วันศุกร์ ที่ 20 กันยายน 2567 07:50น.

หลากมุมมอง “เที่ยว กิน ดื่ม”-ททท.หวังดึง นทท.25 ล้านคน โกยเงิน 1.5 ล้านล้านบาท

20 พฤศจิกายน 2023

        หลายมุมมอง ท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายปลายปี ททท. หวังนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25-30 ล้านคน ทำรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท ยอมรับวัฒนธรรมไทย “กิน ดื่ม” ดึงต่างชาติเที่ยวไทย 

        ศ.(พิเศษ) ดร.นพ. กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัย เกริก กล่าวในเวทีเสวนา “มิติใหม่ เที่ยวไทย กับวัฒนธรรม กินดื่ม” ว่า ปัจจุบัน เทรนด์ดูแลสุขภาพในยุคใหม่ ในฐานะผู้เป็นหมอ ผู้เชี่ยวชาญอนามัยโลก กล่าวว่า การกินอาหารอย่างเหมาะสม มีสติ การออกกำลังกายเหมาะสมตามวัย ยอมรับว่า วัฒนธรรมไทย มักดื่มเพืออฉลองชัยชนะ เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆ จึงมองว่า นโยบายการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงใน จังหวัด กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ และภูเก็ต เหมาะสมต่อบริบทของสังคมยุคใหม่ ส่งเสริมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องการเข้ามาพักผ่อน ยอมรับว่า เมื่อดูแลให้อยู่ในกรอบเหมาะสม ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบกฎหมาย จะสร้างรายได้ต่อการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมาก เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ

        นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเทียวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การท่องเที่ยวของไทยในปี 65 มีรายได้ 5 แสนล้านบาท ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 11.5 ล้านคน  ส่วนนักท่องเที่ยวในประเทศ 189 ล้านคนครั้ง ทำรายได้ ในปี 66 ตั้งเป้าหมาย นักท่องเที่ยวต่างชาติ 25-30 ล้านคน ทำรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท อันดับแรกได้แก่นักท่องเทียวจาก มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ อินเดีย และรัสเซีย ส่วนนักท่องเที่ยวในประเทศ 135 ล้านคนครั้ง ใช้จ่าย 880,000 ล้านบาท เหลือเพียง 1 เดือน เป็นช่วงไฮซีซั่น มองว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น เพราะ ททท. จัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหลากหลาย รวมทั้งการดูแลสุขภาพ ทำให้ไทยท่องเที่ยวได้ 365 วัน ตลอดทั้งปี

        สําหรับนโยบายของรัฐบาล เพื่อขยายเวลาการเปิดธุรกิจสถานบริการจากเทียงคืนถึงตี 2 นั่งทานต่อได้ถึงตี 4 ในบางพื้นที่ และนโยบาย วีซ่าฟรีให้กับหลายๆ ประเทศ จะทําให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่ม นับว่าเพิ่มความมันใจให้ชาวต่างชาติต้องการกลับมาท่องเทียวได้อีกครั้ง การท่องเที่ยวด้านอาหาร ตามหาร้านอร่อย หรือเรียนการทำอาหารไทย ทำให้ ททท. สนับสนุนการท่องเทียวเชิงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง หวังให้เกิด Greatest Change ด้วย Soft Power of Thailand รายได้ของนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยใช้เงินถึงร้อยละ 20 ของเงินสำหรับท่องเที่ยว นับว่าการเข้ามาทานอาหารไทย เป็นอันดับหนึ่งมากกว่ากิจกรรมอื่น นับว่า ต่างชาติเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวไทย อยากกินอะไร มีลองรับให้หมด ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ สนใจเข้ามาท่องเที่ยวไทย มีการบอกต่อ ไม่เหมือนกับต่างชาติ ไทยมีสถานที่ตามหาร้านอาหารสดเด็ด ถือว่าเป็นตัวแปลสำคัญ

        รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการทางด้านกฎหมาย กล่าวว่า รัฐบาลจะเขียนกฎหมายอย่างไรก็ได้ แต่ขอให้บังคับกฎหมายให้ชัดเจน หรือวางภาพลักษณ์ของประเทศ อย่างไร จึงอยากให้รัฐบาลได้ศึกษานโยบาย ทั้งในส่วนของข้อดีข้อเสีย ก่อนตัดสินใจการ เลือกพื้นที่นําร่องในเขต กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ และภูเก็ต อาจมองว่าทำเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือไม่ เพราะพื้นที่ดังกล่าว แพ้การเลือกตัังทั้งหมด จึงอยากให้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน เช่น ผู้ประกอบการ และกิจการที่เกี่ยวข้อง หากรัฐบาลยังไม่ได้ทํา ไม่จําเป็นต้องรีบขยายเวลาเปิดในเดือนธันวาคม สามารถทยอยเปิดได้าภายหลัง และไม่ควรชวนนักท่องเที่ยว มากินดื่มอย่างเดียว เพราะไทยมีจุดแข็งหลายด้าน ทั้งวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ขนบประเพณี นับเป็นซอฟท์ พาวเวอร์ ดีว่าการชวนมา“กิน ดื่ม” เพียงอย่างเดียว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ดีกว่าขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงแน่นอน

        นายดํารงค์เกียรติ พินิจการ เลขานุการสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิง และการท่องเที่ ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า การขอขยายเวลาปิดสถานบันเทิง เป็นสิ งที่ ผู้ประกอบการพยายามมาตลอด การแข่งขันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเยอะมาก หลายประเทศอย่างสิงคโปร์ เกาหลีใต้ หรือยุโรป ค่อนข้างผ่อนปรนเปิดบริการได้ถึงเช้า ตอบโจทย์ไลฟสไตล์นักท่องเที่ยวต่างชาติจึงอยากให้รัฐบาลขยายโซนนิ่ง เมืองพัทยา ปัจจุบันเมืองพัทยาเติบโตขึ้นมาก หากโซนนิ่ยังเท่าเดิมจะเกิดปัญหาการแอบเปิดสถานบันเทิงนอกโซน เพราะเมืองเติบโตขยายออกไปมาก การตรวจสอบดูแลได้ยาก ขณะนี้ ผู้ประกอบการสถานบันเทิงในพัทยา พร้อมเต็มที่รองรับการขยายเวลาเปิดบริการถึงตี 2 ผู้ประกอบการพร้อมดูแลเรื่องเสียงลำโพง กระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ ผู้ประกอบการต้องอยู่ในระบบ หลายหน่วยงานต้องดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวให้รอบ

        ผศ.ดร.สุทธิกร กิ่งแก้ว นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า นโยบายขยายเวลาสถานบันเทิงถึงตี 2 สามารถทําได้ แต่ต้องจํากัด โซนนิ่งให้ชัดเจน หากได้ผลดีสามารถขยายไปจังหวัดอื่นเพิ่มเติม จึงเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหาวัฒนธรรมการดื่มของผู้มีรายได้น้อย การ เข้าถึงการบริโภคสุราราคาถูกได้ง่าย จนเป็นบ่อเกิดความเสียหาย ทั้งด้านสุขภาพ สังคม และงบประมาณ เนื่องจากทุกวันนี้ โครงสร้างภาษีสุรายังมีความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะสุราขาวมีราคาเริ่มต้นเพียงถูก แต่ดีกรีความเมากับสูงมาก จึงเสอนปรับเพิ่มภาษี กลุ่มสุราราคาถูก โดยเฉพาะสุราขาวให้แพงขึ้น เพื่อช่วยลด การดื่มของคนมีรายได้น้อย เพราะ สุราขาวมีดีกรีสูงสุด แต่กลับถูกเก็บภาษีต่ำสุด ถูกกว่าภาษีเบียร์ ไวน์ สุราแช่ผลไม้ 


คลิปวิดีโอ