เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ประสบความสำเร็จจากการขายหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี โดยมียอดจองซื้อสูงเกินกว่าเป้าหมาย ปิดการขายด้วยมูลค่า 1,300 ล้านบาท สะท้อนความมั่นใจของผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่น่าพอใจ ภายใต้ความเสี่ยง “ระดับลงทุน” พร้อมเดินหน้าขยายโอกาสทางธุรกิจ สร้างการเติบโต รองรับธุรกิจท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจนและโดดเด่น
นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SHR’ ผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในเครือบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากล เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี ซึ่งเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปเป็นครั้งแรก ในระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 3 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โดยมียอดจองซื้อสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้บริษัทฯ ต้องนำหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติมหรือ Greenshoe option มาใช้เพื่อรองรับความต้องการจากนักลงทุน รวมมูลค่าหุ้นกู้ที่ขายได้จำนวน 1,300 ล้านบาท
“บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนที่ไว้วางใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ รวมถึงขอบคุณสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ที่นอกจากจะอำนวยความสะดวกเรื่องข้อมูล ยังเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายหุ้นกู้เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น สำหรับปัจจัยสนับสนุนความสำเร็จของการเสนอขายในครั้งนี้มาจากผู้ลงทุนมีความมั่นใจในโอกาสขยายธุรกิจของ SHR ตามภาพรวมการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนและโดดเด่น รวมถึงการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล ที่พร้อมจะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ในฐานะบริษัทในเครือ “สิงห์ เอสเตท”” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SHR กล่าว
ทั้งนี้ บมจ. เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เป็นบริษัทในเครือของ สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโรงแรมที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีผลการดำเนินงานโดดเด่นในปีที่ผ่านมา โดยมีพอร์ตโฟลิโอของโรงแรมและรีสอร์ทที่มีมาตรฐานระดับโลกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารและลงทุนในโรงแรมและรีสอร์ทคุณภาพสูงในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วโลก โดย SHR ได้พัฒนาไลฟ์สไตล์แบรนด์ SAii (ทราย) ของตนเองขึ้นมาในประเทศไทยและมัลดีฟส์ ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแขกผู้เข้าพักในด้านการส่งมอบประสบการณ์และการบริการอันยอดเยี่ยม ด้วยบุคลิกแบรนด์ที่สนุกสนาน ภายใต้แนวคิดการผสานจุดแข็งที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย อาทิ ความมีน้ำใจ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความเป็นมิตร ควบคู่ไปกับความคิดสร้างสรรค์ และกลิ่นอายของจุดหมายปลายทาง โดยนอกจากแบรนด์ SAii แล้ว SHR ยังเป็นพันธมิตรกับแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งในตลาดของตน โดยในปี 2566 บริษัทฯ มีโรงแรมทั้งสิ้นจำนวน 38 แห่ง จำนวน 4,552 ห้อง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั่วโลก
ด้าน นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สิงห์ เอสเตท หรือ ‘S’ กล่าวว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนที่ให้การตอบรับหุ้นกู้ SHR ทำให้สามารถปิดการขายได้เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เช่นเดียวกันกับหุ้นกู้ S ที่เคยได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ลงทุนมาแล้ว ซึ่งทั้งหมดสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน ที่มั่นใจในศักยภาพของทั้ง S และ SHR ที่พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป