วันศุกร์ ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 10:58น.

“allRIDE” ชูแบรนด์ Lambretta ทำตลาด ทุ่ม 20 ล้าน รีแบรนด์ครั้งใหญ่ เปิดโชว์รูมแนวใหม่

27 พฤษภาคม 2023

        “allRIDE” บุกตลาด “Premium Classic Scooter” ทุ่ม 20 ล้านรีแบรนด์ครั้งใหญ่ “allRIDE Definietly REAL” เดินหน้ารุกตลาดรถคลาสสิกสกู๊ตเตอร์ รักษาตำแหน่งผู้นำ พร้อมตอบทุกไลฟสไตล์ของชาวเมืองสู่ ปี 2025 โดยเข็น Lambretta เป็นสินค้าไฮไลท์ หวังชิงส่วนแบ่งตลาดรถมอเตอร์ไซค์มูลค่า 75,000 ล้านบาท เปิดตัวโชว์รูมสาขาลาดพร้าว ภายใต้คอนเซปต์ Modern Lifestyle Shop (MLS) ยึดแนวคิด 3C Community-Convenience-Compact สร้างพื้นที่เชื่อมโยงกับลูกค้าเสมือนเป็น “พี่ชาย” ที่จริงใจเสมอมา เป็นศูนย์รวมบริการครอบคลุมโซนจัดแสดงรถ, สินค้าอุปกรณ์ตกแต่ง และบริการ ครบจบในหนึ่งเดียวแห่งแรกในไทย พร้อมวางแผนเดินหน้าขยายสาขาใหม่ต่อเนื่องในปีนี้อีก 3 สาขา คาดว่าในปี 2567 จะเปิดให้ได้ครบ 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพ และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด

        นายภีศเดช นันทชัยพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรียล โมโตสปอร์ต จำกัด กล่าวว่า บริษัท มีนโยบายเปิด Business Unit ใหม่ ภายใต้แบรนด์ “allRIDE” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการยานพาหนะประเภทต่าง ๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ทุกชนิด เริ่มด้วยรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิก Lambretta (แลมเบรตต้า) ซึ่งเป็นแบรนด์คลาสสิก สกู๊ตเตอร์จากประเทศอิตาลี ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงมีดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประกอบกับเมื่อศึกษาและทำความเข้าใจในแผนการตลาดของบริษัทแม่ ทำให้ allRIDE มีความมั่นใจและมุ่งมั่นนำแลมเบรตต้า มาบุกตลาดในประเทศไทย พร้อมสร้างความแตกต่างด้วยการพัฒนาทีมงานให้มีใจบริการอย่างรู้จริง ดุจ “พี่ชาย” ของวงการแลมเบรตต้า ให้คำแนะนำและบริการที่ดีที่สุดเหมือนคนในครอบครัว

        แลมเบรตต้า เข้ามาครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2504 และหยุดจำหน่ายไปเมื่อปี พ.ศ. 2524 นับตั้งแต่ที่แลมเบรตต้ากลับเข้ามาในประเทศไทยในพ.ศ. 2562 จนถึงปัจจุบัน allRIDE ได้เติบโตไปพร้อมกัน ในฐานะดีลเลอร์ที่สร้างยอดขายอันดับ 1 มาตลอดด้วยยอดจำหน่ายไปแล้วกว่า 1,500 คัน ซึ่งส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้มาจากพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การขับขี่ของผู้ชื่นชอบรถบิ๊กไบค์ ที่เปลี่ยนมาให้ความสนใจกับรถสกู๊ตเตอร์กันมากขึ้น ประกอบกับ allRIDE ยังเป็นผู้รู้จริงที่เข้าดูแลลูกค้าแลมแบรตต้าในช่วงแรกของการขาย ซึ่งขนาดนั้นยังไม่มีใครสนใจดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ ด้วยสินค้าที่ใหม่ และยังไม่คุ้นชินในเอกลักษณ์ของแลมแบรตต้า

        ตลอดเวลา 5 ปี allRIDE ได้อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่แลมเบรตต้า และลูกค้าแลมเบรตต้ามาตั้งแต่วันแรก พร้อมทั้งยังสามารถให้ข้อมูลลูกค้าได้อย่างครบถ้วนทั้งเรื่องสินค้าและการบริการ รวมถึงได้มีการจัดตั้งศูนย์บริการหลังการขายที่ดูแลโดยช่างผู้ชำนาญ และการสร้างคอมมูนิตี้ผู้รักรถสกู๊ตเตอร์ ผ่านกิจกรรม allRIDE Camp ที่จัดขึ้นเป็นประจำ เพื่อเป็นช่องทางให้ลูกค้าของเราได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

        ปัจจุบัน allRIDE เป็นผู้จัดจำหน่ายแลมเบรตต้าอันดับ 1 ในเขตกรุงเทพมหานครฯ มาโดยตลอดเป็นระยะเวลา 4 ปี ซึ่งมีสาขารวม 4 แห่งคือ สาขารามคำแหง, สาขาแจ้งวัฒนะ, สาขาวัชรพล, สาขาลาดพร้าววังหิน และมีแผนที่จะขยายสาขาในปีนี้อีก 3 สาขา คาดว่าในปี 2567 จะเปิดให้ได้ครบ 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพ และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ซึ่งการจัดจำหน่ายแลมเบรตต้าในรุ่น V125, V200, X300 และ G350 โดยแต่ละรุ่นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและรูปทรงความโดดเด่นที่ต่างกันออกไป เช่น ในรุ่น V125 และ V200 จะให้กลิ่นอายความเป็นคลาสสิกสกู๊ตเตอร์ที่คงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของแลมเบรตต้าไว้ ส่วนในรุ่น X300 ถือเป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมที่มียอดจองกว่า 2,500 คันในช่วงเปิดตัว 2 เดือนที่ผ่านมา ด้วยกระแสการมีคนไทยร่วมออกแบบ ผ่านคอนเซปต์ “Heritage to Future” ให้ความเป็นโมเดิร์นคลาสสิกที่โดดเด่นในราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับสมรรถนะที่ได้รับ และเมื่อเทียบกับรถคลาสสิคสกู๊ตเตอร์ยี่ห้ออื่นๆ ในตลาดมาก่อน นอกจากนี้ allRIDE ยังมีบริการที่ให้อัตราดอกเบี้ยเงินผ่อนที่ต่ำแบบเดียวกับรถยนต์ เข้ามาเป็นอีกปัจจัยให้ลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น

        นายภีศเดช กล่าวเสริมว่า ตลาดรถคลาสสิกสกู๊ตเตอร์ เป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงมากถึง 40% เมื่อเทียบกับตลาดรถมอเตอร์ไซค์ประเภทอื่นที่มีการเติบโตเพียง 10% มาจาก

        1. ความแตกต่างด้านดีไซน์ : จาก 4 รุ่น รวมเกือบ 30 สีให้เลือก

        2. ความต่างของปริมาณ cc. : มากกว่าในราคาไม่สูงมาก ทำให้ผู้บริโภคเข้าได้ง่าย

        3. ความแตกต่างในการให้บริการ : ทีมงาน allRIDE ให้มีใจบริการอย่างรู้จริง

        4. ความแตกต่างของการทำตลาด : ใช้พรีเซ็นเตอร์ที่มีคาร์เร็คเตอร์ที่เข้ากับแบรนด์ เช่น มาริโอ้ เมาเร่อ

        นอกจากนี้ ตลาดรถคลาสสิกสกู๊ตเตอร์ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก จากส่วนแบ่งการตลาดที่มีเพียง 3% เมื่อเทียบกับตลาดรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดซึ่งมีมูลค่า 75,000 ล้านบาท (ที่มา: กระทรวงคมนาคม พ.ศ.2565) และประเทศไทยยังมียอดขายแลมเบรตต้าเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย ทำให้ allRIDE มุ่งมั่นจะสร้างการเติบโตและรักษาส่วนแบ่งตลาดในฐานะดีลเลอร์อันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเดินหน้าขยายสาขาใหม่ในปี 2566 นี้ ภายใต้แนวคิด “Modern Lifestyle Shop” (MLS)

        โดย นางศิริลักษณ์ นันทชัยพร ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุน บริษัท เรียล โมโตสปอร์ต จำกัด เปิดเผยว่า แนวคิดการเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ของ allRIDE Definietly REAL จะมุ่งที่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคือคนเมืองในวัยทำงาน ที่มองหารถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกโดยเฉพาะ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเข้าชมสินค้าและได้รับคำปรึกษาอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญของบริษัท ในคอนเซปต์ Modern Lifestyle Shop (MLS) โดยประกอบขึ้นจากคอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต จำนวน 3 ตู้ ก่อสร้าง 2 ชั้นและตกแต่งระเบียงเพิ่มเติมเพื่อความโล่งโปร่งสบาย แบ่งเป็น 3 โซนหลัก คือ โซนจัดแสดงรถแลมเบรตต้าในรุ่นและโทนสีต่าง ๆ โซนสินค้าอุปกรณ์ตกแต่ง Accessory เช่น หมวกกันน็อก เสื้อยืด allRIDE ฯลฯ และโซนบริการ เพราะจุดนี้เราเปรียบเสมือน “พี่สาว” ซึ่งพร้อมให้คำแนะนำ และปรับโฉม ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่สะท้อนตัวผู้ขับขี่อย่างมั่นใจ

        “โชว์รูม allRIDE Definietly REAL แห่งใหม่สาขาลาดพร้าว สร้างขึ้นโดยยึดแนวคิด 3C ที่ประกอบด้วย Community เลือกทำเลที่ตั้งในแหล่งชุมชนอยู่อาศัยมากกว่าเข้าไปในเขตเมือง, Convenience อยู่ในจุดที่สังเกตเห็นง่าย เข้าถึงง่าย และมีที่จอดรถเพียงพอ สุดท้ายคือ Compact เป็นโชว์รูมขนาดกะทัดรัดใช้เนื้อที่อย่างคุ้มค่า และยังเป็นศูนย์รวมบริการของแลมเบรตต้าที่ครบจบในหนึ่งเดียวแห่งแรกในประเทศไทย ตอบโจทย์ต่อการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

        “โชว์รูมแบบ Modern Lifestyle Shop (MLS) ซึ่งรวมแนวคิดของทั้ง 3C ไว้ ถือเป็นคอนเซปต์ที่ allRIDE จะนำมาใช้ในการเดินหน้าขยายสาขาใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างพื้นที่เชื่อมโยงระหว่างเรากับลูกค้า ไม่ว่าจะในแง่ของการส่งมอบบริการ ให้คำแนะนำ รวมถึงส่งต่อประสบการณ์ความรู้ดี ๆ เสมือนเป็น ‘พี่ชาย’ ที่มีแต่ความจริงใจเสมอมา”


คลิปวิดีโอ