AWC จับมือ “Koelnmesse” ผู้จัดงานแสดงสินค้าชั้นนำระดับโลกจากเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี และเป็นผู้จัดงาน Anuga งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกที่มีบริษัทเข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 7,000 ราย ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายค้าส่งของ AWC (WHOLESALE ECO-SYSTEM) สู่เครือข่ายระดับโลก พร้อมเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่เชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายในตลาดระดับภูมิภาคและต่างประเทศผ่านฐานเครือข่ายของ AWC และ Koelnmesse โดยการร่วมมือนี้ยังช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น “ครัวโลก” ควบคู่การสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมค้าส่งของไทย ทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับโลก
นอกจากนี้ AWC ยังร่วมสนับสนุนงานแสดงสินค้า “THAIFEX-HOREC Asia” ที่เน้นด้านธุรกิจโรงแรม ซึ่งต่อยอดมาจากงานแสดงสินค้า THAIFEX-ANUGA Asia ผ่านเครือข่ายโรงแรมชั้นนำระดับโลกภายใต้ AWC โดยงาน THAIFEX-HOREC Asia จะนำเสนอเทรนด์และนวัตกรรมต่างๆ ของธุรกิจโรงแรมและการบริการ และจะช่วยกำหนดทิศทางของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่และงานบริการจัดเลี้ยง (HORECA) ของตลาดเอเชียในอนาคต พร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และสานต่อยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของโลก ซึ่งงานแสดงสินค้า “THAIFEX-HOREC Asia” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม 2567 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “การร่วมมือระหว่าง AWC และ Koelnmesse นี้ จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายแบบไร้ขีดจำกัด พร้อมส่งเสริมประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการสรรหาสินค้าระดับโลก ทั้งนี้ AWC มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Koelnmesse หนึ่งในผู้จัดงานแสดงสินค้าชั้นนำระดับโลก เพื่อร่วมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายค้าส่งของ AWC (WHOLESALE ECO-SYSTEM) สำหรับ เออีซี ฟู้ด โฮเซล ประตูน้ำ (AEC Food Wholesale Pratunam) เออีซี เทรด เซ็นเตอร์ (AEC Trade Center) และ PhenixBox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงการซื้อการขายจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ (Omni Channel) รวมถึงโมเดลการจัดกิจกรรมในรูปแบบอีเว้นท์ โดยทั้งสององค์กรจะร่วมรวมพลังเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ AWC ที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการโรงแรมที่มีชื่อเสียงในระดับสากล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้กลุ่มธุรกิจทีซีซีและพันธมิตรต่างๆ ร้านอาหาร ผู้ค้าส่ง และซัพพลายเออร์ มาเชื่อมต่อกับผู้แสดงสินค้าและผู้ซื้อจากเครือข่ายระดับโลกของ Koelnmesse รวมถึงการร่วมมือกันพัฒนาโมเดลธุรกิจการค้าส่งแห่งอนาคต”
ทั้งนี้ ความร่วมมือกับ Koelnmesse จะช่วยเพิ่มฐานเครือข่ายค้าส่งของ AWC โดยมีพันธมิตรชั้นนำทางด้านธุรกิจอาหารจากภาครัฐและเอกชนที่ได้ร่วมรวมพลังขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ศูนย์กลางค้าส่งอาหารของภูมิภาคเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาทิ หอการค้าจากประเทศต่างๆ อี้อู (Yiwu) Ant Group บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จํากัด (มหาชน) บริษัท เบทาโกร จํากัด (มหาชน ) บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ข้าวมาบุญครอง จำกัด บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รวมถึงกลุ่มธุรกิจทีซีซี และโรงแรมในเครือ AWC
นายแมธเธียส คูเปอร์ กรรมการผู้จัดการและรองประธาน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Koelnmesse กล่าวว่า “Koelnmesse รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ AWC ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้จะเสริมสร้างคุณค่าที่ทั้งสององค์กรมีร่วมกัน พร้อมสร้างความโดดเด่นและส่งเสริมประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าส่งชั้นนําในระดับภูมิภาคผ่านเครือข่ายและช่องทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ที่แข็งแกร่งของ AWC และ Koelnmesse นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมมือกันพัฒนาการบริการต่างๆ สําหรับผู้จัดแสดงสินค้าและผู้ซื้อภายในงาน THAIFEX-HOREC Asia และ THAIFEX-ANUGA Asia อีกด้วย เราเชื่อว่าพันธมิตรทุกท่านในเครือข่ายค้าส่งของทั้งสององค์กรนี้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร การโรงแรมและการบริการจะได้รับคุณค่าและประโยชน์อย่างมากจากการร่วมมือกันในครั้งนี้ อีกทั้งได้มีส่วนสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการค้าส่งชั้นนําในระดับภูมิภาค”
“ด้วยการรวมพลังกับพันธมิตรและผู้นำธุรกิจทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชน ผสานกับความร่วมมือระหว่าง AWC และ Koelnmesse ที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน ทาง AWC เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเครือข่ายค้าส่งได้อย่างครอบคลุม โดยจะเริ่มจากธุรกิจการค้าส่งด้านอาหารเป็นลำดับแรก และขยายโอกาสทางธุรกิจในหมวดสินค้าอื่นๆ ในเฟสที่สอง ที่เออีซี เทรด เซ็นเตอร์ ประตูน้ำพระอินทร์ ทั้งนี้ AWC จะร่วมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมค้าส่งของประเทศไทย ตอบโจทย์อนาคตครบวงจรกับโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายแบบไร้ขีดจำกัด ควบคู่ไปกับการร่วมขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าขายผ่านการพัฒนาอุตสาหกรรมค้าส่งทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก สนับสนุนประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการสรรหาสินค้า (international sourcing hub) ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในระดับภูมิภาค” นางวัลลภา กล่าวทิ้งท้าย
