วันเสาร์ ที่ 21 กันยายน 2567 01:49น.

AIS ผนึกกำลัง ตำรวจไซเบอร์ และ กสทช. ทลายรังแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ครั้งใหญ่ กว่า 14 จุด ในจังหวัดชลบุรี

12 กรกฎาคม 2022

       หลังจากที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ และ AIS ร่วมกันทำงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมถึง กสทช. เข้าจับกุมมิจฉาชีพ ทลายแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ โดยตรวจค้น 8 จุด ทั่วกรุงเทพฯ ในพื้นที่ เขตบางนา ห้วยขวาง และลาดพร้าว พร้อมตรวจยึดหลักฐานเครื่องสัญญาณ IP PBX ที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้เป็นเครื่องมือในการฉ้อโกงประชาชนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (6 กรกฎาคม 2565)

       ล่าสุดได้ทำงานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องเพื่อปกป้องลูกค้าและประชาชนจากมิจฉาชีพ ช่วงค่ำวานนี้ (11 กรกฎาคม 2565) เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นจุดกระจายสัญญาณแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ โทรหลอกผู้เสียหาย 14 จุด ในพื้นที่ ตำบลหนองปลาไหล อ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี ตรวจพบ เครื่อง IP PBX 101 เครื่อง (ซึ่งสามารถโทรแบบอัตโนมัติ ได้เต็มประสิทธิภาพ วันละ 1,616,000 ครั้ง หรือ เดือนละ 48.48 ล้านครั้งต่อเดือน) พร้อมรวบผู้ดูแลดำเนินคดี และจะขยายผลไปสู่ผู้จ้างวานต่อไป จากการดำเนินการอย่างต่อเนื่องทำให้สะท้อนถึงการทำงานเชิงรุก เจอ จับ จริง ตั้งเป้าปกป้องลูกค้าและประชาชนจากมิจฉาชีพ นับเป็นอีกหนึ่งผลสำเร็จของการทำงานร่วมกันระหว่าง AIS ตำรวจไซเบอร์ และ กสทช รวมถึงข้อมูลสำคัญจากการแจ้งรายงานจากลูกค้า AIS และประชาชนผ่าน ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ

       นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า “จากกรณีปัญหามิจฉาชีพละเมิดการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชน ที่สร้างความเดือดร้อน รำคาญ ไปจนถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งปัจจุบันเกิดเพิ่มขึ้นตามลำดับ ดังนั้นในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล ที่มีเป้าหมายสูงสุดคือ การปกป้องข้อมูลและการใช้งานระบบสื่อสารของลูกค้า ที่ผ่านมานอกเหนือจากการพัฒนาดิจิทัลเซอร์วิสเพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์ อาทิ AIS Secure Net , Google Family Link ที่สามารถดูแลการใช้งานโทรศัพท์มือถือให้อยู่บนความปลอดภัยจากสแปม,ฟิชชิ่ง,ไวรัสแล้ว เรายังได้ร่วมทำงานกับภาครัฐ อย่าง กสทช.และฝ่ายความมั่นคงอย่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ ผ่านบริการสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา”

        “ดังนั้นในวันนี้ที่ฝ่ายความมั่นคง สามารถจับกุมมิจฉาชีพแก็งคอลล์เซ็นเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นผลจากการร่วมทำงานระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างไร้รอยต่อ โดยเอไอเอส ยินดีที่จะสนับสนุนและร่วมทำงานกับภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องลูกค้าและประชาชนจากมิจฉาชีพที่จะถูกดำเนินการทางกฏหมายต่อไป” นายปรัธนา กล่าวทิ้งท้าย

        พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้สั่งการให้ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำโดย พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผบก.สอท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.4 สอท.1 ได้นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ เข้าตรวจค้นขยายผลกระจายสัญญาณแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ IP PBX (Internet Protocol Private Branch Exchange) ซึ่งร่วมการ สนับสนุนข้อมูลทางด้านเทคนิคของ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการภูมิภาค ภาคตะวันออก AIS และ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ กสทช.(พระพาย) จำนวน 5 นาย

        โดยผลการตรวจค้น จำนวน 14 จุด 16 ห้องพัก สามารถตรวจยึดเครื่อง IP PBX จำนวน 101 เครื่อง, router WiFi จำนวน 46 เครื่อง และ พบผู้ต้องสงสัยที่ดูแลสถานที่ดังกล่าวได้ 1 ราย ซึ่งจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343, 83 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และนําเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14(1) มีอัตราโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และ ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร” ต่อไป


คลิปวิดีโอ