วันพุธ ที่ 27 พฤศจิกายน 2567 07:30น.

“แอสทิน เอสเตท” รุกตลาดนวัตกรรมบ้านลักชัวรี่ เปิดตัว “ASTIN SMARTHOME”

2 กุมภาพันธ์ 2022

        “แอสทิน เอสเตท” คาดการณ์ตลาดอสังหาฯ แนวราบ ขยายตัวเล็กน้อยจากปีก่อนประมาณ 3% ให้มุมมองการทำสินค้าใหม่ต้องจับเทรนด์การใช้ชีวิตยุคดิจิทัล เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคหลังโควิด-19 เปลี่ยน มีความต้องการบ้านขนาดใหญ่-นวัตกรรมบ้านและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากขึ้น ล่าสุด เปิดตัว “ASTIN SMARTHOME” แอปพลิเคชันที่รวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่เพื่อการอยู่อาศัย นำร่องโครงการแรก “เวอริทซ์ (VERITZ) สาธุประดิษฐ์ 34”

        นายพรชัย กฤษฎาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสทิน เอสเตท จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่มุ่งเน้นรายละเอียดการดีไซน์ พร้อมกับนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่ให้ประโยชน์สูงสุดสำหรับชีวิตเมือง เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ปี 2565 จะขยายตัวดีกว่าปี 2564 เพียงเล็กน้อย ในอัตราการเติบโตไม่สูงมาก ราว ๆ 3% โดยมองการขยายตัวมาจากตลาดอสังหาฯ แนวราบมากกว่าตลาดคอนโดมิเนียม จากพฤติกรรมของผู้ซื้อบ้านที่เปลี่ยนแปลงหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเห็นสัญญาณกำลังซื้อโครงการแนวราบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) สอดคล้องกับการคาดการณ์ตัวเลขปี 2565 ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. (REIC) ระบุตัวเลขเฉพาะแนวบ้านราบ คาดยอดโอนกรรมสิทธิ์จะขยายตัว 3% และคาดการณ์ GDP ปี 2565 จะขยับเป็น 3-4%

        ตลาดอสังหาฯ ปี 2565 ยังคงได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการผ่อนคลายหลักเกณฑ์มาตรการ LTV เป็นการชั่วคราว ซึ่งสามารถกู้เงินซื้อบ้านระดับที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน หรือ 100% จนถึงสิ้นปี 2565 และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับที่ต่ำ แต่อย่างไรก็ดี ในปีนี้ตลาดยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน อาทิ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ขณะที่สภาวะอัตราเงินเฟ้อและภาวะหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 90% ของ GDP แล้ว รวมถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจไทย ทำให้สถาบันการเงินมีความเข้มงวดและระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อบ้านมากขึ้น ล้วนกดดันตลาดอสังหาฯ ในปีนี้ ให้ขยายตัวได้ไม่มากนัก

        สำหรับ “แอสทิน เอสเตท” ในปี 2565 นี้ จะเดินหน้าลุยโครงการแนวราบระดับลักชัวรี่ และมุ่งเน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่เพื่อการอยู่อาศัยอย่างจริงจังและเข้มข้นขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยของคนเมืองที่ดีมากยิ่งขึ้น เน้นทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ที่มีความต้องการอยู่อาศัยในใจกลางทำเลน่าอยู่ และต้องการนวัตกรรมและเทคโนโลยีบ้านใหม่ ๆ ซึ่งสอดรับกับเทรนด์ธุรกิจอสังหาฯ ปี 2565 ที่สถานการณ์โควิด-19 ยังคงมีผลต่อทัศนคติ และกำหนดพฤติกรรมผู้ซื้อบ้านให้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป อาทิ ความนิยมซื้อบ้านขนาดใหญ่ เน้นความโล่งโปร่ง ไม่แออัด และยังเหมาะสำหรับการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นเพื่อรองรับการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ได้ดียิ่งกว่า หรือ แม้แต่เทรนด์ของคนรักสัตว์เลี้ยง เป็นที่นิยมมากขึ้น ฯลฯ ขณะที่ผู้บริโภคยุคดิจิทัล ภายใต้การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีความจำเป็นต้องอยู่อาศัยที่บ้านมากขึ้น จึงมองหาบ้านที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ที่ผสมผสานนวัตกรรมบ้านและเทคโนโลยีใหม่มากขึ้นด้วย

        ทั้งนี้ โครงการใหม่ ล่าสุด “เวอริทซ์ (VERITZ) สาธุประดิษฐ์ 34” ลักชัวรี่ทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ ขนาด 4 ชั้น บนทำเลใจกลางเมืองทำเลสาธุประดิษฐ์ – พระราม 3 บริษัทฯ จึงนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา โดยเปิดตัว “ASTIN SMARTHOME” แอปพลิเคชันที่รวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่เพื่อการอยู่อาศัย ให้ทุกคนอยู่บ้านได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้นในทุกวัน และสามารถจัดการทุกสิ่งได้ง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้ว เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยทุกเรื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน และฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่เน้นตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบัน อาทิ

        เกตเวย์ (Gateway) อุปกรณ์กระจายสัญญาณ ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง สำหรับใช้เชื่อมต่อและกระจายสัญญาณไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น การสั่งงานเปิด/ปิดอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือ การแจ้งเตือนความเคลื่อนไหวต่าง ๆ สามารถใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านตัวแอปพลิเคชัน โดย “เกตเวย์” สามารถติดตั้งง่ายแค่เชื่อมต่อผ่านสาย Lan และตัวสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ได้ไกลถึง 30 เมตร

        อุปกรณ์แม่เหล็กติดประตู/ หน้าต่าง หรือ Door/ Window Magnetic สวิตช์แม่เหล็กติดประตูหน้าต่าง ใช้ในการตรวจสอบการล็อกประตูและหน้าต่าง เพื่อป้องกันการขโมยและประยุกต์ใช้งานอื่น ๆ ได้ ซึ่งติดตั้งง่ายโดยนำสวิตช์แม่เหล็กไปติดที่ประตู หรือ ขอบหน้าต่าง ใช้ตรวจสอบการปิดประตูหน้าต่างได้ว่าปิดสนิทแล้วหรือไม่ โดยสวิตช์แม่เหล็กจะส่งสัญญาณกันขโมยและแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน

        เครื่องตรวจจับควัน/ ความร้อน หรือ Smoke/ Heat Detector อุปกรณ์สำหรับตรวจจับควันไฟ หรือ ตรวจจับความร้อนภายในบ้าน โดยอุปกรณ์จะทำงานเมื่ออุณหภูมิถึงจุดสูงสุดที่กำหนดไว้ โดยค่าตั้งต้นคืออุณหภูมิสูงเกิน 57.25 องศาเซลเซียส หรือ อีกแบบหนึ่งคืออุณหภูมิเพิ่มขึ้นทีละ 8.25 องศาเซลเซียส ระบบจะทำการแจ้งเตือนไปยังแอปพลิเคชัน โดยอุปกรณ์จะตรวจจับควันและความร้อนแบบนาทีต่อนาที

        ระบบตรวจจับการสั่นสะเทือน (Shock Sensor) เป็นเซนเซอร์ไร้สาย สำหรับตรวจจับการสั่นไหวของตัวบ้าน ประตู หน้าต่าง เพื่อป้องกันแรงสะเทือน หรือ เตือนแผ่นดินไหว โดยสามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้เจ้าของบ้านรับรู้ สามารถปรับตั้งค่าความไวการตรวจจับได้ถึง 3 ระดับ ต่ำ กลาง สูง และยังสามารถนำไปประยุกต์ในระบบกันขโมยได้อีกด้วย

        อุปกรณ์สุดท้าย คือ กล้องภายนอกอาคาร (Outdoor IP Camera) ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการตรวจสอบบริเวณภายนอกตัวบ้านจากระยะไกล สามารถดูภาพสดได้ผ่านแอปพลิเคชัน โดยตัวอุปกรณ์มีเสาอากาศในตัวเพิ่มการเชื่อมต่อสัญญาณที่เสถียรยิ่งขึ้น ในเวลากลางคืนยังมีประสิทธิภาพในการมองเห็นสูงถึง 30 เมตร และมีคลาวด์เป็นแหล่งเก็บข้อมูลที่พร้อมใช้งาน โดยตัวอุปกรณ์ IP Camera นั้นถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานทุกสภาพอากาศ และยังป้องกันฝุ่นและฝน


คลิปวิดีโอ