RML ตอกย้ำนโยบายส่งเสริมแนวคิดด้านนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนภายใต้แนวคิด Reimagining Sustainable Living ที่ครอบคลุมทั้งด้านการประหยัดพลังงาน การรักษาสิ่งแวดล้อม และการออกแบบเพื่อความยั่งยืน พร้อมชูจุดเด่นของ OCC (One City Centre) อาคารสำนักงาน Grade A+ ที่มีพื้นที่สีเขียวหน้าโครงการที่มอบโอกาสใกล้ชิดสิ่งแวดล้อมกว่า 3 ไร่ ให้คนเมืองอย่างอิสระ ทั้งยังเป็นหนึ่งในอาคารสำนักงานไม่กี่แห่งในไทย ที่มีสวนหย่อมภายในอาคารสำหรับบุคลากร
นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RML กล่าวว่า “RML ให้ความสำคัญกับนโยบายการมีความรับผิดชอบ ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเสมอมา เราสร้างสรรค์นโยบายภายในองค์กร และแนวทางการพัฒนาโครงการของเราให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายดังกล่าว เริ่มตั้งแต่การออกแบบโครงการ การเลือกวัสดุก่อสร้าง รวมถึงการเลือกใช้นวัตกรรมสมัยใหม่เพื่อผลักดันให้นโยบายด้าน Green & Sustainability เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมสามด้านสำคัญ ได้แก่ การประหยัดพลังงาน การรักษาสิ่งแวดล้อม และการออกแบบ โดยนำไปประยุกต์ใช้ในเกือบทุกโครงการของเรา เช่น
การประหยัดพลังงาน โดยการใช้กระจก 2 ชั้นในโครงการต่างๆ เช่น ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ และ เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ ซึ่งกันความร้อนจากภายนอกได้ดีกว่ากระจกธรรมดาเพื่อลดการใช้พลังงาน ติดตั้งระบบไฟฟ้ารองรับการใช้หลอดไฟแบบเอลอีดี ซึ่งทำให้ประหยัดไฟฟ้าได้ดีกว่าหลอดไฟฟ้าทั่วไป รวมถึงเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่ประหยัดพลังงาน
การรักษาสิ่งแวดล้อม มีระบบรีไซเคิลน้ำเสียเพื่อใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง เช่น การรดน้ำต้นไม้ทำความสะอาดพื้น ระบบบำบัดน้ำเสีย ก่อนปล่อยสู่บ่อบำบัดน้ำสาธารณะ ใช้ระบบห้องน้ำและสุขภัณฑ์แบบประหยัดน้ำ หรือการใช้สุขภัณฑ์แบบมีการกดน้ำเพื่อชำระเบาหรือชำระหนัก การรักษาต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีมาก่อนการพัฒนาโครงการ รวมถึงมีบริการเครื่องชาร์จประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV charger) ในที่จอดรถของโครงการ
การออกแบบ โดยวาง 50% ของพื้นที่เปิดของโครงการเป็นพื้นที่สีเขียว เช่น โรสวูด เรสซิเดนซ์เซส กมลา ที่มีพื้นที่สีเขียวกว่า 8 ไร่ รวมถึงสวนแนวสโลป และสวนตามพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ โดยเราออกแบบภาพรวมโครงการโดยคำนึงถึงผลกระทบแก่ชุมชนรอบโครงการ โดยจัดทำภาพ 3 มิติเชิงซ้อนเสนอแก่ชุมชนโดยรอบก่อนการขออนุญาตก่อสร้างโครงการอีกด้วย
และล่าสุดกับฐานที่มั่นใหม่ OCC อาคารที่คำนึงถึงด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของผู้ใช้งาน โดยได้รางวัลถึง 2 ชิ้น ได้แก่ LEED รางวัลมาตรฐานรองรับอาคารสีเขียว และโครงการแรกในไทยที่ได้รับรางวัล Fitwel 2 ดาว รางวัลที่รับรองด้านการออกแบบ จากกรมควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา และรางวัลการพัฒนาอาคารสำนักงานแห่งปี (Office Development of the Year) จากเวที Real Estate Asia Awards 2021 ในไทย ด้วยนวัตกรรมการจัดการโครงการที่โดดเด่นที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นเครื่องการันตีว่าเราให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้ใช้งานอาคาร
โดย OCC เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างความเป็นสากลและศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าด้วยกัน ทั้งยังเกิดประโยชน์ในแง่การใช้งานอย่างเป็นรูปธรรม เห็นได้จากแผงแนวเฉียงที่พาดอยู่บนส่วนหน้าของอาคาร (façade) ทำหน้าที่ลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่เข้าสู่อาคาร นอกจากนั้น ยังเป็นอาคารสำนักงานไม่กี่แห่งในประเทศที่มีพื้นที่สีเขียวบนตัวอาคาร และยังเปิดพื้นที่สีเขียวกว่า 3 ไร่ด้านหน้าโครงการให้คนทั่วไปเข้ามาพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย ตามความตั้งใจของเราที่อยากนำผืนป่ากลับคืนสู่เมือง เพิ่มโอกาสให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยพื้นที่หน้าโครงการ OCC ถูกออกแบบให้เปิดโล่ง ด้วย Urban Stage เป็นบันไดทางเดินสีเขียวชอุ่มเข้ามายังด้านในโครงการ เพื่อให้พื้นที่หน้าอาคารเต็มไปด้วยความร่มรื่นจากต้นไม้ฤดูกาล (Seasonal Tree) อย่างต้นกัลปพฤกษ์ ไม้มงคลที่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ใบไม้เขียวจะทยอยเปลี่ยนเป็นสีชมพู เพิ่มความร่มรื่นและสร้างบรรยากาศน่าพักผ่อนให้พื้นที่ยิ่งขึ้น
นอกจากนั้น สวนหน้าโครงการของ OCC ยังพร้อมเป็นพื้นที่ที่จะจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้กับผู้เข้าชม เราได้นำผลงานประติมากรรมของ “คุณโด่ง-พงษธัช อ่วยกลาง” ศิลปินเเถว หน้าของเมืองไทย ผู้มีชื่อเสียงด้านผลงานประติมากรรมขนาดใหญ่ติดตั้งในสถานที่ชั้นนำต่างๆ มากมายทั้งในและต่างประเทศ โดยผลงานที่จัดแสดงได้รับแรงบันดาลใจจากธาตุในธรรมชาติที่อยู่คู่กับผู้คนผ่านการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม คือ ‘ลม’ ผ่านประติมากรรมสื่อสัญลักษณ์ ลม และอากาศ และ ‘ดิน’ ผ่านประติมากรรมสื่อสัญลักษณ์ หิน และดิน นำเสนอตัวตนของ RML และ OCC ที่แข็งแกร่งในด้านการเติบโตและศักยภาพขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา แต่ก็ยังคำนึงถึงการนำความเป็นธรรมชาติมาหลอมรวมไปกับการดำเนินชีวิตของผู้คน”
“ปัจจุบัน คนทั่วโลกเริ่มหันมาใส่ใจคุณภาพชีวิต และการดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น RML มองว่าการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นหนี่งในก้าวสำคัญที่ทุกองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อตอบสนองต่อภาวะการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ (Climate Change) ที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ โดยเราเชื่อว่าถ้าสามารถเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายภายในบริษัท หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา ก็จะสามารถส่งต่อแนวคิดนี้ให้กระจายไปในวงกว้างได้” กรณ์ กล่าวทิ้งท้าย