กลุ่มบริษัทเอ็นริช ส่ง “ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์” โครงการระดับลักซ์ชัวรีลุยทำเลทองของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ทำเลราชพฤกษ์ซึ่งเป็น New Luxury Hub แห่งใหม่ นำเสนอความต่างด้วยแนวคิดที่ถอดแบบจากไลฟ์สไตล์ การดีไซน์ที่คำนึงถึงทุกรายละเอียด เพื่อตอบรับทุกจังหวะของการใช้ชีวิต ผู้บริหารเผยเป็นความร่วมมือระหว่าง 2 ผู้นำตลาดอสังหาฯ ไทย-ญี่ปุ่น สร้างมิติใหม่ของการอยู่อาศัยในตลาดกลุ่มลักซ์ชัวรี ด้านซีบีอาร์อี เผยตัวเลขการเปิดโครงการบ้าน ณ ไตรมาส 1 ปี 2567 ในบ้านกลุ่มไฮเอ็นด์ และลักซ์ชัวรีบนทำเลกรุงเทพฯ ชั้นนอกฝั่งตะวันตก สัดส่วนเพิ่มสูงกว่า 385% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2566
โครงการ “ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์” (The Article North Ratchaphruek) เป็นโครงการลักซ์ชัวรีที่เปิดตัวด้วยบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สร้างความเป็นส่วนตัวสูงสุด ชูจุดเด่นสถาปัตยกรรมทันสมัย เน้นการออกแบบฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่ กลุ่มบริษัทเอ็นริช เลือกพัฒนาทำเลราชพฤกษ์ เพราะมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มกระจายตัวจากใจกลางเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะทำเลราชพฤกษ์ตัดใหม่ที่แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง พร้อมตอกย้ำแนวคิด “Guiding You to Practical Living” หรือการเป็นคู่คิดสำหรับการใช้ชีวิตจริง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อาศัยได้อย่างลงตัว และสร้างสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน รวมถึงยังผสานกับแนวคิดการจัดบ้านแบบ “คอนมาริ” นักจัดบ้านชื่อดังระดับโลก “มาริเอะ คอนโดะ” ซึ่งเอ็นริชเป็นเจ้าแรกของประเทศที่นำแนวคิดนี้มาใช้ในธุรกิจอสังหาฯ ผ่านตัวแทนที่ปรึกษาระดับมาสเตอร์และได้ผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก
นายอนวัช ฉัตรศิริกุล ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทเอ็นริช เปิดเผยว่า การพัฒนาโครงการ “ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์ มูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท โดยได้ร่วมทุนกับอนาบูกิ โคซัน กรุ๊ป (Anabuki Kosan Group) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 จากประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเล็งเห็นการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในทำเลราชพฤกษ์ที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มตลาดบ้านระดับลักซ์ชัวรี แม้ว่าการแข่งขันในทำเลดังกล่าวจะมีสูงแต่เชื่อมั่นว่ายังมีช่องว่างทางการตลาดที่สามารถเข้าไปเจาะและแข่งขันได้
“เรามองว่าสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ มีความท้าทายในหลายๆ ด้านและตลาดมีการแข่งขันสูง การตัดสินใจเลือกซื้อบ้านของผู้บริโภคใช้เวลานานขึ้น แต่แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทยังคงเดินหน้าเพื่อให้บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมจนถึงระดับลักซ์ชัวรียังมีกำลังซื้อสูง จึงเดินหน้าพัฒนาโครงการเพื่อรองรับกับลูกค้ากลุ่มนี้โดยเลือกทำเลที่มีศักยภาพ พัฒนาโครงการให้มีจุดเด่นที่น่าสนใจด้วยฟังก์ชันและนวัตกรรมด้านการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ ซึ่งที่ผ่านมาเราสามารถพัฒนาโครงการและประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างต่อเนื่อง” นายอนวัช กล่าว
ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทเอ็นริช มีโครงการอสังหาฯ หลากหลายรูปแบบที่พัฒนาออกสู่ตลาด ทั้งยังมีความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพหลายรายในการพัฒนาโครงการร่วมกัน ในปีนี้กลุ่มบริษัทเอ็นริชได้ร่วมมือกับ อนาบูกิ โคซัน กรุ๊ป พัฒนาโครงการดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์ และยังได้ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย (CBRE Thailand) บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลกเข้ามาเป็นตัวแทนที่ปรึกษาทางการตลาด และบริหารงานขายให้กับโครงการอีกด้วย จึงมั่นใจว่าโครงการที่เอ็นริชพัฒนาออกมา มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของ ดีไซน์ ฟังก์ชัน และการเลือกใช้วัสดุ ทำให้โครงการมีความแตกต่างจากคู่แข่งและเป็นที่ต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี
ด้านนางสาวสุพิชา ณัฐสุวรรณพล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัทเอ็นริช กล่าวว่า แนวคิดที่กลุ่มบริษัทเอ็นริชยึดถือมาโดยตลอดในการพัฒนาโครงการ คือ “Guiding You to Practical Living” เป็นการคำนึงถึงทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิต โดยเน้นในเรื่องคุณภาพและโปรดักส์ที่น่าสนใจ นำมาพัฒนาโครงการ ให้มีจุดเด่น ใส่ใจรายละเอียดในทุกขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการแรกในการออกแบบ จนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ลูกค้าได้เข้าอยู่ ลูกค้าต้องได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดรวมถึงยังผสานกับแนวคิดการจัดบ้านแบบ “คอนมาริ” ของนักจัดบ้านชื่อดังระดับโลก “มาริเอะ คอนโดะ” ซึ่งเอ็นริชเป็นเจ้าแรกของประเทศ ที่นำแนวคิดนี้มาใช้ในธุรกิจอสังหาฯ ผ่านตัวแทนที่ปรึกษาระดับมาสเตอร์ และได้ผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากเพื่อให้ลูกค้าได้ศึกษา และนำมาปรับใช้กับบ้านของลูกค้าในอนาคตอีกด้วย
“ด้วยการแข่งขันที่สูงของตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่เดียวกัน เราจึงยิ่งเน้นพัฒนาโครงการให้มีดีไซน์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว รวมถึงให้ความสำคัญในเรื่องประสบการณ์การอยู่อาศัยร่วมกันของทุกคนในครอบครัว ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของเราคือ การที่เราคำนึงถึงการใช้ชีวิตที่หลากหลาย เราจึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนบางอย่างได้ด้วยระบบ Customization เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อาศัยปรับเปลี่ยนไปตามเทรนด์ และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ” นางสาวสุพิชา กล่าว
สาเหตุที่เลือกเข้ามาพัฒนาโครงการในทำเลราชพฤกษ์ เป็นเพราะมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของตลาด อสังหาฯ ที่เริ่มกระจายตัวจากใจกลางเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะทางกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก รวมถึงในทำเลดังกล่าวมีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในรูปแบบต่าง ๆ ออกมารองรับการอยู่อาศัยในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คอมมูนิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ซึ่งโครงการ The Article North Ratchaphruek อยู่ใกล้กับ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ เพียง 300 ม. เท่านั้น สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องการขยายครอบครัว มีพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น มีชีวิตการทำงานที่ค่อนข้างยืดหยุ่น สามารถทำงานได้ที่บ้าน หรือหากเดินทางไปทำงานก็สามารถเดินทางได้สะดวก ซึ่งโครงการ The Article North Ratchaphruek ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว
ส่วนนายมาซาอากิ คากาวะ กรรมการผู้จัดการ อนาบูกิ โคซัน กรุ๊ป กล่าวว่า การเข้ามาร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทเอ็นริช เป็นเพราะมีแนวคิดและการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และยังเห็นว่า บริษัท เอ็นริชพัฒนาโครงการอย่างมีคุณภาพ การใส่ใจในด้านงานดีไซน์เป็นพิเศษ การวางแผนและการออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของการอยู่อาศัย การคัดเลือกพัฒนาโครงการบนทำเลที่มีศักยภาพทั้งปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ในอนาคต ที่สำคัญบุคลากรของกลุ่มเอ็นริช มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาโปรดักส์ ซึ่งได้สัมผัสถึงความใส่ใจในรายละเอียด จึงได้ตัดสินใจที่จะร่วมกันพัฒนาโครงการนี้กับ บริษัท เอ็นริช
“เราเห็นว่าโปรดักส์ของเอ็นริชนั้นมีความโดดเด่น เป็นที่ดึงดูดความสนใจของเรา เรามองว่าเอ็นริช พัฒนาโปรดักส์ได้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ที่บริษัทเอ็นริชได้ใส่ใจเป็นพิเศษ โดยคำนึงถึงความสะดวกสบาย และการเลือกทำเลการพัฒนาโครงการที่ดีรวมไปถึงมีการวางแผนงานที่ดีอีกด้วย” นายมาซาอากิ กล่าว
ขณะที่ นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบ้านในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 มีการเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรใหม่มากถึง 31 โครงการ รวม 5,032 ยูนิต มีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นกว่า 15.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 ถือเป็นสัญญาณบวก โดยพบว่าตั้งแต่ปี 2565-2567 ตลาดบ้านโซนกรุงเทพชั้นนอกฝั่งตะวันตก มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเปิดตัวโครงการบ้านเพิ่มขึ้นกว่า 145% ในปี 2565 และ 18% ในปี 2566 ทั้งนี้สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ยังพบอีกว่าทำเลนี้มีอัตราการเปิดตัวโครงการบ้านสูงที่สุดในกลุ่มทำเลกรุงเทพชั้นนอกซึ่งประกอบไปด้วย 4 ทำเลด้วยกัน ซึ่งหากพิจารณาเจาะลึกเฉพาะกลุ่มเซกเมนต์ไฮเอ็นด์ขึ้นไปในปี 2566 ยังพบด้วยว่ามีการเปิดตัวโครงการบ้านทั้งปีเพิ่มขึ้นกว่า 227% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ทยานสูงขึ้นว่า 385% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันใน ปี 2566
นางสาวอาทิตยา กล่าวเสริมอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดบ้านหรูในโซนราชพฤกษ์เติบโตเป็นเพราะศักยภาพของทำเลที่มีองค์ประกอบสนับสนุนให้ทำเลราชพฤกษ์กลายเป็น New Luxury Hub กล่าวคือ การมีความสมบูรณ์ของระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ทั้งการสร้างและขยายถนน อาทิ ถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ การขยายถนนชัยพฤกษ์ ถนนชัยพฤกษ์เชื่อมกับสะพานพระราม 4 ถนน 10 เลน รวมถึงเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีชมพู ส่งผลให้เกิด Connectivity ที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อพื้นที่ได้ทั้ง 3 จังหวัด ทั้งกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี การพัฒนาโครงการ Shopping Mall ขนาดใหญ่รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนในโซนราชพฤกษ์ เช่น Robinson Lifestyle Ratchaphruek, Central Westgate, Central Westville, และ Lotus’ North Ratchaphruek อีกทั้งทำเลราชพฤกษ์โซนนี้ยังเชื่อมต่อไปยังถนนแจ้งวัฒนะ ที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางย่านธุรกิจซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการสำคัญๆ และบริษัทชั้นนำมากมาย โดยมีพื้นที่อาคารสำนักงานมากกว่า 1,100,000 ตารางเมตร ทำให้เกิดดีมานด์ของคนทำงานภายในย่านนี้ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดที่พักอาศัยในโซนแจ้งวัฒนะ และขยายตัวมายังโซนราชพฤกษ์เช่นกัน
“อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โครงการ The Article North Ratchaphruek มีความน่าสนใจเป็นเพราะตั้งอยู่ในโซนที่มีการเติบโตสูง ทั้งสภาพแวดล้อม การเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวก ติด Shopping Mall ซึ่งมีข้อดีคือเดินทางสะดวก ประหยัดเวลาในการจับจ่ายใช้สอย โดย Robinson Lifestyle Ratchaphruek ใกล้เพียง 300 เมตร เป็นห้างสรรพสินค้าใหม่ ร้านอาหารมากมาย สามารถจับจ่ายใช้สอยได้สะดวก ง่ายต่อการใช้ชีวิต รวมไปถึงตั้งอยู่ในทำเลที่มีมูลค่าการประเมินที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากอดีตราคาที่ดินยังไม่สูงมาก โดยเพิ่มขึ้นกว่า 21% ในรอบการประเมินปี 2566-2569 และมองว่าทำเลนี้มีศักยภาพจะเติบโตได้อีกมากในอนาคต โดยเฉพาะทำเลที่โครงการตั้งอยู่มีโอกาสที่จะเป็น Hub บ้านหรูทำเลถัดไป เช่นเดียวกับทำเลถนนเลียบทางด่วนเอกมัย รามอินทรา ทำเล กรุงเทพกรีฑา ขณะเดียวกันโครงการยังมีความแตกต่างจากโครงการทั่วไปในตลาดอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์การดีไซน์ การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เป็นตัวเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้าในทำเลนั้นได้ ในขณะที่ฟังก์ชันถือว่าให้แบบจัดเต็มด้วยพื้นที่ 300-500 ตร.ม. ที่จอดรถ 3-4 คัน และยังสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นของบ้านได้ตามต้องการ เรียกว่า ราคา High-end บนทำเลที่ Premium ในโซนราชพฤกษ์เลยทีเดียว” นางสาวอาทิตยา กล่าวในตอนท้าย