เอพี ไทยแลนด์ ภายใต้พันธกิจ ‘EMPOWER LIVING’ ที่มุ่งส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ เผยปี 64 ยืนหนึ่งฝ่าคลื่นวิกฤต ด้วยผลงานท็อปฟอร์มในอุตสาหกรรม คาดยอดโอนปิดปี 64 ประมาณ 40,000 ล้านบาท NET D/E ต่ำสุดเพียง 0.58 เท่า ย้ำ “ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย” ยังคงเป็นธุรกิจหลักขับเคลื่อนอุตสาหกรรมผ่านวิกฤตในทุกยุคสมัย
วางปี 65 ปีแห่งการพุ่งทะยานไปต่อ BREAKTHROUGH ทุกข้อจำกัด สร้างความต่างที่เหนือกว่าให้กับวิถีชีวิตใหม่ เปิดแผนที่สุดแห่งปี กับการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มากที่สุด แบบบ้านใหม่ที่เยอะที่สุด และการขยายไปเซกเมนต์ใหม่เซกๆ แบบไม่สิ้นสุด ยิ่งใหญ่กับแผนเปิดตัวโครงการที่มากสุดถึง 65 โครงการ มูลค่า 78,000 ล้านบาท ตั้งเป้าทั้งปี ปูพรมรวม 182 โครงการทั่วไทย มูลค่าพร้อมขายกว่า 149,000 ล้านบาท วางเป้าหมายเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยเป้ายอดขาย 50,000 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ 47,000 ล้านบาท เล็งแชร์เค้กในพื้นที่ใหม่โซนปริมณฑล ด้วยแผนขยายสินค้าแนวราบจำนวนมากไปยัง เขตต่างๆ ในสมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี และปทุมธานี เช่น บางพลี พุทธสาคร ซอยพันท้ายนรสิงห์ เทพารักษ์ และบางบ่อ เป็นต้น
กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮม เดินเกมส์สร้างความต่าง เตรียมเปิด Big Surprise ที่จะมาเขย่าตลาดทาวน์โฮมในทุกเซกเมนต์ ด้วย 20 แบบบ้านใหม่ จาก 6 แบรนด์ทาวน์โฮมคุณภาพ ปลุกกระแสความปังให้ตลาดคอนโดอีกครั้ง เดินหน้าเปิดตัว 5 โครงการใหม่ ชู ASPIRE เป็น Fighting Brand หลักลุยตลาดแมส ด้วยจุดยืน อิสระในทุกมิติของชีวิต ราคาเริ่ม 1.99 ล้านบาท พร้อมเตรียมรับรู้รายได้จาก 3 โครงการใหม่ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จ ครองแชมป์ซุปเปอร์สตาร์แห่งปีกับกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวที่โตแรงฉุดไม่อยู่ ปี 65 เตรียมปล่อยหมัดเด็ด เดินเครื่องบุกตลาดบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้าน ด้วยแบรนด์ใหม่เจาะกลุ่ม Gen M และ Gen Z กับแบบบ้านดีไซน์ใหม่
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้นตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับภาวะซบเซา และส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคในหลายๆ เซกเตอร์อย่างเลี่ยงไม่ได้ สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเราพบว่าความต้องการซื้อและเช่าในตลาดอสังหาฯ ยังมีอยู่ เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามสถานการณ์ หากเทียบกับสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ซึ่งในปีนั้นเศรษฐกิจไทยต้องเผชิญภาวะตกต่ำ แต่อสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมกลับขายดีมาก ซึ่งวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ก็คล้ายเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในแง่ที่อสังหาริมทรัพย์ไม่ได้ถูกทำลายลงไป เพียงแต่ทรานฟอร์มไปตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสภาวะเวลา
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังถือเป็นหนึ่งคีย์สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ จากข้อมูลศูนย์วิจัยกรุงศรีฯ ระบุว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าตลาดคิดเป็นสัดส่วน 8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบจำนวนมาก เกิดการจ้างงานและรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมไปกับการสนับสนุนให้กับอุตสาหกรรมอื่น อาทิ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจสถาบันการเงิน ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า และธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งได้เติบโตไปพร้อมกัน และหากย้อนกลับดูผลประกอบการของ 5 บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย ยังพบการเติบโตของตัวเลขในอัตราที่เป็นบวก ซึ่งในส่วนของเอพี ไทยแลนด์คาดว่าในปี 2564 บริษัทฯ จะมียอดโอนอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในตลาดประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งนั่นสะท้อนให้เห็นว่า “ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย” ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่นำพาให้อุตสาหกรรมนี้สามารถขับเคลื่อนผ่านวิกฤตในทุกยุคสมัยมาได้อย่างสวยงาม
2021 AP THAILAND GROWTH THROUGH EMPOWER LIVING
สำหรับปีที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่เอพี ไทยแลนด์สามารถฝ่าฟันวิกฤตการณ์มาได้ ถือเป็นปีแห่งความแข็งแกร่ง และยังคงสามารถรักษาการเติบโตท่ามกลางการ Reset ครั้งใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ 3 กลยุทธ์สำคัญที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ได้แก่ 1. การบริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขาย ให้กระจายไปในหลากหลายทำเล เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากกว่า โดยในปีที่ผ่านมาเอพีมีโครงการมากกว่า 117 โครงการ กระจายขายทั่วประเทศไทย และสามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 35,050 ล้านบาท โดยสินค้าแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมยังคงเป็นแรงสำคัญในการสร้างการเติบโต นอกจากนั้น ยังสามารถปิดการขายโครงการแนวราบได้จำนวนมาก 2. Cash Flow Management การบริหารจัดการกระแสเงินสด ตลอดระยะเวลาของการเผชิญวิกฤตการณ์โรคระบาด บริษัทฯ คงรักษาเสถียรภาพทางการเงินได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
โดย ณ สิ้นปี 64 บริษัทฯ มีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ต่ำเพียง 0.58 เท่า และ 3. Digital Competency การสร้างความได้เปรียบด้วย Digital ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโรดแมพสำคัญที่เอพีใช้เป็นคีย์ในการเคลื่อนธุรกิจท่ามกลาง การเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ Touchpoint ของการดำเนินธุรกิจ ทั้งกับลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ควบคู่กับการเอ็มพาวเวอร์สังคม เพื่อกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง กับโครงการ SAVE LIVES, PROTECT PEOPLE – เอพี เซฟชีวิต เซฟสังคม กับหลากหลายภารกิจลงพื้นที่ เพื่อหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับกลุ่มคนที่อาจยังถูกมองข้าม หรือโครงการ NEIGHBOR SERVICE มาร์เก็ตเพลสสร้างรายได้รูปแบบใหม่ หนึ่งเดียวในไทยที่เป็นศูนย์กลางซื้อ-ขาย สินค้าในรูปแบบของ ‘ความสามารถพิเศษ’ เพื่อคนไทยในทุกไลฟ์สไตล์ใช้งานแพลตฟอร์มได้ฟรี! โดยไม่จำกัดต้องเป็นลูกค้าเอพีเท่านั้น
AP THAILAND BREAKTHROUGH 2022 เอพี ไทยแลนด์พุ่งทะยานไปต่อ BREAKTHROUGH ทุกข้อจำกัดสร้างความต่างที่เหนือกว่าให้กับวิถีชีวิตใหม่
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า บริษัทฯ วางปี 2565 เป็นที่สุดแห่งปี กับการพุ่งทะยานไปต่อ BREAKTHROUGH ทุกข้อจำกัดสร้างความต่างที่เหนือกว่าให้กับวิถีชีวิตใหม่ ด้วยการต่อยอดความสำเร็จจากสินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยว พร้อมเตรียมเปิด Big Surprise กล่องใหญ่และใหม่ล่าสุดให้กับสินค้ากลุ่มทาวน์โฮม และเตรียม Boost Up ตลาดคอนโดมิเนียมให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ควบคู่นวัตกรรมดีไซน์ที่นำมาสู่การเติบโตที่ยั่งยืนบนความท้าทายของโลกใหม่ รวมถึงในปีนี้เอพียังมีแผนขยายสินค้าแนวราบจำนวนมากไปยังทำเลเขตปริมณฑล อย่างสมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี และปทุมธานี เพื่อตอบกลุ่มเป้าหมายที่กว้างมากขึ้นอีกด้วย
โดยในปี 2565 จะเป็นปีที่เอพี ไทยแลนด์มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม โดยวันนี้เอพี มีแผนเปิดตัวแล้วทั้งสิ้น 65 โครงการ มูลค่ากว่า 78,000 ล้านบาท ถือเป็นจำนวนโครงการใหม่ที่มากที่สุดตั้งแต่เคยดำเนินธุรกิจมา แบ่งเป็นทาวน์โฮม 29 โครงการ มูลค่า 25,200 ล้านบาท บ้านเดี่ยวจำนวน 26 โครงการ มูลค่า 35,600 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 13,000 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีเอพีจะมีโครงการพร้อมขายทั้งกทม.และต่างจังหวัดมากกว่าถึง 182 โครงการ มูลค่ากว่า 149,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขาย 50,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 47,000 ล้านบาท
“การเปิดตัวโครงการใหม่ในปริมาณที่มากขนาดนี้ ถ้าระบบหลังบ้านไม่พร้อมก็ยากที่จะเป็นจริงได้ ซึ่งตลอด 2 ปีของการเผชิญวิกฤตได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของทีมเอพี ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดโครงสร้างองค์กรภายในให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยคีย์สำคัญคือ การให้อำนาจการตัดสินใจแก่คนที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ และปีนี้เราพร้อมก้าวข้อจำกัดไปอีกขั้น ด้วยแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มากขึ้นกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า ซึ่งนอกจากจะเป็นการเปิดใหม่เพิ่มทดแทนโครงการเก่าที่ปิดการขายไปจำนวนมากนั้น ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบที่มากขึ้น ด้วยการขยายสินค้าไปยังตลาดใหม่ๆ อีกด้วย” นายวิทการกล่าว
โดยไฮไลต์ที่น่าสนใจในปีนี้ คือการพลิกวิธีคิดในการพัฒนาทาวน์โฮมในเมืองเครือเอพีใหม่ทั้งหมด เพื่อครองภาพการเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮม ภายใต้แนวคิด “Unlock ชีวิตคนเมืองกับทาวน์โฮมเอพี พื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกได้” ด้วยเป้าหมายการเติบโตที่มากขึ้นกว่า 30% โดย Big Surprise ที่จะมาเขย่าตลาดทาวน์โฮมในทุกเซกเมนต์ ประกอบด้วย 1. การเปิดตัว 20 แบบบ้านใหม่ จาก 6 แบรนด์ทาวน์โฮมคุณภาพ ที่พลิกโฉมใหม่หมด ทั้งมิติงานสถาปัตยกรรมและสเปซภายใน เพื่อเดินหน้าปลดล็อกประสบการณ์ของการอยู่อาศัยในทาวน์โฮมแบบเดิมๆ 2. เตรียมกินแชร์ตลาดบ้านแฝด 3 ชั้นและ 2 ชั้นเพิ่มขึ้น ชูจุดขายด้วยบ้านหน้ากว้างสูงสุด 11 เมตร แบรนด์บ้านกลางเมือง The Edition และแกรนด์ พลีโน่ 3. บุกตลาดทาวน์โฮม 2 ชั้นในเขตปริมณฑล ด้วยแบรนด์น้องใหม่ PLENO TOWN เริ่ม 1.89 ล้านบาท
ในส่วนธุรกิจบ้านเดี่ยว เรายังเดินหน้าตามแผนครองความเป็นผู้นำในธุรกิจบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้บ้านเดี่ยวเครือเอพีครองความแข็งแกร่งและเติบโตในทุกเซกเมนต์ ด้วยส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล (รอบปี 2558 – ครึ่งแรกปี 2564) ผ่าน 3 แบรนด์คุณภาพ ได้แก่ THE PALAZZO คฤหาสน์หรูในเซกเมนต์ซูเปอร์ลักชัวรี่ THE CITY บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่เซกเมนต์ไฮเอนด์ และ CENTRO บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซกเมนต์กลางบน และในปีนี้เอพีจะต่อยอดความชำนาญด้วยการบุกไปยังตลาดใหม่ในพื้นที่เขตปริมณฑล อย่างสมุทรสาคร และสมุทรปราการ ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ บ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้ชื่อแบรนด์ใหม่ เพื่อมุ่งเจาะกลุ่ม Gen M และ Gen Z กับแบบบ้านดีไซน์ใหม่
พร้อมเตรียมปลุกกระแสความปัง ทวงคืนภาพผู้นำคอนโดมิเนียมในเมือง ด้วยแผนเดินหน้าเปิดตัว 5 คอนโดมิเนียมใหม่ มูลค่า 13,000 ล้านบาท ชู ASPIRE เป็น Fighting Brand หลักบุกลุยตลาดแมส ด้วยจุดยืน LIVE AS YOU ASPIRE อิสระในทุกมิติของชีวิตกับ 3 จุดขาย Modular Layout พื้นที่ชีวิตที่พร้อมปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ The Best of ‘ME’ Space พื้นที่ส่วนกลางที่ตอบทุกตัวตน Entry-Level Price ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเริ่มต้น 84,000 บาท/ตร.ม. ใน 4 ทำเล 1) Aspire ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ ซึ่งพร้อมเปิดพรีเซลในวันที่ 19-20 มีนาคมนี้ 2) Aspire รัชโยธิน 3) Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 และ 4) Aspire อ่อนนุช สเตชั่น พร้อมด้วย LIFE พหล-ลาดพร้าว นอกจากนั้นในปีนี้ยังเตรียมอวดโฉม 3 คอนโดพร้อมอยู่ ที่ตอบทุกเซกเมนต์กับ 1) RHYTHM เอกมัย เอสเตท 2) LIFE สาทร เชียร์ร่า 3) ASPIRE เอราวัณ ไพร์ม
“ตลาดคอนโดถือว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่ยังคงต้องดูในปีหน้าว่าจะกลับมาเติบโตมากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่าปี 65 เราจะเริ่มเห็นบางเซกเมนต์ที่ดีขึ้น อย่างเซกเมนต์กลางถึงกลางล่าง และถ้ากิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับสู่ปกติ การจราจรกลับมาติดขัดเหมือนเดิม น่าเป็นโอกาสที่ดีที่มีต่อตลาดคอนโด แน่นอนว่า บทเรียนที่เราเรียนรู้มาตลอด 2 ปีของการแพร่ระบาด วิธีการทุกอย่างที่เราเคยทำและเรียนรู้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วทั้งสิ้น เรายังคงต้องเผชิญอยู่กับความท้าทายใหม่ๆ โรคระบาดยังคงอยู่กับเราอย่างเลี่ยงไม่ได้ คาดว่าครึ่งปีแรกของปี 65 น่าจะยังคงไม่ต่างจากปีนี้ แต่เชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังปี 65 ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่หวัง โลกรับมือกับโอมิครอนได้ดีขึ้น ยารักษาผลิตออกมาใช้งานได้จริง ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจทั่วโลกน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ” นายวิทการ กล่าวทิ้งท้าย