วันเสาร์ ที่ 23 พฤศจิกายน 2567 21:32น.

“เซ็นทรัลพัฒนา” ทุ่มงบการตลาดกว่า 1,000 ล้านบาทใน 3 ปี ด้วยกลยุทธ์ ‘Scaling Up Your Business’ 

30 กันยายน 2021

        บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกของไทย ตอกย้ำผู้นำรีเทลไทย ปั้นโมเดลธุรกิจใหม่ มุ่งมั่นเคียงข้างพันธมิตรธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ชูกลยุทธ์ ‘Scaling Up Your Business’ ด้วยการทำ Data-Driven Retail Marketing พร้อมสนับสนุนยอดขายให้พันธมิตรร้านค้าด้วยงบการตลาด 1,000 ล้านบาทใน 3 ปี โดยผสาน จุดแข็งของเซ็นทรัลทั้งการพัฒนาศูนย์การค้าในเมืองเศรษฐกิจหลักถึง 34 สาขา รวมถึงลงทุนต่อเนื่องด้วยมาตรฐานที่ดีของ Services & Facilities และ Central Group Synergy ช่วยให้พันธมิตร scale up ธุรกิจอย่างรวดเร็ว พร้อมติดอาวุธในการเข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่ด้วย Data Insights ของ The 1 ซึ่งเป็น Digital Lifestyle & Loyalty Platform อันดับหนึ่งของประเทศ ผ่าน The 1 Partner Platform หรือ The 1 Biz มุ่งเน้น Tenant-Centric ในการสนับสนุนและยกระดับการทำธุรกิจพันธมิตรธุรกิจทุกระดับ ในการเพิ่มยอดขายและ scale up ธุรกิจ สร้างแรงกระเพื่อมให้กับเศรษฐกิจทั้งประเทศ
งานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหาร นำโดย ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด และนายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขาย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย นายระวี พัวพรพงษ์ Head of Corporate Affairs and Relationship, The 1

        ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้คือ การสร้างเศรษฐกิจประเทศไปสู่การทำ Retail Marketing แห่งอนาคตที่สามารถทำให้พันธมิตรคู่ค้าทุกระดับของเซ็นทรัลพัฒนาเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน เซ็นทรัลพัฒนาจับมือเคียงข้างกับพันธมิตร เป็น Drive Force ในการสร้าง Scale-up Business Ecosystem ที่แข็งแกร่งและดีที่สุดที่จะสร้างโอกาสให้พันธมิตรผู้ประกอบการของเราที่มีอยู่จำนวน 15,000 รายทั่วประเทศสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับมหภาคทั่วประเทศได้”

        “เราได้พัฒนา Business Model ขึ้นมาใหม่สำหรับพันธมิตรธุรกิจ พร้อมวางเป้าหมายใน 3 ปี ด้วยงบการตลาด 1,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนธุรกิจของพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เน้นการสร้างจุดต่างและจุดแข็งของการเป็นศูนย์การค้าด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1) ENABLE to scale up your business ผลักดันการขยายธุรกิจไปกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลอันแข็งแกร่งกว่า 34 สาขาทั้งในและต่างประเทศ, 2) ENSURE excellent services, facilities and synergies ที่รองรับการเริ่มต้นและเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ และ3) EMPOWER with Big Data ด้วยการเข้าร่วมใน Ecosystem ของ The 1 ซึ่งเป็น Digital Lifestyle & Loyalty Platform อันดับหนึ่งของประเทศ” ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าว

        กลยุทธ์ที่ 1: ENABLE to scale up your business จากทราฟฟิกลูกค้ามากมายมหาศาล การทำธุรกิจให้มีความยั่งยืน การทำ Brand Experience และการมีหน้าร้านยังคงมีความสำคัญในเชิง กลยุทธ์ต่อการสร้างแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งจะเห็นได้จากเทรนด์ค้าปลีกและ E-Commerce ยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้ขยายจากออนไลน์มาสู่ออฟไลน์เพื่อมอบประสบการณ์จริง ที่ยากจะสัมผัสได้ทางออนไลน์อย่างเดียวให้กับลูกค้า ซึ่งจุดแข็งของการมีศูนย์การค้าทั่วประเทศของเรา ประกอบกับความแข็งแกร่งของ Anchor ต่างๆ ที่เป็น magnet ของกลุ่มเซ็นทรัล จะช่วยส่งเสริมธุรกิจของพันธมิตร

        นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขาย บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เผยว่า กลยุทธ์ที่ 2: ENSURE excellent services, facilities and synergies ถือเป็นหัวใจของร้านค้าและแบรนด์ต่างๆ ในการทำธุรกิจร่วมกับศูนย์การค้า คือ การมี services & facilities ส่วนกลางที่พร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเสมอ ศูนย์การค้าเองมีการลงทุนในด้านต่างๆ ที่จะช่วยซัพพอร์ตธุรกิจของคู่ค้า ทำให้ scale up ได้รวดเร็วกว่าการทำสาขาสแตนด์อโลน ไม่ว่าจะเป็นด้าน Hygiene & Safety Facility, แผนการตลาดช่วยดันยอดขายและช่วยในการสร้างแบรนด์, การทำ CRM Marketing รวมไปถึง Knowledge & Know-how อาทิ หลักสูตร Retail Academy และ CPN Lead ส่งเสริม SMEs ต่างๆ จาก Ecosystem ในเครือเซ็นทรัล

        ตลอดระยะเวลา 40 ปีในการทำธุรกิจ เซ็นทรัลพัฒนาเรายึดหลัก Tenant-Centric มาโดยตลอด พันธมิตรธุรกิจหลายรายเติบโตมาด้วยกันจนเข้าตลาดหุ้นได้ หลายแบรนด์เชื่อมั่นและเลือกเปิดกับเราเกือบทุกสาขาไม่ว่าศูนย์การค้าเซ็นทรัลจะไปเปิดที่ไหน และยังมีกลุ่มแบรนด์ใหม่ที่ต้องการบุกตลาดใหม่ ก็สามารถ Scale up ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ไปจนถึงกลุ่ม E-Commerce ที่ขยายจากออนไลน์มาเปิดหน้าร้านกับเราเพื่อสร้างประสบการณ์ครบวงจรให้กับลูกค้า”

 

        ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าวถึงกลยุทธ์ต่อไปเพิ่มเติมว่า “สำหรับกลยุทธ์ที่ 3: EMPOWER with Big Data เรามีพาร์ทเนอร์ในเครือที่แข็งแกร่งอย่าง The 1 ซึ่งเป็น Digital Lifestyle & Loyalty Platform อันดับหนึ่งของประเทศ ด้วยจุดแข็งของการเป็น Established Database ตัวจริงในวงการรีเทลมากว่า 15 ปี ซึ่งในส่วนการทำ CRM ระดับนี้หากแบรนด์ต้องลงทุนเองนับเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาล ในขณะนี้เรามีสมาชิก The 1 อยู่แล้วทั่วประเทศกว่า 18 ล้านคน มีสมาชิกที่ใช้งาน active สม่ำเสมอสูงถึงกว่า 8.4 ล้านคนต่อปี รวมถึงมีการสะสมคะแนนกว่า 14,000 ล้านคะแนนต่อปี นอกจากนี้เรายังมีอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยร้านค้าเข้าถึงศักยภาพตรงนี้นั่นคือ ‘The 1 Biz’ นั่นคือลูกค้าจะสามารถใช้จ่ายที่แบรนด์ร้านค้าที่เข้าร่วมและสามารถรับและแลกคะแนนได้ การที่ร้านค้าได้เข้ามาอยู่ใน Ecosystem นี้จะสามารถทำ CRM ได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งจะดึงดูดลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า และสร้างฐานลูกค้าที่ advocate ได้”

        ด้านนายระวี พัวพรพงษ์ Head of Corporate Affairs and Relationship, The 1 กล่าวว่า การที่ The 1 ได้เข้ามาร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนา Scaling Up ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและใหญ่ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดประตูด่านแรกเข้าสู่โลกแห่งบิ๊กดาต้าอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ซึ่งจะช่วยร้านค้าและแบรนด์ให้เข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น สามารถออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาดในการจับกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำ วัดผลได้ และสร้างยอดขายได้จริง โดยจุดแข็งของ The 1 ที่จะช่วยติดสปีดให้กับธุรกิจ

        ด้าน ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวสรุปว่า “เรามองว่า Business Model ใหม่นี้จากการผนึกกำลังของเซ็นทรัลพัฒนา ร่วมกับ The 1 และธุรกิจต่างๆ ของกลุ่มเซ็นทรัล และพันธมิตรร้านค้าของเราที่มีกว่า 15,000 รายทั่วประเทศ จะเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนประเทศและ Springboard ประเทศได้ โดยมีเป้าหมายภายใน 3 ปีสร้างความสำเร็จให้กับพันธมิตรคู่ค้าด้วย Data-Driven Retail Marketing โดยแคมเปญการตลาดของศูนย์การค้าเซ็นทรัลจะช่วยร้านค้าให้ทำ Personalized Offer ได้แบบเรียลไทม์ และทำ Targeted Campaign ของร้านค้าแต่ละร้านได้อย่างเจาะลึกและแม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อเป้าหมายในการสร้างยอดขายให้พันธมิตรธุรกิจในระยะยาวและยั่งยืน”


คลิปวิดีโอ