 และกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพใช้จ่ายต่อหัวมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปกว่า 58 % เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดประเทศไทย
“ฉมาสหคลินิก” เป็นคลินิกทางเลือกให้บริการกับกลุ่มครอบครัวที่ชื่นชอบแนวทางการรักษาแบบธรรมชาติบำบัด อาหารเป็นยา และสุดท้ายกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งนับเป็นโอกาสในการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเปิดประเทศทำให้นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและรัฐบาลยังมีนโยบายขับเคลื่อนไทยให้เป็นฮับด้านสุขภาพของภูมิภาค โดยคลินิกของเราสามารถดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยการออกแบบการดูแลและรักษาได้แบบเฉพาะรายบุคคล ด้วยปัจจัยดังกล่าว ฉมาสหคลินิกนับว่าตอบโจทย์ โดยให้บริการภายใต้การใส่ใจดูแลผู้รับบริการเสมือนญาติมิตร ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นหมอประจำบ้านให้กับทุกคน สามารถขอปรึกษาได้ทุกกลุ่มอาการ มีการดูแลอย่างเป็นองค์รวมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ”นางสาวปรินดากล่าว
ด้าน พท.ป.มงคลฉัตร อวงรัมย์ ผู้อำนวยการฉมาสหคลินิก กล่าวว่า ฉมาสหคลินิก ใช้ผักและสมุนไพรออร์แกนิคเป็นหลักในการดูแลรักษาผู้ป่วย โดยมีแหล่งวัตถุดิบผักและสมุนไพรจาก “ฉมาฟาร์มออร์แกนิค” ซึ่งเป็นฟาร์มที่ได้รับรองมาตรฐาน IFOAM,EU,USDA,COR อีกทั้งยังมีโรงงานผลิตยาสมุนไพรที่ได้รับรองมาตรฐาน (FMP) และโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ได้รับมาตรฐานอย. โดยฉมาสหคลินิก ดูแลตั้งแต่การควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบผักและสมุนไพร การแปรรูป การวิจัยและพัฒนาสูตร การผลิตและการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับการรักษาจากยาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรออร์แกนิคที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ โดยมีรูปแบบการให้บริการดังนี้
1. ตรวจรักษา ตรวจสมุฏฐานธาตุของแต่ละบุคคล เป็นหลักควบคู่กับการซักประวัติและตรวจร่างกาย การปรับพฤติกรรม การจ่ายยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพรออร์แกนิค น้ำผักบำบัด วิตามินบำบัดและวิธีการดูแลรักษาอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับของแต่ละบุคคล
2. ธรรมชาติบำบัด ด้วยยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพรออร์แกนิค ให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคล ด้วยยาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์จาก “ฉมาฟาร์มออร์แกนิค” มีการปรับสูตรชุดผักและยาสมุนไพรที่ในการดูแล รักษา โดยทีมแพทย์
3. ปรับสมดุลกระดูกและกล้ามเนื้อ การประเมินและวางแผนรักษากลุ่มโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยใช้การรักษาด้วยการนวด คลึง กด การยืดเหยียด การปรับดึงดัดกระดูกและข้อต่อ การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมกับอาการและกลุ่มโรคของแต่ละบุคคลนั้น ๆ
4. การชะลอวัย ผิวพรรณ และความงาม มุ่งเน้นให้ผู้รับบริการสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกอย่างยั่งยืน ที่เริ่มจากการรับประทานสิ่งดีต่อสุขภาพ สะอาด และปลอดภัย และยังมีแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและความงามช่วยตรวจรักษาและวางแผนการชะลอวัยให้เหมาะกับสุขภาพของแต่ละบุคคล
5. วิตามินบำบัด (IV therapy) เพื่อสุขภาวะที่ดี และการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยบริการการให้วิตามินบำบัดทางหลอดเลือดโดยทีมแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพ เป็นการให้วิตามินสูตรเฉพาะของทางคลินิกที่เหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคล